Disneyland HK / Tokyo / Shanghai ที่ไหนประทับใจสุด
“If you want your children to be intelligent, read them fairy tales. If you want them to be more intelligent, read them more fairy tales.” ― Albert Einstein
วอลท์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Walt Disney Company ได้ฝันที่จะสร้างสวนสนุกที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าสวนสนุกทั่ว ๆ ไป “ผมได้ความคิดนี้ ตอนที่พวกลูกสาวของผมยังเด็กอยู่ และผมต้องเลี้ยงเด็กๆ คนเดียวในวันเสาร์ ผมมักพาพวกลูกๆ ไปเล่นม้าหมุนและสถานที่ต่างๆ ซึ่งผมต้องนั่งรอ ขณะที่เด็กๆ ขึ้นไปเล่นม้าหมุน ผมก็เลยรู้สึกว่าน่าจะมีสถานที่ซึ่งพ่อแม่และเด็กๆ สามารถทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันได้ และในที่สุด ผลของความคิดนั้นก็ออกมาอย่างที่ท่านเห็นในทุกวันนี้ที่ดิสนีย์แลนด์ แต่ทั้งหมดนี้ก็เริ่มต้นจากการที่พ่อคนหนึ่งซึ่งมีลูกสาว 2 คน เกิดคำถามว่าเขาจะพาลูกๆ ไปที่ไหน ซึ่งเขาสามารถหาอะไรสนุกๆ ทำกับลูกๆ ได้ด้วย”
และด้วยเหตุนี้ สวนสนุกดิสนีย์แลนด์จึงก่อกำเนิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้ว เพื่อสร้างความสุข ปลุกความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเมื่อครั้งเยาว์วัย และเปิดรับประสบการณ์ที่จะประทับอยู่ในความทรงจำร่วมกัน วันนี้มัชรูมทราเวลจะมาแนะนำ ความแตกต่าง Disneyland ในเอเชียให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นค่ะ แต่ละที่จะน่าสนุกและน่าไปแค่ไหน ตามมาดูกันเล้ยยย
Hong Kong Disneyland
สวนสนุก Disneyland แห่งนี้ถูกแบ่งเป็น 7 โซน คือ Main Street USA, Adventure Land, Fantasy Land, Tomorrow Land, Grizzly Gulch, Mystic Point, Toy Story’s Land สำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องเล่นหวาดเสียว ต้องมาที่โซน Grizzly Gulch ค่ะ ที่นี่มี Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars ซึ่งก็คือเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะที่จะแล่นเข้าไปในเหมือง ลัดเลาะเหวี่ยงตัวผ่านความมืดมิดของอุโมงค์ขณะที่ล้อรถรางกระตุกกลับและพุ่งไปตามรางที่คดเคี้ยว และลาดลื่นลงไปในหุบเขารกร้างโดยไม่ทันได้ตั้งตัว! หรือถ้าใครเป็นแฟนของ Toy Story ต้องห้ามพลาดโซน Toy Story’s Land ค่ะ ที่นี่จะมี Toy Soldier Parachute Drop ที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน โดยเครื่องเล่นมีลักษณะคล้ายกับร่มชูชีพและเครื่องเล่นจะทิ้งตัวลงแบบฉับพลันให้ได้กรี๊ดกันให้สะใจ!
