Mushroom Travel

เลือกซื้อ กำไลหยกจีน และเครื่องประดับหยก อย่างไรให้ถูกใจได้ของแท้

เลือกซื้อ กำไลหยกจีน และเครื่องประดับหยก อย่างไรให้ถูกใจได้ของแท้

นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายๆ คนที่เดินทางไป ทัวร์ฮ่องกง นอกจากจะเที่ยวอย่างเต็มที่แล้ว กิจกรรมที่จะขาดไม่ได้ก็คือการช้อปปิ้งใช่ไหมคะ และเมื่อถามว่าอยากไปซื้ออะไรมากที่สุด คนส่วนใหญ่ก็มักจะตอบว่าถ้าไม่น้ำหอมก็คงเป็นพวกเครื่องสำอาง รวมถึงจี้และแหวนรูปกังหันนำโชค เครื่องรางยอดนิยมของวัดแชกงหมิว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งสินค้าที่น่าสนใจไม่น้อยในฮ่องกงที่อยากนำมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ หยก อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับชนชาติจีนมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ ที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับยอดนิยมอย่าง กำไลหยกจีน ด้วยค่ะ

เนื่องจากเกาะฮ่องกงนั้นได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายเครื่องประดับหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีงานจัดแสดงสินค้าอัญมณี และเครื่องประดับอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำ หยกในฮ่องกงได้รับการยอมรับจากนักอัญมณีจากทั่วโลกว่ามีคุณภาพดีและสวยงามอย่างหาที่เปรียบได้ยากเลยทีเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหยกทั่วทุกร้านในฮ่องกงจะมีคุณภาพที่เท่าเทียมกันทั้งหมดนะคะ เพราะบางร้านก็อาจมีพ่อค้าหัวใสนำพวกหยกย้อมสี หรือควอตซ์ย้อมสี มาปลอมแปลงเป็น กำไลหยกจีน หลอกขายให้นักท่องเที่ยวในราคาแพงๆ ดังนั้นต้องดูให้ดีค่ะ

ย่านค้าหยกที่สำคัญในฮ่องกง

มา ทัวร์ฮ่องกง ทั้งทีก็อยากได้เครื่องประดับหยกดีๆ สักชิ้น ควรไปซื้อที่ไหนดี ถ้าหากคุณมากับทัวร์ก็คงไม่ลำบากค่ะ เพราะหัวหน้าทัวร์สามารถพาไปซื้อในแหล่งที่เชื่อถือได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามาเที่ยวด้วยตัวเองแล้วไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อจากที่ไหนดี ดิฉันขอแนะนำว่า ธุรกิจการค้าหยกที่คึกคักที่สุดในฮ่องกงอยู่ที่ ตลาดหยก หรือ Jade Market ทางฝั่งเกาลูนค่ะ ซึ่งมีจุดเด่นอยุู่ที่อาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลในบริเวณใกล้เคียง ที่เป็นมุมสวยๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ โดยในย่านนี้จะเต็มไปด้วยหยกแบบต่างๆ ทั้งที่เจียระไนเป็นเครื่องประดับ หรือของตกแต่งบ้านมากมาย วางขายอยู่ทั่วทุกมุมของถนน โดยสินค้าที่นักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นได้มากที่สุดก็คือ พวกแหวน กำไลหยกจีน จี้ และต่างหู เป็นต้น

การเดินทาง: จากสถานี MTR Yau Ma Tei ทางออก C จากนั้นเดินตามถนน Nathan Road ไปทางสถานีรถไฟ Jordan แล้วเลี้ยวขวาที่ถนน Kansu Street ก็จะถึง Jade Market แล้วค่ะ

ชนิดของหยก ความแตกต่างระหว่างหยกพม่า และ หยกจีน

หยก ถือเป็นเครื่องประดับมงคลของคนเชื้อสายจีนมาตั้งแต่โบราณกาล เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าหยกคือสัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ ที่ช่วยเสริมดวง ที่จะนำโชคลาภ และความร่ำรวยมาให้ นอกจากนั้นยังช่วยคุ้มครองผู้ที่สวมใส่ ทำให้มีสุขภาพดี มีอายุยืนยาว สร้างความสงบสุข พร้อมมอบพลังอำนาจพิเศษให้อีกด้วยค่ะ

ทั้งนี้หยกในทางอัญมณีศาสตร์นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือเจไดต์ และเนไฟรต์ โดยหยกเจไดต์จะมีแหล่งกำเนิดที่สำคัญอยู่ที่ประเทศพม่า จึงเรียกว่า หยกพม่า ส่วนหยกเนไฟรต์มีแหล่งกำเนิดที่ประเทศจีน เรียกว่า หยกจีน ซึ่งหยกทั้ง 2 ชนิดจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ต่างกันแค่เรื่องของความวาวเท่านั้น โดยหยกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นหยกสีเขียว เป็นหยกที่ค่อนข้างมีราคาสูงและหายาก ส่วนหยกสีขาวจะมีราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสีอื่นๆ

