สัมผัสประสบการณ์ข้ามน้ำมุดทะเลไปกับ สะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า
สมัยก่อนถ้าไป ทัวร์ฮ่องกง มาเก๊า และเมืองจูไห่บนจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วต้องการที่จะข้ามไปมาระหว่างเมือง เราก็ต้องนั่งเรือเฟอร์รี่กว่า 3 ชั่วโมงเลยใช่ไหมคะ บางครั้งคลื่นลมแรงก็ออกเรือไม่ได้ ต้องรอให้เสียเวลาไปอีก รัฐบาลจีนเขาจึงเกิดไอเดียในการสร้างสะพานเพื่อตัดข้ามผ่านทะเลเชื่อมแต่ละที่เข้าด้วยกัน ทำให้เดินทางง่ายขึ้นด้วยรถยนต์ และช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางจาก 3 ชั่วโมง เหลือเพียงแค่ 30-45 นาทีเท่านั้น! แถมสะพานนี้ยังทุบสถิติเป็น สะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทาง 55 กิโลเมตร โห…เป็นยังไง สุดยอดเลยมั้ยล่ะ แล้ววันนี้ มัชรูมทราเวล จะพาไปทำความรู้จักกับ สะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ!
สำหรับโครงการ สะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า (Hong Kong Zhuhai Macau Bridge) ที่เชื่อมเขตปกครองพิเศษอย่าง ฮ่องกง มาเก๊า และจูไห่เข้าไว้ด้วยกันนี้ เริ่มสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2552 และเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 9 ปี ใช้งบก่อสร้างมากถึง 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6 แสนล้านบาท! โดยสะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาพื้นที่เกรตเตอร์ เบย์ (Greater Bay Area) ที่เชื่อมต่อมาจากโครงข่ายถนนเดิมของมาเก๊า-จูไห่ และจากฝั่งฮ่องกง โดยใช้เหล็กในการก่อสร้างสะพานถึง 420,000 ตัน ซึ่งสามารถนำไปสร้างหอไอเฟลได้อีกถึง 60 แห่งเลยทีเดียว นับว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดทางวิศวกรรมของจีนเลยล่ะค่ะ
ในส่วนของตัวสะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า นั้นถูกออกแบบให้มีลักษณะคดเคี้ยวเพื่อลดแรงคลื่นที่กระทำต่อเสาตอม่อสะพาน ทนต่อแผ่นดินไหวและไต้ฝุ่น โดยทางฝั่งตะวันตกของฮ่องกงจะมีการขุดอุโมงค์จากเกาะที่ถมขึ้นมาใหม่ โดยเป็นอุโมงค์ที่มุดลงใต้น้ำความยาว 6.7 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ก้นอ่าวราว 44.5 เมตร เพื่อให้เรือเดินสมุทรสามารถแล่นเข้า-ออกอ่าวฮ่องกงได้อย่างสะดวก และขึ้นเหนือน้ำอีกครั้งบนเกาะที่ถมขึ้นมา จากนั้นก็จะยกระดับทางเดินรถให้สูงขึ้นเป็นสะพาน และลดระดับลงสู่เกาะที่ถมทะเลขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งเกาะเพื่อเป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองสำหรับจูไห่ และมาเก๊า
สำหรับการคมนาคมบนสะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า มีทางวิ่งสำหรับรถยนต์ทั้งหมด 6 เลน แบ่งเป็นฝั่งละ 3 เลน ซึ่งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถบรรทุกสามารถวิ่งได้ตามปกติ โดยจะไม่มีขนส่งสาธารณะอย่างรถประจำทาง หรือรถไฟฟ้าให้บริการ แต่จะมีรถบัสรับส่งซึ่งเป็นของบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากทางการคอยให้บริการเท่านั้น โดยมีค่าบริการช่วงกลางวัน 58 หยวน (ประมาณ 290 บาท) และช่วงกลางคืน 63 หยวน (ประมาณ 315 บาท) ระหว่างการเดินทางก็จะได้ชมวิวของทะเลอันไกลโพ้น ราวกับว่าได้ลอยอยู่เหนือผิวน้ำเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้การเดินทาง ทัวร์ฮ่องกง มาเก๊า โดยใช้สะพานนี้ยังมีจุดแวะพักสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย เริ่มที่เกาะลันเตาของฮ่องกง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติฮ่องกง, สวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ รวมถึงยังสามารถนั่งกระเช้านองปิง 360 เพื่อชมความอลังการของ สะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า ได้จากมุมสูง ส่วนใครที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นแท้ๆ ก็สามารถแวะไปเที่ยวชมหมู่บ้านชาวประมงไทโอ ที่ชาวบ้านต่างพักอาศัยอยู่ในบ้านยกบนเสาสูงเป็นเอกลักษณ์
ต่อจากนี้ การไป ทัวร์ฮ่องกง มาเก๊า รวมถึงเมืองจูไห่ของจีน ก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะเลยล่ะค่ะ เราสามารถจัดสรรบริหารเวลาในการเที่ยวได้มากขึ้น แถมยังประหยัดเวลา ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีทัวร์ที่พาข้ามสะพานนี้ด้วยนะ ไม่ต้องนั่งรถต่อเรือหลายต่อให้เสียเวลา รับรองว่าเที่ยวสะดวกสบายขึ้นมากเลย
ขอบคุณภาพประกอบจาก : www.hzmb.gov.hk