เพิ่งไปเที่ยว “ยะมะงะตะ” มาค่ะ
อยากบอกว่า รักมาก ดีงามมาก และอยากชวนให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยกัน
ยะมะงะตะ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ที่ ภูมิภาค โทโฮกุ หรือก็คืออีสานญี่ปุ่นนั่นเอง จังหวัดนี้มีดีที่ตรงไหน ขอบอกเลยว่าเลอค่า ตั้งแต่ภูมิประเทศเลยนะ ภูมิเขาล้อมรอบ ตอนที่เราไปยังอยู่ในฤดูหนาว ทำให้เห็นเป็นหิมะ ขาวโพลนในระยะไกล ตลอดการเดินทางเลยล่ะค่ะ อู้ว..อยากกลับไปหนาว ซะเดี๋ยวนี้!!
ว่าแต่ อิโมะ นาเบะ 芋鍋 คืออะไร…?!
เราขออธิบาย คำว่า อิโมะ นาเบะ ให้ฟัง แบบนี้แล้วกันนะคะ
อิโมะ หมายถึง มันฝรั่ง นาเบะ ก็คือ หม้อ
เราก็เลยขอเรียกว่า เมนู “หม้อไฟตุ๋นมันฝรั่ง” ว้าว….ฟังดูน่ากินใช่ป่ะหล่ะ สำหรับคนที่คิดว่ามันธรรมดา เราพูดเลยว่า เรารู้สึกมาแล้วตอนก่อนจะลองชิม อิโมะนาเบะ แต่พอได้ชิมแล้ว ก็แบบ….นุ่ม….ละลายในปากจริงๆ รสชาติก็กลมกล่อม ไม่มีรสไหน จัดจ้านจนเกินไป มันลงตัวจริง อะไรจริง เอาล่ะ มาเตรียมของเข้าครัวกันเลยดีกว่า…!!!
วัตถุดิบ ที่ ต้องเตรียม เนื้อวัว (หั่นสไลด์) 250 กรัม
มันฝรั่ง 600 กรัม
หัวไชเท้า 200 กรัม
คอนยัคคุ 250 กรัม
เห็ดไมตาเกะ 100 กรัม
ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
สาหร่ายทำซุป 5 เซนติเมตร
เหล้าสาเก ¼ ถ้วย
น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
โชวยุ 4 ช้อนโต๊ะ
พริกแดง ตามความเหมาะสม
เกลือ ตามความเหมาะสม
ทีนี้ เรามาเริ่ม ทำ อิโมะ นาเบะ กันเต๊อะ…!!
วัตถุดิบ และวิธีทำ สำหรับ 1 ท่าน
พลังงาน 282 แคลลอรี่
ขั้นแรก ล้างและหั่นหัวไชเท้าและคอนยัคคุ เตรียมไว้ในขนาดพอดีคำ
ขั้นที่ 2 ใส่น้ำลงในหม้อให้มากหน่อย ตามด้วยหัวไชเท้า และเปิดไฟกลาง ต้มไปเรื่อยๆระหว่างนั้นให้ใส้คอนยัคคุลงไปด้วย ต้มจนเดือด พักไว้
ขั้นที่ 3 ปอกเปลือกมันฝรั่ง ถ้ามันฝรั่งหัวใหญ่มากให้ตัดแบ่งครึ่ง ล้างให้สะอาด และใส่เกลือเล็กน้อย
ขั้นที่ 4 หั่นเห็ดไมตาเกะ เป็นชิ้นพอดีคำ หั่นสาหร่ายทำซุปออกมา 1 เซนติเมตร จากนั้นหั่นต้นหอมญี่ปุ่นเป็นข้อๆตามแนวทะแยง
ขั้นที่ 5 ใส่ส่วนผสมข้อ 4 ลงไปในหม้อครึ่งถ้วย ตามด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้ในข้อ 2 และตามด้วยมันฝรั่ง ข้อ 3 ตามลำดับ จากนั้นจึงใส่สาเก และเนื้อสไลด์ที่เตรียมไว้ลงไปแล้วต้ม ใช้ไฟเบาๆ ตุ๋นไปเรื่อยๆให้ค่อยๆสุกประมาณ 5-6 นาที แล้วจึงเติมน้ำตาล, โชยุ รวมทั้งเครื่องปรุงรสต่างๆตามชอบใจ และปิดท้ายด้วยการเพิ่มต้นหอมญี่ปุ่นที่หั่นเตรียมไว้ลงในหม้อ ตุ๋นต่ออีก 7-8 นาที ปิดไฟ พร้อมเสริฟ
ขั้นที่ 6 เตรียมชาม ตักเสริฟ พร้อมตกแต่งด้วยพริกแดง
เสร็จแล้ว พร้อมรับประทานค่า…!!!
อ้าว…เฮ้ย…ลืม….หุงข้าว !!
เซ็ง แป๊บบ T^T
ท้ายนี้ ขอบอกเลยว่า ใครใครทำเอง ก็ทำเลยนะจ้ะ ส่วนใครอยากลองไปชิมแบบรสดั้งเดิม ออริจินอล ก็ลองจัดทริปไปยะมะงะตะ เพราะนอกจากจะได้กินของอร่อย อุดมด้วยประโยชน์ล้นๆแบบนี้แล้ว ภูมิประเทศ อากาศและนิสัยใจคอชองคนที่นี่ จะทำให้คุณเผลอรักได้แบบไม่ยาก
ท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี มีความสุขนะคะ ❤
ขอบคุณข้อมูลจาก www.ntv.co.jp/3min/recipe