นอกจากนี้ หยกยังมีสีที่แตกต่างกันออกไปค่ะ คือมีตั้งแต่สีเขียวเข้มไปจนถึงสีเหลือง สีน้ำตาล และสีขาว โดยหยกที่มีคุณภาพสูงสุดคือ หยกสีเขียวบริสุทธิ์ ซึ่งมีราคาแพงมาก แต่อย่างไรก็ตาม หยกส่วนมากที่เราเห็นวางขายอยู่ตามร้านนั้น ปกติแล้วจะมีสีเหลืองแซมอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ควรจะเป็นหยกที่มีสีน้ำตาลหรือสีเทาแซมนะคะ ทั้งนี้หยกที่วางขายในฮ่องกงจะมีตั้งแต่หยกธรรมชาติไปจนถึงหยกที่ชุบโพลิเมอร์หรือย้อมสีเพื่อทำให้มีสีเด่นชัดขึ้น

  1. หยกธรรมชาติ เมื่อนำไปเจียระไนเป็นรูปต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่างก็จะขัดอีกครั้งด้วยเทียนไข โดยไม่มีการตกแต่งวัสดุหรือสีใดๆ เข้าไปในเนื้อหยกเลย ดังนั้นหยกชนิดนี้ทุกชิ้นจึงล้วนเป็นสีธรรมชาติที่สวยงาม มีคุณภาพสูง และหาได้ยาก
  2. หยกเคลือบด้วยพลาสติก โดยวิธีการผลิตคือช่างจะนำหินหยกไปแช่น้ำกรดไฮโดรคลอลิกเพื่อกัดเอาสนิมโลหะและสิ่งสกปรกในเนื้อหยกออกจนหมด จากนั้นจึงนำไปชุบสารละลายพลาสติกแข็งให้ซึมเข้าไปในเนื้อหยกและเคลือบผิว เพื่อทำให้หยกดูสดใสเหมือนหยกธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง ซึ่งทำให้คนทั่วไปแยกระหว่างหยกชนิดนี้กับหยกธรรมชาติได้ยากมากค่ะ
  3. หยกเคลือบด้วยพลาสติกแล้วเติมสีหรือย้อมสีเข้าไป เพื่อให้ได้สีสันที่สดใส อย่างเช่น สีเขียว สีม่วง สีแดง เป็นต้น

เลือกซื้อ “หยก” อย่างไร ไม่ให้โดนย้อมแมวขาย

สำหรับการเลือกซื้อหยก ก่อนอื่นผู้ซื้อควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งานหรือสวมใส่เสียก่อนค่ะ ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร อย่างเช่น ถ้าจะซื้อ กำไลหยกจีน ก็ควรเลือกกำไลที่มีเนื้อที่หนาสักหน่อย เพื่อช่วยให้มีความคงทน และลดการแตกหักได้ง่าย เป็นต้น ส่วนวิธีทดสอบหยกเพื่อให้ได้ของแท้จริงๆ นั้นมีวิธีการดังต่อไปนี้

ทั้งหมดก็คือวิธีง่ายๆ ในการใช้เลือกหยกแท้ที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องประดับหยกให้ตัวเองสักชิ้น หรือจะซื้อ กำไลหยกจีน เป็นของขวัญก็ถือว่าล้ำค่าน่าสนใจ เพราะความหมายของหยกนั้นล้วนคือสิ่งที่เป็นมงคลของชีวิตทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ดี การทดสอบอย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับมือใหม่หัดซื้อหยก เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อหยกในร้านที่น่าเชื่อถือได้ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยคัดกรองอีกชั้นให้เราได้สินค้าคุณภาพดีนั่นเองค่ะ

สุดท้ายแถมอีกสักนิดสำหรับขาช้อปชาวไทยที่จะมา ทัวร์ฮ่องกง ที่นี่จัดเป็นเมืองแห่งการช้อปปิ้ง ด้วยเต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย รวมถึงตลาดและห้างสรรพสินค้าให้คุณสามารถช้อปได้ไม่รู้จบ ทั้งทางฝั่งฮ่องกงและเกาลูน ดังนี้

ฝั่งฮ่องกง:

แอดมิรัลตี้ เซ็นทรัล และโซโห ย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์เนมหรูหราราคาแพง
คอสเวย์ เบย์ โอลิมปิกเกมส์แห่งการช้อป กับแฟชั่นชั้นสูงอันหรูหรา
เชิงหว่าน ย่านช้อปสุดชิคที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายแนว
สแตนลีย์ ตลาดยอดฮิตในหมู่บ้านชายทะเลที่มาพร้อมกับบรรยากาศแบบสบายๆ
หว่านไจ๋ แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ แกดเจ็ต ของเล่น และเสื้อผ้าทันสมัย

ฝั่งเกาลูน:

จิมซาจุ่ย ศูนย์รวมสินค้าจากทุกมุมโลก
เกาลูนอีสต์และเกาลูนเวสต์ ย่านที่พักอาศัยที่สอดแทรกด้วยห้างสรรพสินค้ามากมาย
มงก๊ก สินค้าทุกอย่างที่คุณต้องการสามารถเสาะหาได้จากที่นี่
ซัมชุยโป ตลาดขายของใช้ที่จำเป็นสำหรับครัวเรือน
เยามะไต๋ เปิดประสบการณ์กับการช้อปแบบแปลกใหม่ในย่านอันแปลกตา


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ฮ่องกง ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

เลือกซื้อ กำไลหยกจีน และเครื่องประดับหยก อย่างไรให้ถูกใจได้ของแท้ was last modified: July 17th, 2017 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version