ใกล้หยุดยาวแล้ว ไหนใครกำลังวางแผน เที่ยววันหยุด อยู่ยกมือ! ที่แน่ๆ มีพี่เห็ดหนึ่งคนล่ะ แต่ก่อนอื่นอย่าลืมเช็กวันลาให้ดีๆ ว่ามีวันลาพักร้อนเหลือกันเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละคนอาจมีวันลาไม่เท่ากัน บางคนหยุดติดกันได้ประมาณ 3, 5, 7 วัน หรือบางคนหยุดได้มากกว่านั้น ซึ่งถ้าใครมีวันหยุดน้อย ก็อาจมองประเทศไม่ไกลบ้านเรา เดินทางสะดวก ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ส่วนใครที่มีวันหยุดมากกว่านั้น ก็อาจจะ เที่ยวต่างประเทศ ทวีปอื่นๆ ได้ไกลมากกว่า ซึ่งก่อนไปเที่ยวก็ต้องวางแผนล่วงหน้าให้ดี ถ้าไม่อย่างนั้นจองช้าเกินไป ตั๋วเต็ม ทัวร์เต็มขึ้นมาแล้วจะเสียใจ อันดับแรกเราไปดู ปฏิทิน วันหยุดยาว 2025 ที่ มัชรูมทราเวล สรุปมาให้ชมกันก่อนเล้ยยย
เช็กวันหยุดยาวเรียบร้อยแล้ว ก็มาดูกันว่าวันลาที่เพื่อนๆ มีอยู่ จะไปเที่ยวประเทศไหนได้บ้าง พี่เห็ดแบ่งมาให้ดูง่ายๆ ดังนี้
หยุด 3 วัน
หากใครมีวันลาน้อยหน่อย ก็ เที่ยววันหยุด ในแบบระยะสั้น นั่งเครื่องบินใกล้ๆ ไม่เมื่อย เที่ยวแบบไม่เหนื่อยมาก นอนพักสองคืน เที่ยวสามวัน เช็กอินตามแลนด์มาร์กสำคัญๆ ซึ่งก็มีประเทศที่น่าสนใจอยู่หลายประเทศ ดังนี้
1. สิงคโปร์ (Singapore)
ช่วงหยุดยาวสิ้นปี หากใครไม่ชอบอากาศหนาวจัด แนะนำให้ไป สิงคโปร์ เพราะสภาพอากาศกำลังเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 – 30 องศาเซลเซียส เดินเล่นรอบเมืองได้แบบชิลๆ แถมยังใช้เวลาเดินทางจากบ้านเราไปแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ถึงแม้จะมีวันหยุด 3 วัน ก็ตามไปเช็กอินแลนด์มาร์กยอดฮิตครบแน่นอน ไม่ว่าจะไป เมอร์ไลออน พาร์ค (Merlion Park) เพื่อถ่ายรูปคู่กับ เมอร์ไลออน (Merlion) รูปปั้นครึ่งสิงโตครึ่งปลาพ่นน้ำ สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของสิงคโปร์ จากนั้นไป การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by The Bay) สวนพฤกษ์ศาสตร์ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ และพืชนานาพันธุ์ เป็นพื้นที่พักผ่อนกายใจให้กับชาวเมือง พอตกกลางคืนยังมีโชว์แสงสีและประดับไฟให้ชมด้วย แต่ถ้าใครชอบความสนุก ท้าทาย ต้องไป ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore) สวนสนุกในธีมหนังฮอลลีวูดแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาพร้อมเครื่องเล่นมันส์ๆ มากมาย สนุกได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีที่เที่ยวเยอะมาก แถมยังเดินทางง่าย สะดวกสบาย อาหารอร่อยๆ ก็มีให้เลือกเยอะ พร้อมด้วยวัดวาอารามให้เคารพสักการะ ทั้งยังถูกใจสายช้อปปิ้งอีก ครบเครื่องสุดๆ
2. เวียดนาม (Vietnam)
ไปกันต่อที่ เวียดนาม มีเวลาแค่ 3 วัน ก็เที่ยวได้เหลือเฟือ แถมยังเที่ยวได้หลากหลายเส้นทาง ไล่ตั้งแต่เหนือ – กลาง – ใต้ ซึ่งบรรยากาศและสภาพภูมิอากาศแต่ละเมืองก็จะแตกต่างกันไป ทำให้เที่ยวได้ตลอดทั้งปี อย่าง
1) เวียดนามเหนือ : ฮานอย – ซาปา – ฮาลองเบย์ สัมผัสธรรมชาติสวยๆ โอบล้อมด้วยภูเขา อากาศเย็นสบาย ตามไปเยือน หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) ชมนาขั้นบันไดที่รับประกันว่าสวยสมคำร่ำลือ ล่องเรือชมวิวท้องทะเล สำรวจ ถ้ำสวรรค์ (Paradise Cave) ถ้ำหินงอกหินย้อยสุดอัศจรรย์
2) เวียดนามกลาง : ฮอยอัน – เว้ – ดานัง สัมผัสกลิ่นอายของเมืองเก่าที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งยังเป็นเมืองมรดกโลกที่น่าไปเยี่ยมชม กิจกรรมห้ามพลาดคือ การนั่งเรือกระด้งที่หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Village) เรือไม้ทรงกลมที่จะโยกเยกไปมา สนุกสนานสุดๆ หรือจะไปพักผ่อนที่ บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) หมู่บ้านตากอากาศสไตล์ฝรั่งเศส ที่มีทั้งสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
