ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ในทริป เที่ยวฮอกไกโด 7 วัน พาชมบรรยากาศของเกาะเหนือแห่งญี่ปุ่นในหลายๆ เมืองดัง จะสวยน่าเที่ยวแค่ไหนต้องชมเลยค่ะ!
สักวันฉันจะไป..H O K K A I D O..
เที่ยวฮอกไกโด 7 วัน … 1 สัปดาห์ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ จากสนามบิน New-chitose ไปเมืองท่า Hakodate ระหว่างทางแวะเที่ยว Noboribetsu onsen ก่อน ไปพัก Lake Toya แล้วต่อด้วย Sapporo เพื่อเป็น Center เที่ยวเมือง Asahikawa-Biei ปั่นจักรยานสนุกๆๆๆ ตามหาทุ่งลาเวนเดอร์ แสนสวยที่ใครๆๆ ก็ต้องมา แล้วจบทริปฮอกไกโด at Otaru
เราเดินทางด้วย XJ 620 23.55 p.m.
Day 1 : ถึงประมาณ 9 โมงเช้า ออกมาปุ๊ปก็เจอ ตม.เลย รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วเดินมาถ่ายรูป Doraemon กันขำๆๆ แล้วหาข้าวซุปแกงกระหรี่ไก่แถวสนามบินทานกันก่อนเดินทางต่อ เดินมั่วๆๆ เห็นรูปน่าทาน ต่อแถวกะเค้าเลย
รสชาดดี แปลก อร่อยแฮ่ะ
ท้องอิ่มแล้ว ก็ไปกันเลยคะ เราจะไปพักที่ Lake Toya แต่ระหว่างทางแวะ Noboribetsu onsen ก่อน โดยใช้ Hokkaido Rail Pass 7 Days –> New chitose st. – Noboribetsu st.
พอถึงที่สถานี ก็ฝากกระเป๋า 500 เยน แล้วเดินออกด้านขวา มารอขึ้นรถบัสไปที่ Noboribetsu Onsen ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซื้อตั๋วแบบไปกลับ 620 เยน เพื่อเดินไป “หุบเขานรก” ใช้เวลาที่นี่ 2-3 ชม.
Jigokudani “หุบเขานรก” มีควันพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา วันนี้ไม่ค่อยมีกลิ่นกำมะถันนะ
เดินวนไปวนมาจนเจอบ่อน้ำพุร้อน ที่สามารถมายืนถ่ายรูปใกล้ๆ ได้ ถ่ายรูปกันพักนึง ก็เดินเล่น แวะร้านขายของที่ระลึกตามทางไปขึ้นรถบัส กลับไปสถานี JR เพื่อเดินทางต่อไปยัง Lake Toya โดยนั่ง JR Noboribetsu st. – Toya st. ใช้เวลา 39 นาที แล้วต่อแท็กซี่ 2,500 เยน (ค่าแท็กซี่แพงนะเนี้ยะ) ไปยัง Hanabi Toya Hotel ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น วิวทะเลสาบสวยมาก ที่นี่มีอาหารเย็น+อาหารเช้าให้ด้วยนะคะ
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ อากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น หรือจะล่องเรือชมทิวทัศน์ ช่วงนี้มีเทศกาลจุดพลุพอดี แช่ Onsen ดูพลุไป ชิลดีคะ
Day 2 : เที่ยวฮอกไกโด 7 วัน ในวันที่สอง ก่อนจะเดินทางไปยัง Hakodate เราไป ภูเขาไฟอุสุ (Usuzan) กันก่อน อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก เรา Checkout ลากกระเป๋าไปฝากที่สถานีรถบัส Toyako onsen 300 เยนเอง ที่นี่ค่าฝากกระเป๋าถูกอะ นั่งรถบัสคนละ 310 เยน ไปสุดสายที่ภูเขาไฟอุสุเลย ใช้เวลา 15 นาทีก็ถึงแระ เดินไปขึ้นกระเช้าไปกลับคนละ 1,600 เยน พอขึ้นไปถึงก็เจอทะเลหมอกสวยงามตามท้องเรื่องอ่า
จาก Toyako onsen Bus st. ไป Toya st. คนละ 340 เยน เพื่อนั่ง JR [Toya st.-Hakodate st.] ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เมืองท่าที่สำคัญของฮอกไกโด มีเสน่ห์จากการผสมผสานวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและตะวันตก ซึ่งสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิต และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เราพักที่ Smile Hotel อยู่ตรงข้ามสถานี JR เลยค่ะ เดินทางสะดวกมาก ไปถึงก็หิวเลย เดินไปหาไรทานที่ โกดังอิฐแดง (Kanemori) กันดีกว่า
ทานราเมงกันค่ะ แต่แอบเค็มไปนะ
โกดังอิฐแดง เย็นสบาย ชอบที่นี่มากคะ
ดื่มกาแฟชิลๆๆ เพลินๆๆๆ
Day 3 : มื้อเช้าแวะทานที่ Hakodate Asaichi Morning Market เราทานเช็ตข้าวปลาฮอกเกะ
ดื่มกาแฟกันที่ตลาดด้วยนะ Hot coffee จ้า
วันนี้จะไปเที่ยวป้อมดาว 5 แฉก (Fort Goryokaku) และ Cape Tachimachi กัน เดินทางด้วยรถบัสและรถราง จึงซื้อตั๋ว One day pass สามารถขึ้นได้ทั้งรถบัสและรถรางใน Hakodate ค่ะ One day Pass 1,000 เยน คุ้มมากค่ะ
