@MushroomTravel
ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ รีวิว เที่ยวฮ่องกง มาเก๊า 2 เกาะในทริปเดียว 7 วัน 6 คืน ด้วยงบไม่แพง ใครสนใจตามเส้นทางไปได้เลยค่ะ!
สามารถชมรีวิวเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า ทั้ง 3 ตอน ได้จากลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ
ตอนที่ 1 HongKong-Macau 7 วัน 6 คืน ไปแบบลุยๆ เน้นเที่ยว (ไม่)เน้นกิน งบ 13,000 บาท (Day 1-3)
ตอนที่ 2 HongKong-Macau 7 วัน 6 คืน ไปแบบลุยๆ เน้นเที่ยว (ไม่)เน้นกิน งบ 13,000 บาท (เที่ยวเกาะ Po Toi)
ตอนที่ 3 HongKong-Macau 7วัน 6คืน ไปแบบลุยๆ เน้นเที่ยว (ไม่)เน้นกิน งบ 13,000 บาท (วันที่ 5-7 เที่ยว Macau)
HongKong-Macau 7 วัน 6 คืน ไปแบบลุยๆ เน้นเที่ยว (ไม่)เน้นกิน งบ 13,000 บาท (ตอนที่ 1 : Day 1-3)
รีวิว เที่ยวฮ่องกง มาเก๊า HONGKONG – MACAU งบไม่เกิน 13,000 บาท (รีวิวแบบละเอียด) เน้นเที่ยว เน้นประหยัด ไม่เน้นกิน
วันนี้เราจะพาไป เที่ยวฮ่องกง กัน 7 วัน 6 คืน
โอ้โห!! 7 วัน ทำไมถึงไป 7 วัน ฮ่องกงเยอะไปมั้ย
ใช่มันนานมาก 7 วันทำอะไรบ้าง เพราะอะไรถึงไป 7 วัน เนื่องจากที่มีช่วงโปโมชั่น 0 บาท ของ Air Asia ก็เลยเปิดๆดู แล้วก็ด้วยที่ถ้าจองนานหน่อยก็จะถูกมากๆ เราเลยได้มาในราคาคนละ 2,668 บาท เห้ย!! ถูกมาก ตั้งแต่ดูมาไม่เคยเจอถูกขนาดนี้ จริงๆ ตั้งใจจะไปคนเดียว แต่เลยลองถามเพื่อนดูซักหน่อย เลยได้เพื่อนไปด้วยอีกคน เลยจองกันไป 2 คน การจองนี้ถือว่าจองข้ามปีกันเลยทีเดียว (ราคานี้ไม่รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าน้าาา)
7 วันไปไหนบ้าง เลยลองหาๆ ดูสรุปได้ว่า เราจะไปฮ่องกง ไปขึ้นเขา ไปเกาะในฮ่องกง ไปมาเก๊า 2 วัน 1 คืน บอกเลย กลายเป็นว่า 7 วันเที่ยวไม่พอ 55
หลังจากที่ได้ตั๋วเครื่องบินกันแล้ว และโปรแกรมที่จะไปแล้ว เมื่อใกล้ถึงวันที่จะไป ก่อน 2-3 อาทิตย์ เลยเริ่มจองที่พักกัน หลักการเลือก เราใช้ของเว็ป Agoda หาที่พักในฮ่องกง เลือกที่ถูกที่สุด และห้องพักในรูปดูโอเคที่สุด
บอกก่อนว่าทริปนี้เราไม่ได้เน้นกินหรู ไม่ได้เน้นกินดีทุกมื้อ อยากกินอะไรก็กิน แต่ก็ติดขนมปังใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย แต่เอาจริง เรากินแต่มาม่า กินขนมในเซเว่นที่นู่น
รีวิว เที่ยวฮ่องกง มาเก๊า 7 วัน 6 คืน
วันที่ 1 : หาของกิน เข้าที่พัก พักผ่อน พร้อมลุยสำหรับพรุ่งนี้
วันที่ 2 : Avenue of Star(แต่มันปิด) ,หอนาฬิกา , Victoria Peak
วันที่ 3 : Dragon’s Back
วันที่ 4 : Po Toi Island , มงก๊ก
วันที่ 5 : Macau , Ruins of St.Paul’s , Macau Tower
วันที่ 6 : The Venatian Macau