3) เวียดนามใต้ : โฮจิมินห์ – ดาลัด – มุยเน่ ชวนกันไปถ่ายรูปชิคๆ ลงโซเชียลกันให้กระหน่ำ ท่ามกลางดอกไม้ที่บานสะพรั่งที่ สวนดอกไฮเดรนเยีย (Garden Hydrangeas) และ สวนดอกไม้เมืองหนาว (Dalat Flower Gardens) หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปชมความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่ ทะเลทรายแดง (Red Sand Dune) และ ทะเลทรายขาว (White Sand Dune) ก็แปลกใหม่ไปอีกแบบ ส่วนใครจะเที่ยวคาเฟ่ นั่งจิบกาแฟในเมืองแบบชิลๆ ก็มีร้านให้เลือกเพียบ
3. บาหลี – อินโดนีเซีย (Bali, Indonesia)
เที่ยววันหยุด 3 วันก็คุ้ม! พาไปเที่ยวเกาะ ให้หน้าสู้แดด ท้าสายลม นอนฟังเสียงคลื่นที่ บาหลี – อินโดนีเซีย เกาะเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม วีถีชีวิต และความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน แน่นอนว่าพิกัดฮิตที่มาบาหลีแล้วต้องไปคือ วัดเลมปุยางค์ (Lempuyang Temple) หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากจะได้เคารพสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชื่นชมความสวยงามของวัดสไตล์ฮินดูแล้ว ต้องแวะถ่ายรูปกับมุมยอดนิยมตรงประตูวัด ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟอากุง (Mount Agung) สวยอลังอย่าบอกใคร จากนั้นแวะ ภูเขาไฟบาตูร์ (Mount Batur) ชมความยิ่งใหญ่รังสรรค์โดยธรรมชาติ แล้วไปถ่ายรูปกับเกาะรูปไดโนเสาร์ชื่อดังที่ หาดเคลิงคิง (Kelingking Beach) เกาะรูปทรงแปลกตาจนต้องแชะภาพรัวๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำอีกเพียบ รับรองได้ว่าเล่นเพลินจนลืมเวลาแน่นอน
4. ฮ่องกง (Hong Kong)
ฮ่องกง อีกหนึ่งพิกัดที่อยู่ไม่ไกลจากไทย ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง แถมใครที่เป็นสายมูคงคุ้นเคยกันดี เพราะมีวัดดังๆ ให้ได้ไปขอพรเยอะมาก แถมยังเป็นแดนสวรรค์ของเหล่านักช้อปอีกด้วย ที่สำคัญช่วงปลายปีอากาศกำลังเย็นสบาย เดินช้อปปิ้งในเมืองกันเพลินๆ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 – 20 องศาเซลเซียส ยิ่งถ้าไปย่าน จิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก อาหารการกินหลากหลาย สินค้าแฟนชั่นเพียบ ซื้อของกลับบ้านกันไม่หวาดไม่ไหว พอช่วงเย็นๆ ไปรับลมหนาวที่ริม อ่าววิคตอเรีย (Victoria Harbour) ชมแสงสีเสียงสุดตระการตา พร้อมถ่ายรูปเช็กอินมุมยอดฮิต แต่ถ้าใครมาเที่ยวกับน้องๆ หนูๆ ต้องไม่พลาด ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) สวนสนุกระดับโลกสุดน่ารัก พร้อมเครื่องเล่นสุดท้าทาย ส่วนสายมูต้องไปกราบไหว้ พระใหญ่วัดโปหลิน (Polin Monastery) พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ประทับกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมเดินทางโดยการขึ้น กระเช้านองปิง (Ngong Ping 360) เพราะจะได้ชมวิวฮ่องกงแบบ 360 องศา เป็นระยะทางกว่า 5.7 กิโลเมตร ใครมีวันหยุดไม่เยอะ การมาเที่ยวฮ่องกงถือว่าตอบโจทย์เลย เพราะมีครบทุกอย่างจริงๆ
หยุด 5 วัน
หากใครมีวันหยุดเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย อยากให้ลองดูประเทศเหล่านี้ก่อน เพราะมีเวลาให้เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมกระเป๋ามากขึ้น เที่ยวแบบไม่ต้องเร่งรีบมาก ได้ดื่มด่ำบรรยากาศของแต่ละประเทศให้ฟินฉ่ำกว่าเดิม