ส่วนในโซน Fantasy Land จะมีปราสาทเจ้าหญิงนิทราซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ Hong Kong Disneyland ยอดปราสาทสูงเสียดฟ้า ป้อมปราการประดับงดงาม และหลังคาสีน้ำเงินรวมถึงวิวทิวทัศน์ภายนอกที่สวยงามกำลังรอคุณไปชมและถ่ายภาพอยู่ค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโซน Mystic Point ซึ่งภายในโซนนี้จะมี Garden of Wonders สวนหย่อมที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณที่สร้างภาพลวงตา 3 มิติ และที่ขาดไม่ได้สำหรับ Disneyland ทุกที่ก็คือต้องมีขบวนพาเหรดค่ะ ในตอนกลางวันจะมีขบวนพาเหรด Flights Of Fantasy ที่จะมีตัวละครดิสนีย์ร่วมกับนักกายกรรมและนักแสดงผาดโผนกลางอากาศ รวมถึง Mickey Mouse และผองเพื่อนออกมาเต้นรำกับแขกผู้เข้าชมตลอดเส้นทาง
นอกจากนี้ในตอนเย็นก็ยังมีขบวนพาเหรด Disney Paint The Night ที่มาแต่งแต้มสีสันยามค่ำคืนให้สว่างไสว คุณจะได้ชมตัวละครดิสนีย์ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น Tinkerbell, Ariel, Belle Buzz Lightyear
บัตรเข้าสวนสนุก
แบ่งออกเป็น บัตร 1 วัน (บัตรเข้าแบบมาตรฐาน) และบัตร 2 วันค่ะ โดยบัตร 1 วันเมื่อซื้อแล้วสามารถใช้บัตรนี้เข้าสวนสนุกวันใดก็ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่ซื้อ โดยสามารถใช้เข้าสวนสนุกได้ 1 ครั้ง ราคาบัตรแบ่งออกเป็น บัตรทั่วไป (อายุ 12 – 64 ปี) ราคา HK$539, บัตรเด็ก (อายุ 3 – 11 ปี) ราคา HK$385 และบัตรผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี) ราคา HK$100 ส่วนบัตร 2 วันนั้นสามารถใช้เข้าสวนสนุกได้สองวัน โดยเลือกวันใดก็ได้ภายในระยะเวลา 7 วัน การเข้าสวนสนุกครั้งเเรกต้องเข้าก่อนหรือเข้าในวันสุดท้ายของระยะเวลาที่ใช้ได้ ซึ่งจะระบุอยู่ที่ด้านหลังบัตรค่ะ ราคาบัตรแบ่งออกเป็น บัตรทั่วไป ราคา HK$739, บัตรเด็ก ราคา HK$525 และ บัตรผู้สูงอายุ ราคา HK$170 ค่ะ
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้า ยังสามารถซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ได้ที่ สถานี MTR Hong Kong ที่ Tung Chung Line Concourse ค่ะ โดยเคาน์เตอร์ออกบัตรด่วนฮ่องกงดิสนีย์แลนด์จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เปิดให้บริการ เวลา 9.00 – 17.00 น.
เวลาเปิด-ปิด : 10.30 – 19.30 (บางวันสวนสนุกอาจปิดเวลา 20.00 น. จึงต้องติดตามปฏิทินของสวนสนุกค่ะ) และเครื่องเล่นรวมถึงบางโซนอาจจะไม่ได้เปิดตามเวลาเปิด-ปิดของสวนสนุกค่ะ
ระดับความน่าไป : ☆☆☆☆
การเดินทาง : จากสถานี MTR ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง (เปลี่ยนขบวนที่สถานี Tsing Yi และไปยังสถานี Sunny Bay), หรือจากสถานี MTR Kowloon หรือจากสถานี MTR Hong Kong และลงที่สถานี Sunny Bay ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีค่ะ
พิกัด :
Tokyo Disneyland
แบ่งออกเป็น 7 โซนหลักๆ คือ World Bazaar, Adventure Land, Western Land, Critter Country, Fantasy Land, Toon Town และ Tomorrow Land
หากอยากจะนั่งรถไฟหรือล่องเรือผจญภัยเข้าไปในป่า ต้องมาที่โซน Adventure Land ค่ะ ที่โซนนี้มี Western River Railroad ซึ่งเป็นการออกเดินทางท่องไปในป่าเขตร้อนแสนลึกลับน่าพิศวง และดินแดนทางตะวันตกของอเมริกายุคบุกเบิก ด้วยรถจักรไอน้ำที่วิ่งวนรอบ Adventure Land, Critter Country และ Western Land หรือถ้าอยากล่องเรือ ต้องมาที่ Jungle Cruise : Wild Life Expedition ค่ะ ท่านจะได้นั่งเรือผจญภัยไปในป่ากับกัปตันเรืออารมณ์ดีผู้หาญกล้า ร่วมสำรวจสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ช้าง จระเข้ และสิงโต สามารถสนุกได้ทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย
ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนรักความตื่นเต้น ขอเชิญที่โซน Critter Country ค่ะ Splash Mountain เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ชวนให้หวาดเสียวสุดๆ เมื่อล่องเรือท่อนซุงท่องเที่ยวไปในโลกภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Song of South” ทันใดนั้น น้ำตกสูง 16 เมตรก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า! เรือล่องมุ่งไปที่น้ำตกและพุ่งดิ่งลงสู่ด้านล่างที่ทำมุมลาดชันสูงสุดถึง 45 องศา! ความพิเศษคือ สีหน้าและอาการของทุกคนขณะพุ่งดิ่งลงสู่ด้านล่างจะถูกเก็บบันทึกไว้! เราสามารถซื้อภาพถ่ายวินาทีนั้นของเราได้ที่ Splashdown Photo ค่ะ (คำเตือน ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และโรคเกี่ยวกับคอ ผู้ที่เมายานพาหนะง่าย สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ กรุณางดใช้บริการค่ะ นอกจากนี้เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และผู้ที่ส่วนสูงไม่ถึง 90 ซม. ไม่สามารถใช้บริการได้นะคะ)
และแน่นอนค่ะไฮไลท์ของสวนสนุก Disneyland ทุกที่คือขบวนพาเหรดนั่นเอง ที่ Tokyo Disneyland มีขบวนพาเหรดทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนเหมือนกับที่ฮ่องกงค่ะ ที่มาในธีม “Happiness is Here” และ “Tokyo Disneyland and Electrical Parade Dream Light” ส่วนปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือ ปราสาทของซินเดอเรลล่าและเจ้าชายชาร์มมิ่งค่ะ Cinderella’s Fairy Tale Hall จะปิดทำการช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. เพื่อเริ่มการแสดงยามค่ำคืนในชุด “Once Upon a Time” ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเวลาโดยอาจปิดทำการเร็วขึ้น ขึ้นอยู่กับสภาพความแออัดของผู้มาเข้าชมด้วยค่ะ
บัตรเข้าสวนสนุก
บัตรสำหรับเข้าสวนสนุกมีอยู่หลายประเภท ท่านสามารถเลือกซื้อบัตรที่เหมาะกับกำหนดการท่องเที่ยวของท่านได้อย่างที่ต้องการ บัตรเข้าสวนสนุกหรือ “พาสปอร์ต” นอกจากจะรวมค่าเข้าสวนสนุกแล้ว ท่านยังสามารถเล่นเครื่องเล่นและชมการแสดงต่างๆ ของแต่ละแอทแทรคชันภายในสวนสนุกได้อีกด้วย (บางแอทแทรคชันมีค่าบริการเพิ่มเติม ควรสอบถามพนักงานก่อนค่ะ) สำหรับการซื้อสินค้าและการรับประทานอาหารภายในร้านอาหารต่างๆ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างหากนะคะ
ที่นี่มีบัตรหลายประเภทมากๆ ไม่ว่าจะเป็น 1 Day Passport, Senior Passport, 2 Days Passport, 3 Days Magic Passport นอกจากนี้ก็ยังมีบัตรแบบรายปีอีกด้วย! ราคาบัตร 1 Day Passport แบ่งออกเป็น ผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป 7,400 เยน, เด็กโตอายุ 12 – 17 ปี 6,400 เยน และ เด็กเล็ก อายุ 4 – 11 ปี 4,800 เยน ส่วน Senior Passport (ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป) ราคา 6,800 เยน
สถานที่จำหน่ายบัตรโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ทตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ภายใน “Ikspiari” อาคารศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีไมฮามะ รถไฟ JR สายเคโย โดยที่นี่จะมีบัตรล่วงหน้าของโตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซีจำหน่ายค่ะ
เวลาทำการคือ 8.00 – 21.00 น.