วันที่ 7 : Tsim Sha Tsui
(วันที่ 7 ตอนแรกเราตั้งใจไว้ว่าเราจะนั่งกระเช้าไปไหว้พระใหญ่ Nong Ping 360 แต่ช่วงที่เราไปมันปิด นี่คือเสียใจมากที่สุดบอกเลย เพราะเราตั้งใจสุดๆ ว่าถ้ามาฮ่องกงเราต้องไปให้ได้ ฮือออออ)
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ค่าเครื่อง 2,668 บาท
ค่าน้ำหนักกระเป๋า 356 บาท
ค่าที่พัก 3,502 บาท
ค่าเดินทางในฮ่องกง 3,372 บาท
ค่ากินในฮ่องกง 2,830 บาท
รวม 12,728 บาท
ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ
คนละ 2,668 บาท
เรทเงินที่แลกไป 4.5
สรุปค่าที่พัก
คืนที่ 1 พักที่ Sydney Hostel
(Chung King Mansion , Block A ชั้น 17) ราคา 819 บาท
คืนที่ 2 พักที่ Sydney Hostel
(Chung King Mansion , Block A ชั้น 17) ราคา 819 บาท
คืนที่ 3 พักที่ City Guest House
(Chung King Mansion , Block D ชั้น 7) ราคา 1,322 บาท
คืนที่ 4 พักที่ City Guest House
(Chung King Mansion , Block D ชั้น 7) ราคา 1,322 บาท
คืนที่ 5 พักที่Towns Well Hotel
(Macau City) ราคา 1,791 บาท
คืนที่ 6 พักที่ City Guest House
(Chung King Mansion , Block D ชั้น 7) ราคา 932 บาท
รวม 7,005บาท / หาร 2 คนละ 3,502.50 บาท
(แนะนำที่พักที่ฮ่องกง Sydney Hostel ดีมากกกกก
ส่วนห้องพักที่ City Guest House ห้องเล็กที่เราจอง ในภาพกับห้องจริงไม่เหมือนกันเลย เราได้แบบเตียงชนเตียง เป็นเหมือนรูปตัว L ให้นึกภาพออกว่าห้องเล็กแค่ไหน คือแบบ เปิดประตูห้องคือ ก้าวแรกคือขึ้นเตียงเลยอ่ะ เล็กจนถ้าใครเอากระเป๋าใบใหญ่ไปคือไม่มีที่วางอ่ะ เรากับเพื่อนใบเล็กคนละใบยังไม่มีที่จะเดินเลยจริงๆ)
ข้อควรรู้
– ของกินที่เห็นในรีวิวต่างๆ นานา ไม่ได้อร่อยอย่างที่คิดไปซะทุกอย่าง
– เห็นรีวิวของกินเยอะๆ แต่จริงๆ ไม่ได้มีเยอะแยะตามทางอย่างในจินตนาการ
– อาหารแพงมาก
– การเดินทางสะดวก
– ซูชิอร่อย ฮาๆ
– ร้านค้าที่เป็นร้านที่ไม่ใช่แบรนด์ เราสามารถเข้าไปต่อราคาได้แบบเกือบครึ่งๆ เลย
– ห้องพักเล็กมาก ก้าวเดียวขึ้นเตียงเลยจริงๆ
– ไป 7 วันคุ้มจริงๆ นะ
ถ้าถามว่าไปทำอะไรตั้ง 7 วัน ไป 3 วันก็พอ มันไม่ค่อยมีอะไร บอกเลยว่าที่ไป 7 วันเพราะว่า ไหนๆ ก็ไปทั้งที ไปนานๆ สิ ไปแป๊บเดียวไปทำไม ไปแล้วให้กลับมานั่งเสียดายว่า เห้อ!! แป๊บเดียวกลับมาแระ ทำไมไวจัง ไปทั้งทีไปให้มันคุ้มไปเลย เราไม่ได้มีโอกาสหรือมีเวลานั่งเครื่องไปบ่อยๆ น้าาา เสียค่าตั๋วไปแล้ว เอาให้คุ้มไปเลยสิ
วันแรกมาถึงแล้ว ตื่นเต้นสุดๆ ขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง 15:30 น. ถึงที่ฮ่องกง 19:20 น. เมื่อได้ออกไปเหยียบพื้นฮ่องกงก้าวแรก บอกได้เลยว่าหนาว 555 อากาศเย็นสุดๆ
