เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ทำการเปิดใช้รถไฟฟ้าชินคันเซนฮอกไกโด ทำให้สายรถไฟชินคันเซนในประเทศญี่ปุ่นเชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่ฮอกไกโด เรื่อยไปจนถึงคิวชูโน่นเลยล่ะค่ะ ใครที่ไปเที่ยวโตเกียวตอนนี้ อยากจะชะแว้บบบบไปฮอกไดโดก็ทำได้ง่ายๆแค่ประมาณสี่ชั่วโมง ชิลล์ๆ ได้เที่ยวทั้งโตเกียว ทั้งฮอกไกโดง่ายๆ โดยไม่ต้องขึ้นเครื่องบิน
วันนี้เรามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับฮอกไกโด ชินคันเซน มาฝากกันค่ะ
รถไฟ ชินคันเซน สายใหม่นี้ได้รับอนุมัติการสร้างมาตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ปีค.ศ.2005 และใช้เวลาสร้างกว่า 11 ปีจึงสำเร็จ ระยะทางที่พัฒนาทางเดินรถ คือ ตั้งแต่ปลายทางโทโฮคุชินคันเซน สถานีชินอาโอโมริ สร้างเพิ่มไปจนถึงสถานีชินฮาโกดาเตะ โฮคุโตะ เป็นระยะทางรวมประมาณ 149 กิโลเมตร สถานีที่จอดดูได้ตามรูปเลยค่ะ นอกจากนั้นญี่ปุ่นมีแผนพัฒนาต่อไปยังซัปโปโรอีกด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2030
ตัวรถไฟเป็นรุ่น E5 Series รุ่นเดียวกันกับที่สายโทโฮคุชินคันเซนใช้อยู่ สีสันก็เหมือนกันเลย ต่างกันตรงที่แถบสีของลำตัวรถที่มุ่งสู่ฮอกไกโดจะเป็นสีม่วง สีของทุ่งลาเวนเดอร์ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังของเมืองนี้
ห้องโดยสาร แบ่งเป็น 3 คลาส ได้แก่
1. Gran Class
Cr : jrhokkaido.co.jp
คลาสนี้จะเป็นห้องโดยสารที่หรูหราที่สุดของฮอกไกโดชินคันเซนค่ะ จะเห็นได้ว่าที่นั่งดูสบายมาก มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งไฟอ่านหนังสือ ปลั๊กไฟ บนโต๊ะอำนวนความสะดวกที่มีทั้งโต๊ะเล็ก และโต๊ะใหญ่ ตัวไฟอ่านหนังสือก็ปรับได้ทุกองศาตามใจชอบ ห้องโดยสารนี้ปูพรมสีน้ำเงินสือถึงมหาสมุทร และทะเลสาบที่รถไฟสายนี้จะเคลื่อนผ่าน ได้แรงบันดาลใจจากช่องแคบทสึการุ และอ่าวฮอกไกโดค่ะ
2. First Class
Cr : jrhokkaido.co.jp
ส่วนเฟิร์สคลาส อาจจะไม่หรูหราเท่าgran classแต่ก็นั่งสบาย มีเล็กๆและปลั๊กให้บริการเช่นกันค่ะ การตกแต่ง ได้รับแรงบันดาลใจจากทะเสสาบอุมิ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปกคลุมด้วยใบไม้ซึ่งมีน้ำแข็งเกาะ ส่วนสีครีมที่ผนังสื่อถึงผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นอีกหนึ่งในของขึ้นชื่อของฮอกไกโดค่ะ
3. Ordinary Class
Cr : jrhokkaido.co.jp
คลาสธรรมดาก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะคะ ที่ยั่งอาจจะเล็กและไม่มีขอบกั้นนิดหน่อย แต่ก็ยังมีโต๊ะและปั๊กสำหรับชาร์จแบต บนพื้นเค้าดีไซน์เป็นลายหิมะน่ารักๆด้วยค่ะ แถมยังสื่อถึงความหนาวเหน็บ และเทศกาลหิมะชื่อดังของฮอกไกโดที่ผู้คนอยากไปเยี่ยมเยือนกันสักครั้ง
