How to ป้องกัน “เจ็บ-ป่วย” ด้วยตัวเอง เวลาเดินทาง
สวัสดีค่ะ ทุกคน สบายดีกันอยู่หรือเปล่า…?
ที่ถามแบบนี้ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะว่า ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ๊อย..บ่อย เมื่อวานเย็นสบายอยู่ดีๆ มาวันนี้ ร้อนตับแลบขึ้นมาซะอย่างงั้น สำหรับใครที่ต้องทำงานและเดินทางบ่อยๆ หรือแม้แต่ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ ก็ดูแลสุขภาพให้เยอะๆด้วยละกันนะคะ
คราวก่อน เราเขียนถึงเรื่อง (หาหมอ ก่อนท่องเที่ยว…จำเป็น ด้วยหรือ…?) และเคยบอกไว้ว่า รู้สึกว่าเป็นข้อมูลใหม่เหมือนกันที่ว่า ควรจะไปหาหมอก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ และเรารู้ดีว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปหาหมอก่อนเดินทางแน่ๆ ดังนั้น วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำวิธีที่ดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ป่วยเอง ก็รักษาเองได้ในเวลาเดินทางมาฝากกันค่ะ ว่าแต่จะเอาวิธีรักษาโรคอะไรมาฝากกันบ้าง มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
อะแฮ่ม…อีกเช่นเคย ข้อมูล How to ที่เอามาแชร์นี้ไม่ได้มั่วนิ่มนะคะ เพราะว่าเป็นข้อมูลที่ได้จากการอบรมจากชมรมเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ของคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านที่ว่ากันว่าเป็นที่เดียวในโลกซะด้วย…โอ้ว..สำหรับใครสนใจจะไปปรึกษา หรืออบรมเกี่ยวกับการเตรียมตัวเรืองท่องเที่ยว เดี๋ยวเราจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกทีค่ะ แต่ตอนนี้…มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า!!
แน่นอนว่า การเดินทางไปต่างที่ ต่างถิ่น ก็มักจะพบเจอกับสภาพอากาศ หรือสภาพแวดล้อมที่ต่างจากบ้านเกิดเมืองนอน และเมื่อร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่างๆตามมานั่นเองค่ะ ซึ่งสำหรับโรคยอดนิยม ที่มีสถิติว่าพบบ่อยมาที่สุดนั้นก็คือ โรคอุจจาระร่วง และ โรคทางเดินหายใจ นั่นเอง ทีนี้เรามาทำความรู้จักกับทั้ง 2 โรคนี้ให้มากขึ้นกันอีกสักหน่อย เพื่อเป็นข้อมูล How to ในการป้องกันตัวเองค่ะ
โรคอุจจาระร่วง
อาการ ถ่ายเหลวเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือ ถ่ายเหลวมีเลือดปน 1 ครั้ง ใน 24 ชั่วโมง (มีอาเจียนร่วมด้วย)
สถิติและความเสี่ยง
30.7% พบในนักท่องเที่ยวแบคแพค
88% อาการไม่รุนแรงและหายเองได้
8.8% ต้องพบแพทย์
3.2% ต้องนอนโรงพยาบาล
ประเภทของอุจจาระร่วง
1. อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (น้อยกว่าหรือเท่ากับ 14 วัน)
2. อุจจาระร่วงยืดเยื้อ หรือเรื้อรัง (มากกว่า 14 วัน)
วิธีรักษาเบื้องต้น
1. ดื่มสารละลายเกลือแร่
2. ไม่ควรกินยาหยุดถ่าย
3. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์
วิธีป้องกัน
1. รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
2. รับประทานอาหารที่ปรุงสุก
3. ตรวจสอบอาหารก่อนที่จะรับประทาน (รอยร้าว, แตก, เปิดทิ้งไว้, หมดอายุ, แมลงวันตอม)
ข้อควรระวัง
1. หอยแมลงภู่ที่นึ่งไว้แล้ว พบเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ 88.9%
2. หอยแครงที่ลวกไว้แล้ว พบเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ 100%
วิธีทำลายเชื้อโรคในหอยแมลงภู่, หอยแครง
1. หอยแครง ลวกในน้ำเดือด 1-2 นาที
2. อบหรือนึ่งหอยแมลงภู่ โดยใช้เวลา 5-7 นาที
Tip ป้องกันอุจจาระร่วง
กินร้อน ปอกเปลือก ถ้าไม่สามารถทำได้ ห้ามกิน
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
พบบ่อยที่สุดคือ ไข้หวัด
อาการ อ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, ครั่นเนื้อ ครั่นตัว มีไข้, น้ำมูกไหล, ไอแห้ง, ไอ, จาม และ มีเสมหะ
วิธีป้องกัน
1. ปิดจมูกในที่แออัด
2. ไม่แคะจมูกโดยที่ไม่ล้างมือ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
4. ลดการแพร่เชื้อโรคสู่คนอื่น โดยการใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง หากเป็นหวัด
เหมือนจะเป็นเรื่องที่พบเจออยู่ทุกวันในชีวิตประจำวัน ใช่หรือเปล่าคะ…?
ไม่ใช่แค่เดินทางไปต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปปรับใช้ได้กับชีวิตประจำวันของคุณได้อีกด้วยค่ะ ยังไงก็ ขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างสนุก และสุขภาพร่างกายแข็งแรงกันทุกท่านเลยนะคะ อย่าลืมว่า เราต้องดูแลตัวเอง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครดูแลเราได้ดีเท่ากับเราดูแลตัวเอง ด้วยรักและปรารถนาดีจาก มัชรูมทราเวลค่ะ