เมื่อเราออกจากสนามบินแล้ว จะเห็น Counter Airport Express ให้เราเข้าไปซื้อบัตร OCTOPUS กันก่อน เป็นบัตรเดียวที่สะดวกมากๆ ใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้า รถบัส ตามร้านค้า และยังใช้ได้ในเซเว่นอีกด้วย ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าก็จะได้ส่วนลดด้วยน้าา ราคาเริ่มต้น 150 เหรียญ มัดจำ 50 เหรียญ แสดงว่าเราจะใช้เงินในบัตรนั้นได้ 100 เหรียญ แต่เมื่อวันที่เรากลับ เราสามารถเอาบัตรไปคืนเพื่อขอเงินมัดจำคืนได้ แต่เราจะโดนหักค่าธรรมเนียมหรืออะไรซักอย่างนิดหน่อย ประมาณ 10 เหรียญ แต่ถ้าเทียบกับความสะดวกสบาย และส่วนลดรถไฟฟ้า ก็ถือว่าคุ้มมาก บอกเลยว่าควรเติมเงินเผื่อเข้าไปเยอะๆ เลย ได้ใช้แน่นอน หรือถ้าหมดก็สามารถไปเติมที่เซเว่นได้จ้า
บัสที่เรานั่ง นั่งสาย A21 ราคาคนละ 33 เหรียญ ที่เรานั่งบัสบอกได้คำเดียวเลย “ถูก” แต่เราไม่แนะนำให้นั่ง Airport Express เพราะว่าแพงมาก 100 เหรียญ (500 บาท)
นี่คือหน้าตาตึกที่เราไปพัก จากที่ได้อ่านรีวิวมา แต่ละคนกลัวหมดเลย 55 บอกว่าที่นี่มันน่ากลัวบ้างหละ คดีเยอะบ้างหละ มีคนโดนข่มขืนบ้างหละ มีแขกเดินตามอีก แต่บอกเลยว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แขกที่เดินมาหาคุยกับเราก็เพราะแค่ว่าเค้าอยากมาแนะนำห้องพักให้เราเฉยๆ ถ้าบอกไม่เอาๆๆๆๆ จองมาแล้ว นางก็ไปแล้ว ส่วนใหญ่เค้าจะเดินเข้ามาหาเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินลากกระเป๋าเดินทางมาเท่านั้น ถ้าวันอื่นๆ เค้าก็ไม่เข้ามาแล้ว
ห้องพักของเราจริงๆ แล้วเราจองห้องเล็กมา แต่ด้วยเพราะห้องเล็กที่เราจองฝักบัวเสีย เราเลยได้อัพเกรดห้องฟรี เป็นห้อง family ห้องใหญ่ สบายสุดๆ ไปเลย
วันที่ 2 เราจะเน้นเดินแถวๆ ย่านจิมซาจุ่ยก่อน
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะไปที่ Avanue of Star หาทางเข้าไม่เจอ งงมาก เลยไปถามลุงคนนึง ก็ได้การมาว่า มันปิด!! เฟล 1 ละน้าา ฮือออ เซ็ง เลยไปเดินถ่ายรูปข้างๆ แทน เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับหอนาฬิกา
ชื่อร้าน Hui Lau Shan เป็นร้านมะม่วงสุดๆ
เมื่อเราเดินไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมายเราก็เจอกับโบสถ์ St.Andrew’s Church
ร้านนี้ๆ ต้องร้านนี้เลย ชีสเค้กอร่อยมาก ร้าน Guschlbauer
ร้าน Tasty Congee & Noodle Wantun Shop อร่อยทุกอย่างจริงๆ ต้องปักหมุดเลยนะจิบอกให้ ราคาไม่แรงมาก หารกับเพื่อน กินได้อย่างสบายใจ
แนะนำให้นั่งแท็กซี่ไป ราคาไม่แพง แต่ถ้านั่งรถไฟฟ้า ลงสถานี Kowloon
WIFI Free มีอยู่ทุกที่ถมไป