5. จีน (China
นั่งเครื่องบินนานขึ้นอีกนิดเพื่อบินไป ประเทศจีน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเมืองปลายทางที่จะไปด้วย เพราะประเทศจีนมีพื้นที่กว้างขวางมาก มีหลากหลายมณฑล ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะตามไปด้วย อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง หลายพื้นที่มีสภาพภูมิอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะช่วงปลายปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -2 ถึง 7 องศาเซลเซียส บรรยากาศในเมืองใหญ่จะคึกคักมาก ไม่ว่าจะเป็น ปักกิ่ง (Beijing) เหมาะแก่การไปชมสถาปัตยกรรมอันงดงามที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์หลายชั่วอายุคน เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) มหานครที่เจริญที่สุดในจีน เดินทางง่าย เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวจีนครั้งแรก ถ้ามีเวลา 5 วัน เที่ยวได้แบบสบายๆ ส่วนใครอยากเจอหิมะฉ่ำๆ สัมผัสความหนาวสุดขั้ว แนะนำ ฮาร์บิน (Harbin) มีเทศกาลน้ำแข็งและหิมะที่จะจัดแสดงผลงานต่างๆ รวมถึงเปิดไฟสวยงามอลังการ หรือจะไปตามรอยสถานที่ถ่ายทำหนังชื่อดังอย่าง Avatar ที่หุบเขาอวตารในอุทยาน จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) สวยงามราวกับสวรรค์บนดิน และอีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยมก็คือ แชงกรีล่า-ต้าหลี่-ลี่เจียง เส้นทางนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ที่เที่ยวหลากหลาย เพราะมีตั้งแต่ภูเขาสูง ธารน้ำแข็ง ไปจนถึงที่ราบขั้นบันได มีครบทุกไลฟ์สไตล์ขนาดนี้ ก็ต้องจดลงลิสต์ไว้สักหน่อยแล้ว
6. ญี่ปุ่น (Japan)
ประเทศยอดฮิตและเป็นที่รักของชาวไทย ไปกี่ครั้งก็สนุกไม่ซ้ำทุกครั้ง กับ ญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย นั่งบนเครื่องบิน หลับๆ ตื่นๆ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แถมช่วงสิ้นปีสภาพอากาศหนาวเย็นจับใจ อุณหภูมิประมาณ 2 – 10 องศาเซลเซียส บางพื้นที่หนาวถึงขั้นติดลบ เที่ยวกันแบบแฮปปี้ ดีต่อใจ ยิ่งถ้ามีวันหยุด 5 วันแล้วล่ะก็ เต็มอิ่มอย่างแน่นอน แต่ต้องวางแผนเลือกเส้นทางเที่ยวให้ดีหน่อย เริ่มกันที่ใจกลางประเทศ โตเกียว (Tokyo) แหล่งรวมทุกความบันเทิง ช้อปปิ้งกันไม่ยั้งมือใน ย่านชิบูย่า (Shibuya) ชมวิวเมืองจากมุมสูงที่ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) แวะไปทักทายคุณฟูจิซัง พร้อมหาของอร่อยๆ กินกันที่ ตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji Fish Market) มีอาหารทะเลสดๆ มากมายให้ได้ลิ้มลอง โดยเฉพาะปลาทูน่าที่ขึ้นชื่อว่าตัวใหญ่ เนื้อแน่น หรือจะเลือกไปเที่ยวในแถบคันไซ โอซาก้า – เกียวโต (Osaka – Kyoto) เมืองใหญ่ที่แสนคึกคัก เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ พร้อมอาหารท้องถิ่นเจ้าเด็ดที่ต้องยกนิ้วให้ แต่ถ้าไปแถบคิวชู ฟุกุโอกะ (Fukuoka) จะได้เที่ยวเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมและความทันสมัยเข้าด้วยกัน สุดท้ายถ้าอยากสัมผัสหิมะนุ่มๆ ก็ต้องขึ้นเหนือไป ฮอกไกโด (Hokkaido) เล่นสกีกันให้ฉ่ำปอด พร้อมนอนแช่ออนเซ็นให้หายหนาว บอกได้เลยว่า เที่ยววันหยุด สุดฟิน จนอยากกลับมาเที่ยวอีกหลายๆ ทริปแน่นอน
7. เกาหลีใต้ (South Korea)
