Mushroom Travel

7 วิธีล้างแอร์รถยนต์ ล้างอย่างไรให้แอร์เย็นฉ่ำ

วิธีล้างแอร์รถยนต์

ท่ามกลางอากาศร้อนแบบนี้ หากรถของคุณแอร์ไม่เย็น มีกลิ่นอับ หรือมีลมออกมาแต่อากาศภายในห้องโดยสารไม่เย็นเท่าที่ควร นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าต้องรีบล้างแอร์รถยนต์แล้ว วันนี้เรามี วิธีล้างแอร์รถยนต์ ด้วยตัวเองมาฝากทุกคน ซึ่งสามารถทำให้แอร์กลับมาเย็นฉ่ำง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์ไม่กี่อย่าง

ทำไมต้องล้างแอร์รถยนต์ ?

ภายในรถยนต์มีพื้นที่จำกัด อากาศในห้องโดยสารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ หากแอร์ทำงานไม่ปกติอาจทำให้อากาศไม่ถ่ายเทและร้อนได้ การล้างแอร์รถยนต์จะช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้เป็นปกติ นอกจากนี้การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ และลดการทำงานหนักของเครื่องยนต์อีกด้วย

หากเกิดสัญญาณเหล่านี้ แปลว่าถึงเวลาล้างแอร์รถยนต์ได้แล้ว

1) แอร์ไม่ค่อยเย็น
แอร์รถยนต์ไม่เย็นอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย สาเหตุหนึ่งที่สำคัญคือ ตู้แอร์มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่มากเกินไป การล้างแอร์ และตรวจเช็กสภาพอย่างสม่ำเสมอจึงช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
2) มีกลิ่นอับภายในห้องโดยสาร
กลิ่นอับในรถยนต์ส่วนใหญ่เกิดจากสิ่งสกปรกและความชื้นภายในตู้แอร์หรือคอยล์เย็น เมื่อได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ควรรีบทำความสะอาดตู้แอร์ทันที เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองขณะขับขี่ และสร้างบรรยากาศที่ดีภายในห้องโดยสาร
3) มีเสียงดังผิดปกติจากแอร์
อาการแอร์มีเสียงดังอาจเป็นไปได้ว่ามีเศษฝุ่นเข้าไปสะสมจำนวนมาก ทำให้พัดลมแอร์ทำงานผิดปกติ เมื่อได้ยินเสียงดังออกมาจากตู้แอร์จึงควรนำแอร์ออกมาล้าง เพื่อตรวจสอบว่าเสียงเหล่านั้นเกิดจากการสะสมของฝุ่นหรือไม่
4) น้ำยาแอร์รั่ว
น้ำยาแอร์เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้แอร์เย็นมากขึ้น หากพบว่าแอร์ไม่ค่อยเย็น ควรตรวจสอบว่าน้ำยาแอร์รั่วซึมหรือมีปริมาณเพียงพอสำหรับการใช้งานไหม
5) ใบพัดลมแอร์หมุนช้า
การอุดตันของระบบทำความเย็นอาจมีส่วนทำให้พัดลมแอร์หมุนช้า เนื่องจากมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่ทำให้พัดลมระบายความร้อนได้น้อยลง และเป็นสาเหตุให้ใบพัดหมุนช้ากว่าปกติ

การล้างแอร์รถยนต์ควรล้างบ่อยแค่ไหน?

โดยปกติการล้างแอร์ ควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือมากที่สุดไม่ควรเกิน 2 ปี แต่หากใช้งานรถยนต์อย่างหนัก เจอฝุ่นและมลพิษมาก ๆ ควรตรวจเช็กสภาพแอร์และ ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร เพื่อให้ตู้แอร์มีความสะอาดและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7 วิธีล้างแอร์รถยนต์ ด้วยตัวเอง ทำตามได้ง่าย ๆ

1) เตรียมอุปกรณ์
เลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดแอร์ที่หาซื้อและใช้งานได้ง่าย เช่น ถุงมือ สเปรย์โฟมสำหรับล้างแอร์รถยนต์ แปรงปัดฝุ่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด เป็นต้น
2) ถอดชิ้นส่วนแอร์
การถอดชิ้นส่วนแอร์ออกมาจะทำให้มองเห็นคราบสิ่งสกปรกภายในตู้แอร์ และสามารถทำความสะอาดได้อย่างสะดวกมากขึ้น
3) ทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ
การทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการใช้ผ้าเช็ดฝุ่น ใช้แปรงปัดไปตามซอกต่าง ๆ หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดฉีดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
4) ค้นหารอยรั่ว
นอกจากฝุ่นแล้ว สาเหตุของแอร์ไม่เย็นอาจเกิดจากรอยรั่วซึมบริเวณอุปกรณ์ หากพบรอยรั่วที่ท่อแอร์ควรใช้อุปกรณ์ เช่น เทปกาว อุดรอยดังกล่าวไว้ เพื่อไม่ให้น้ำยาแอร์ระเหยออกไปจนทำให้แอร์ทำงานผิดปกติ
5) ถอดอุปกรณ์แยกน้ำยาเหลว (แอคคิวมูเลเตอร์)
แอคคิวมูเลเตอร์ คือ อุปกรณ์ที่ป้องกันไม่ให้น้ำยาเหลวไหลย้อนกลับเข้าไปในตัวเครื่อง หากมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่มากเกินไปอาจทำให้เกิดการอุดตันได้
6) เปลี่ยนแอคคิวมูเลเตอร์
หากพบว่าแอคคิวมูเลเตอร์มีคราบฝุ่นสะสมอยู่มากเกินไปจนกลายเป็นสีน้ำตาลควรเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่โดยสามารถหาซื้อได้จากร้านขายชิ้นส่วนรถยนต์ทั่วไป
7) ประกอบแอร์กลับคืน
เมื่อทำความสะอาดอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ กลับที่เดิมอย่างถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงทดลองเปิดใช้งานเพื่อวัดระดับความเย็นของแอร์

การล้างแอร์ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด อุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ เพียงหมั่นตรวจเช็กสภาพแอร์เป็นประจำก็ช่วยยืดอายุการใช้งาน และเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้รถของคุณประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ สามารถนำรถมาตรวจเช็กสภาพได้ที่ ศูนย์ซ่อมนิสสัน Nissan SMT ทุกสาขา ที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องยนต์อย่างครบวงจร


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ต่างประเทศ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

7 วิธีล้างแอร์รถยนต์ ล้างอย่างไรให้แอร์เย็นฉ่ำ was last modified: June 25th, 2024 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version