หลังจากที่เรากินกันเสร็จแล้ว เราก็ตัดสินใจกันว่า มีเวลาเหลือ งั้นไปชมวิวกันที่ Victoria Peak กัน
Victoria Peak
เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Central เพื่อไปขึ้นรถบัสสาย 15 จะอยู่ตรงท่าเรือพอดี จริงๆ ตอนแรกเราจะไปนั่งรถไฟในตำนาน ที่ใครๆ มาก็ต้องขึ้น เค้าบอกให้ขึ้นสาย 15C เพื่อไปต่อซื้อบัตรนั่งรถไฟ แต่เราหาป้ายรถบัสนั้นไม่เจอ แล้วเจอลุงคนขับคนนึง เราก็เข้าไปถามเค้า เค้าเลยบอกให้เราไปสาย 15 เราบอกเราจะไปสาย 15C นางก็ส่ายหัวอย่างเดียว อะไรแว้ 15 ก็ 15 เราก็เลยนั่งบัสขึ้นไปถึง Victoria Peak เลย
ขากลับเรานั่งรถบัสกลับมาที่เดิม เพื่อจะกลับที่พักคือที่จิมซาจุ่ย แต่เราเลือกที่จะนั่งเรือกลับ รถบัสของเราจะมาจอดที่ตรงแถบท่าเรือพอดี ได้ชมวิว สบายไปอีกแบบ
วันนี้เราไปกันที่ Dragon’s Back เป็นสถานที่ชมวิว ปีนเขา ที่สวยงามมากๆ อากาศเย็นเดินสบาย เดินไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยเลยจริงๆ ไปเถอะแล้วจะไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
Dragon’s Back
เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Shau Kei Wan แล้วมาต่อรถบัสสาย 9 นั่งแป๊บเดียว ประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุด Trail Start เพื่อเริ่มเดินขึ้นเขาหลังมังกรกันแล้ว
ก่อนขึ้นบัสแนะนำให้แวะซื้อน้ำ ของกินก่อนไป เพราะที่นู่นไม่มีร้านค้าหรืออะไรขายเลยนะคะ
แนะนำให้เข้าห้องน้ำก่อนขึ้น เพราะข้างบนไม่มีห้องน้ำเลยนะจ๊ะ
ทางขึ้นมีทั้งทางเรียบ
บันไดบ้างหละ
ทางชันก็บ้างหละ
วิวสวยมาก ถ้าใครได้มาบอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
หลังจากที่เราลงเขากันแล้ว เรากลับมาขึ้นรถบัสที่เดิมที่เราขึ้น สาย 9 เราขึ้นฝั่งที่เราลง เพื่อไปข้างหน้าต่อ ไปจนสุดสาย แล้วก็มาลงที่ทะเลที่นี่
ทะเลที่นี่เงียบสงบมาก แปลกตามาก เพราะคนที่มาที่นี่ ส่วนใหญ่ใส่ชุดทำงานมาเดินเล่นกัน ประหนึ่งว่า เพิ่งเลิกงาน อะไรจะดีแบบนี้
จบแล้ววันที่ 3 ของเรา
ฝากติดตามวันอื่นๆ ใน รีวิว เที่ยวฮ่องกง – มาเก๊า ของเราในกระทู้ต่อไปด้วยค่า
ขอบคุณที่ติดตามจนจบ 3 วันแรกนะค๊าาาา
ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ journeywithsunn สังกัด pantip จากกระทู้ “[CR] HongKong-Macau 7วัน6คืน ไปแบบลุยๆ เน้นเที่ยว (ไม่)เน้นกิน งบ13,000บาท (ตอนที่1: Day1-3)” ที่มามอบประสบการณ์ รีวิว เที่ยวฮ่องกง ให้ชมแบบนี้ ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ยย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่: www.facebook.com/journeywithsunn