เที่ยว ป้อมดาว 5 แฉก (Fort Goryokaku) ค่าบัตรเข้าชมคนละ 900 เยน
แล้วไปต่อที่ Cape Tachimachi ซึ่งจะต้องเดินผ่านสุสาน จนมาถึงทางเดินลง จุดชมวิวสวยมากอะ วิวหมอกปะทะภูเขา แล้วกำลังพัดพาความเย็นไปยังภูเขาฮาโกดาเตะ ใครมาก็ต้องถ่ายรูปนี้กัน
ลมแรงระดับ 10 นะคะ
นั่งรถรางกลับเหมือนเดิมคะ
เพื่อจะไปต่อภูเขาฮาโกดาเตะ Mount Hakodate แต่น่าเสียดาย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าบนภูเขาฮาโกดาเตะหมอกลงจัดมองไม่เห็นวิว เลยตัดสินใจไม่ขึ้นค่ะ เสียดายตังค์ กลับไปนอนพักผ่อนกันดีกว่า
ไม่ขึ้นได้กินไอศกรีมก็ยังดี 555
ช่างดีเหลือเกิน เราไปตรงกับวันเทศกาลจุดพลุของชาวเมืองฮาโกดาเตะ คนเยอะมากๆๆๆ ต่างพากันมานั่งรอชมพลุกัน
Day 4 : นั่ง JR Hakodate st.-Sapporo st. ยาวไปใช้เวลา 3.5-4 ชม. ไปถึงก็หิวอีกแล้ว ทานราเมงซัปโปโรที่ตึก Esta ออกจาก JR Sapporo เดินตามป้ายมาทาง ตึก Esta ชั้น 10 เป็นชั้นร้านอาหาร ราเมงซัปโปโรร้านดัง คนต่อคิวรอทานกันเลยค่ะ ชามใหญ่มากทานไม่หมดจีๆๆๆๆ
แล้วนั่งรถไฟใต้ดินไป Check in : Tobu Sapporo Hotel ต่อด้วยไป โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) ที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด คือ คุ้กกี้ Shiroi / ไอศกรีมวนิลาช็อค อากาศเย็นก็ยังจะกินไอศกรีม 5555
หอนาฬิกาโรงงานช็อคโกแลต
จบทริปวันนี้ที่เวลานี้ค่ะ เราพักแถว Sapporo TV Tower หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ของเมืองซัปโปโร เลยเจอกันทุกวัน ซึ่งการเดินทางใน Sapporo ใช้รถไฟใต้ดินเที่ยวละ 210 เยนมั้ง (ถ้าจำไม่ผิด)
Day 5 : เส้นทาง Sapporo-Asahikawa-Biei-Furano นั่ง JR Sapporo st.-Asahikawa st. ใช้เวลา 1 ชม. ไปถึงก็เดินออกตามหาร้าน ฮานะจัง : ข้าวหน้าหนวดปลาหมึก 400 เยน เดินไม่ไกลมากก็เจอ
คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักมากค่ะ ยิ้มแย้มต้อนรับ ใส่ใจลูกค้าค่ะ อิ่มแล้วเดินทางต่อไปบิเอะ (Biei) ปั่นจักรยานกัน
บิเอะ (Biei) เป็นเมืองเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้ากว้าง แนะนำให้ขี่จักรยานไฟฟ้านะคะ เพราะต้องขึ้นเนิน ไม่งั้นขาจะเดี้ยงได้ค่ะ พวกเราปั่นกันไปทางตอนเหนือเราเรียกว่า “Patchwork Road” มีทั้งทุ่งหญ้าสีเขียว ทุ่งข้าวบาเล่ย์สีเหลืองทอง สวยงามมากค่ะ
จาก Biei นั่งรถไฟ JR local ไป ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ตามหาทุ่งลาเวนเดอร์ (Lavender) กันต่อ
ชมความงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้ ช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มที่ ตามมาเลยค่ะ
ทุ่งลาเวนเดอร์ในฝันกับบรรยากาศยามเย็นจบทริปวันนี้แบบสวยๆๆๆ
Day 6 : เตรียมตัว Check out ลากกระเป๋าไป โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าเรือแบบโบราณขนาดเล็ก รักษาพื้นที่คลองไว้อย่างสวยงาม สะอาด และยังมีหมู่บ้านประมงปลาเฮอร์ริ่ง อยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโร โดยนั่ง JR sapporo st.-Otaru st. ประมาณ 1 ชม. ก็ถึง เราฝากกระเป๋ากันที่สถานี 600 เยนค่ะ ค่าฝากที่นี่แพงสุด แล้วนั่งรถบัสไปหมู่บ้านประมงปลาเฮอร์ริ่ง คนละ 310 เยน
หิวอีกแล้ว หาปิ้งย่างทานกัน
ขากลับจากโอตารุ นั่งรถไฟ JR Otaru st.-Chitose st. พร้อมลากกระเป๋ามาพักที่ Best Western Hotel ซึ่งใหม่ สะอาด ห้องพักสวยค่ะ ใกล้สนามบิน เพราะเรากลับ XJ 621 09.50 a.m. ต้องออกเช้ามากกก เป็นอันจบทริป เที่ยวฮอกไกโด 7 วัน ของเรา
ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ kungkring สังกัด Pantip จากกระทู้ [CR] สักวันฉันจะไป..H O K K A I D O.. ที่มามอบประสบการณ์ รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น ในทริปจัดเต็ม เที่ยวฮอกไกโด 7 วัน ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเลย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