มาที่เรื่องราคาค่าโดยสารกันบ้าง จากสถานีต้นทางเมืองโตเกียว ไปสุดสายที่สถานีชินฮาโกดาเตะ โฮคุโตะอยู่ที่ 22,960 เยน หรือประมาณเจ็ดพันกว่าบาทค่ะ แต่สำหรับใครที่ซื้อ JR Pass ตอนนี้เค้ามี JR East – South Hokkaido Pass ขายแล้วนะจ้ะ ราคาตอนนี้มีส่วนลดอยู่ที่ 26,000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 13,000 เยน สำหรับเด็ก ใช้ได้ 6 วัน ภายใน 14 วันหลังออกตั๋วเจอาร์พาสค่ะ ราคานี้เป็นราคาที่ซื้อได้นอกประเทศญี่ปุ่นนะคะ ส่วนใครไปซื้อที่สนามบินที่นู่น ราคาจะอัพขั้นเป็น 27,000 เยน และ 13,500 เยน ตามลำดับค่ะ
แต่มีข้อควรระวังสำหรับการไปเที่ยวสักนิดตรงที่ว่า สถานีปลายทางนี้ค่อนข้างอยู่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวนิดนึง และบริเวณรอบๆยังไม่ได้เปิดเป็นที่ท่องเที่ยวเท่าไรนัก นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจึงอาจจะต้องนั่งรถไฟโลคอลต่อไปอีก 20 นาทีถึงสถานีฮาโกะดาเตะนะคะ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในเมื่อสถานีนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ เรามาทำความรู้จักสถานีแห่งใหม่นี้กันดีกว่า
“สถานีชินฮาโกดาเตะ โฮคุโตะ”
รูปลักษณ์ภายนอกดูโมเดิร์น ตึกสีเทาเข้ม ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่
ส่วนด้านใช้โทนสีขาวที่ดูเรียบง่าย เพดานและผนังตกแต่งด้วยวัสดุอย่างไม้ และอิฐ ทำให้ดูเก๋ไก๋ อบอุ่น ทั้งยังโมเดิร์นเหมือนภายนอกอาคาร และหนึ่งในสัญลักษณ์ของสถานีนี้คือ….
รูปปั้นเคนชิโร่ ตัวละครในการ์ตูนโด่งดังอย่าง “หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ” หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นที่ว่า “โฮคุโตะ โนะ เคน” คุ้นๆมั้ยว่าเหมือนอะไร…เหมือนชื่อสถานีไงค่ะ ชินฮาโกดาเตะ “โฮคุโตะ” แฟนๆการ์ตูนเรื่องนี้ ถ้าผ่านมาสถานีนี้ อย่าลืมมาแชะภาพเป็นที่ระลึกนะคะ
นอกจากนั้นที่ชั้นหนึ่งของอาคารสถานียังมีร้านขายของที่ระลึกของจังหวัดฮอกไกโด และมีแกลลอรี่สเปซไว้ติดข่าวประชาสัมพันธ์อีเว้น หรือมินิคอนเสิร์ต
สำหรับนิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมโจมง และวัฒนธรรมไอนุที่เกี่ยวข้องกับเมืองฮอกไกโดก็มีจัดแสดงไว้ให้ได้เรียนรู้กันด้วยค่ะ
ขึ้นมาชั้นสองตรงส่วนที่ติดกับทางเข้ารถไฟชินคันเซนบ้าง โซนข้างๆนี้ก็จะมีศูนย์แนะนำการท่องเที่ยว ร้านอาหาร และโซนพักผ่อนค่ะ
โซนร้านอาหารและพักผ่อน เค้าตั้งชื่อเก๋ๆว่า “BENTO CAFÉ 41°GARDEN”
ขายเบนโตะบ๊อกซ์ที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น
เนื่องจากตัวชานชาลาอยู่ด้านล่าง จากชั้นสองเราจึงเห็นรถไฟแบบนี้ สวยงาม
ชานชาลาสำหรับชินคันเซน คือ หมายเลข 11 และ 12
ลงไปชานชาลากันค่ะ
ชินคันเซนที่ไปโตเกียวเข้าที่ชานชาลาหมายเลข 12 ส่วนสายที่มาสถานีนี้ อยู่ที่ชานชาลาหมายเลข 11
รถไฟมาแล้วววว….
ใครแวะไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมไปประเดิมนั่งชินคันเซนเส้นทางใหม่สายนี้กันดูนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Rocketnews และ Hakobura ค่ะ