ใครอยากไป เกาหลีใต้ ตามรอยอปป้าในซีรีส์ มีวันหยุด 5 วันก็อิ่มอกอิ่มใจแล้ว ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง ไม่ใกล้เกินไป และไม่ไกลจนเสียเวลาขนาดนั้น แถมบรรยากาศยังโรแมนติกไม่แพ้ประเทศไหนๆ สภาพอากาศหนาวเย็นจับใจ ช่วงหน้าหนาว ณหภูมิประมาณ -10 ถึง 10 องศาเซลเซียส มีหิมะตกอยู่เรื่อยๆ ถ้าใครชอบเที่ยวในเมืองก็ต้องตะลอนใน กรุงโซล (Seoul) เมืองที่มีครบทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์อย่าง พระราชวัง วัด จุดชมวิว ร้านอาหาร คาเฟ่ สวนสนุก เทศกาลดอกไม้ รวมทั้งย่านช้อปปิ้งชื่อดัง มีครบทุกความต้องการ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และอาหารอร่อยๆ ถ้าลองขยับจากโซลไปอีกนิด อินชอน (Incheon) ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดไม่แพ้กัน สัมผัสธรรมชาติ สนุกสุดเหวี่ยงไปกับเล่นเครื่องเล่นสุดปั่นป่วนที่สวนสนุก หรือเดินชื่นชมงานศิลปะ ก็น่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าออกไปไกลอีกหนึ่งฟากฝั่งต้องนี่เลย ปูซาน (Busan) เมืองท่องเที่ยวทางตอนใต้ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาหลี บรรยากาศสวยงามทั้งชายหาด ท้องทะเล และภูเขา มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามอย่างแท้จริง จะจัดทริปเที่ยวเองก็คูล ไปกับทัวร์ก็คุ้ม!
หยุด 7 วันขึ้นไป
เที่ยวต่างประเทศ กันแบบจัดหนักจัดเต็ม ใช้วันลาพักร้อนให้เต็มอิ่มด้วยการไปเยือนประเทศที่มีความสวยงาม จนไม่อาจละสายตาได้ อาจใช้เวลานั่งเครื่องบินนานหน่อย แต่บอกได้เลยคุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนอย่างแน่นอน พี่เห็ดขอแนะนำ ดังนี้
8. ตุรกี (Turkey)
ถ้าอยากเห็นวิวที่จึ้งใจ บินนานแค่ไหนก็คุ้มค่า! บินไป ตุรกี ใช้เวลาอยู่บนเครื่องประมาณ 11 ชั่วโมง หยุดประมาณ 7 วัน ก็เที่ยวได้สบาย แถมคนไทยยังไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย ที่นี่มีธรรมชาติสวยสุดปังอลังการ พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ควรค่าแก่การเยี่ยมชม เดินเล่นชมเมืองก็เจอแต่อาคารบ้านเรือนสวยๆ เต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรม และประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล อย่าง มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถาปัตยกรรมสไตล์เปอร์เซียที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องและกระจกสีน้ำเงิน หรือ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) สถานที่ทางจิตวิญญาณที่เกิดจากการขุดเจาะภูเขาหินหลายลูก เพื่อสร้างเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ในสมัยก่อน แต่ไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดคือการไปเมือง คัปปาโดเชีย (Cappadocia) เพื่อขึ้นบอลลูนหลากสีไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ สัมผัสประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน แถมถ่ายรูปสวยสุดๆ ไปเที่ยวเองอาจจะเดินทางลำบาก แต่ถ้าไปกับทัวร์ก็สะดวกสบาย ไม่ต้องวางแผนเองให้ปวดหัว เพราะมีไกด์คอยนำทาง เที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไร ปล่อยจอยไปกับความสุขที่อยู่ตรงหน้าก็พอแล้วจริงๆ
9. จอร์เจีย (Georgia)