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-22.00 น. (ทั้งนี้ต้องติดตามปฏิทินของทางสวนสนุกด้วยค่ะ เนื่องจากบางวันอาจเปิดช้าและปิดไวกว่าเวลาปกติ)
ระดับความน่าไป :☆☆☆☆☆
การเดินทาง : โตเกียว-โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท : รถไฟ JR สายเคโย จากสถานีโตเกียว ลงที่สถานีไมฮามะ หรือ รถไฟ JR สายมุซาชิโนะ จากสถานีโตเกียว ลงที่สถานีไมฮามะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ)
ชินจูกุ-โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท : มีรถโดยสารที่วิ่งตรงจากสถานีชินจูกุไปยังโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ทค่ะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ป้ายรถโดยสารจะอยู่ด้านข้าง JR Shinjuku Mirana Tower ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ ราคา 820 เยน (เที่ยวเดียว) และเด็ก ราคา 410 เยน (เที่ยวเดียว)
พิกัด :
Shanghai Disneyland
ที่นี่ถือเป็นสวนสนุก Disneyland น้องใหม่เลยล่ะค่ะ เพราะเพิ่งจะมีการเปิดตัวกันไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ ภายในพื้นที่สวนสนุกทั้งหมดแบ่งออกเป็น 6 โซนหลักด้วยกัน คือ Mickey Avenue, Gardens of Imagination, Fantasyland, Treasure Cove, Adventure Isle และ Tomorrowland
Mickey Avenue เป็นทางเข้าของสวนสนุกค่ะ โดยบริเวณนี้เป็นสวนสาธารณะที่ออกแบบตาม Character ของตัวการ์ตูนดิสนีย์อย่าง Mickey Mouse, Minnie Mouse, Donald Duck เป็นต้นค่ะ
ส่วนโซน Fantasy Land ถือเป็นโซนที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในสวนสนุก โดยปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของสวนสนุกตกแต่งมาในธีมของ Enchanted Storybook Castle ปราสาทแห่งนี้ถือเป็นปราสาทดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยนะคะ นอกจากนี้ในโซนนี้ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหารและสถานที่จากโลกแฟนตาซีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ปีเตอร์แพน เป็นต้น ใครที่ชอบการผจญภัยต้องไม่พลาด Roaring Rapids ในโซน Adventure Isle ค่ะ ในโซนนี้ยังมีภูเขาจำลองและกิจกรรมที่มาในสไตล์เดินป่าผจญภัยตามฐานต่างๆ ค่ะ
ส่วนไฮไลท์ของที่นี่คือโซน Treasure Cove ค่ะ มาในธีมโจรสลัด Pirates of the Caribbean กิจกรรมจะมีการนั่งเรือแคนู ลงเรือโจรสลัด และเครื่องเล่น Pirates of the Caribbean Battle for the Sunken Treasure ที่เป็นเครื่องเล่น 4D พาเรานั่งเรือไปผจญภัยกับการต่อสู้ระหว่างเรือ Black Pearl และ Flying Dutchman ค่า
บัตรเข้าสวนสนุก
ราคาตั๋วเข้าสวนสนุกจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ แบบ 1 วัน ราคาบัตร Standard (ตั้งแต่ 1 ขวบ 4 เดือนขึ้นไป) 499 หยวน, ราคาบัตรเด็ก (ต่ำกว่า 1 ขวบ 4 เดือน) 375 หยวน และราคาบัตรผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป) 375 หยวน
ส่วนบัตรแบบ 2 วัน ราคาบัตร Standard (ตั้งแต่ 1 ขวบ 4 เดือนขึ้นไป) 950 หยวน, ราคาบัตรเด็ก (ต่ำกว่า 1 ขวบ 4 เดือน) 710 หยวน และราคาบัตรผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป) 710 หยวน ค่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น. (วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี) และ 09.00-21.00 น. (วันศุกร์-วันอาทิตย์)
ระดับความน่าไป : ☆☆☆☆
การเดินทาง : ใช้บริการรถไฟใต้ดินหรือ Metro โดยลงที่สถานี Disney Resort สุดสาย 11 ค่ะ
พิกัด :
เป็นยังไงกันบ้างคะสวนสนุก Disneyland แต่ละที่ เห็นบรรยากาศแล้วต้องขอบอกเลยว่า สวย เคลิ้ม มาก ค่ะ !! ไม่ว่าจะที่ฮ่องกง โตเกียว หรือเซี่ยงไฮ้ มัชรูมทราเวลคิดว่าแต่ละที่นั้นน่าสนใจไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ เพราะแต่ละที่ก็มีจุดเด่นและไฮไลท์กันคนละแบบ คนละสไตล์ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลองไปทุกที่เลยค่ะ รับรองว่าคุณจะรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนึงแน่น๊อนนนน!