บินลัดฟ้าไปเยี่ยมชมความสวยงามทางธรรมชาติ พร้อมแหล่งอารยธรรมโบราณสวยงามที่สุดขอบทวีปเอเชียอย่าง จอร์เจีย ประเทศสองทวีป ที่ใกล้ทั้งเอเชียและยุโรป ใช้เวลาบินจากไทยประมาณ 11 ชั่วโมง เที่ยววันหยุด 7 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า ค่าครองชีพก็ไม่สูงมาก แถมสภาพอากาศเย็นสบาย เพราะโอบล้อมไปดูเทือกเขาต่างๆ แน่นอนว่าพิกัดแนะนำก็คือ เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) ที่ทำหน้าที่ตัดพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ในฤดูหนาวจะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน สวยงามมาก ไม่ไกลจากกันจะเห็น โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์อายุกว่า 600 ปี ที่สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ สวยงามโดดเด่นตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส โอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ที่สำคัญอยากให้แวะชม เมืองทบิลิซี (Tbilisi) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย อาคารบ้านเรือนสีสันสดใสให้ฟีลเหมือนอยู่ยุโรป ตึกเก่าเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เห็นแล้วอยากถ่ายรูปทุกมุม ทั้งยังมีอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ถ้าอยากรู้ว่าบรรยากาศสวยงามมากแค่ไหน ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง!
10. ยุโรป
สำหรับใครที่ปีนี้ยังไม่ได้กดปุ่มลาพักร้อน กักตุนมานาน ก็จัดเต็มไปเลยยาวๆ 7 วัน หรือถ้าหยุดได้มากกว่านั้นก็เที่ยวแบบจัดหนักจัดเต็มได้เลย เพราะเราจะบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเที่ยวฝั่งทวีป ยุโรป กันบ้าง ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 10 ชั่วโมง บางสายการบิน บางประเทศอาจมีการต่อเครื่องอีก อาจจะใช้เวลานั่งเครื่องยาวนานเป็นวัน แต่ถึงจะเดินทางนาน เมื่อถึงที่หมายก็หายเหนื่อย เพราะบ้านเมืองสวยสุดๆ อย่าง อังกฤษ (England) เมืองผู้ดีที่น่ามาเดินเล่นรับลมเย็นๆ แถวริมแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน แล้วปักหมุดไปตามจุดแลนด์มาร์กต่างๆ เช่น ลอนดอนอาย (London Eye) นั่งชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่และสูงที่สุดในยุโรป ชมวิวลอนดอนจากมุมสูงแบบเพลินๆ หรือ หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) พิกัดที่ถ้าไม่มา ก็เหมือนมาไม่ถึงลอนดอน แต่ถ้าใครเป็นสายแฟก็ต้องไป ฝรั่งเศส (France) ชมบรรยากาศสุดคึกคักใจกลางกรุงปารีส เดินลัดเลาะไปถ่ายรูปตรง หอไอเฟล (Eiffel Tower) ช้อปปิ้งแถว ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) ปิดท้ายด้วย ประตูชัย (Arc de Triomphe) ชมสถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยม บรรยากาศโรแมนติกเหมือนหลุดมาจากในหนังรักรอมคอม แต่อีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจคือ ยุโรปตะวันออก ไปกับทัวร์ก็แสนสะดวก เพราะจัดเตรียมวางแผนไว้พร้อมแล้วทุกอย่าง ประเทศฮิตๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ได้แก่ ประเทศออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี สโลวาเกีย โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม บรรยากาศในเมืองบ้านเรือนต่างๆ สวยคลาสสิคสมคำร่ำลือ แถมสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติก็สวยสะกด มีเสน่ห์ในทุกฤดู บางประเทศราคาไม่แพงมาก เที่ยวได้สบายๆ พี่เห็ดการันตีว่ามีแต่ความประทับใจ เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน
ไม่ว่าเพื่อนๆ แต่ละคนจะมีวันลาพักร้อนอยู่เท่าไหร่ มีมาก หรือมีน้อย ก็สามารถไป เที่ยววันหยุด ที่ต่างประเทศได้ พี่เห็ดเชื่อว่าการออกไป เที่ยวต่างประเทศ เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ชาร์จพลังให้กับตัวเองได้มีเรี่ยวแรงกลับมาทำงานที่เรารักกันต่อ ทำงานเก็บเงิน เพื่อหาทริปเที่ยวต่อไปเป็นความสุขที่วนลูปไม่รู้จบ