“อินาวะชิโระ…กระจกแห่งสวรรค์ บอกข้าเถิดภูเขาใดงามเลิศในฟุกุชิมะ”
“เขาบันไดน่ะสิ!”
หากใครเคยได้ไปเยือนจังหวัดฟุกุชิมะ รับรองว่าต้องได้ไปชมทิวทัศน์ของทะเลสาบอินะวะชิโระอย่างแน่นอน เพราะทะเลสวย น้ำใส (จนทำให้คนที่ได้เห็นแทบไร้สติ) แห่งนี้ ตั้งอยู่เกือบจะใจกลางของจังหวัดเลยทีเดียว โดยวิวที่นิยมในการถ่ายภาพและเป็นแลนด์มาร์กของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือ ภาพสะท้อนของภูเขาบันไดที่สะท้อนจากผืนน้ำใสแจ๋วในทะเลสาบอินาวะชิโระนี่แหละ
ทะเลสาบอินะวะชิโระแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติบันได อะซะฮี (Bundai Asahi) ในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ภูมิภาคโทโฮกุ (อีกเช่นเคย) เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังติดหนึ่งในสี่ของทะเลสาบที่มีน้ำใสสะอาดที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยล่ะ ว้าววววว (ไว้อาลัยให้คลองเปลี่ยนสีที่ชื่อแสนแสบแป๊บ) ทะเลสาบอินาวะชิโระเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาบันไดเมื่อหลายหมื่นปีก่อน เป็นสาเหตุที่น้ำในทะเลสาบมีความเป็นกรดอ่อนๆ ก็เลยไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ใต้น้ำ จึงเป็นที่มาของน้ำที่ใสสะอาดมากจนได้ฉายาทะเลาบกระจกสวรรค์มาครอบครองนั่นแล (แต่ขอบอกว่าถึงมีความเป็นกรดแต่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมนุษย์นะจ้ะ เพราะเป็นค่ากรดที่อ่อนมากๆ นั่นเอง) โดยเฉพาะวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ภาพทิวทัศน์ที่สะท้อนจากทะเลสาบอินาวะชิโระ ก็จะยิ่งเห็นเด่นชัด จากภูเขาหนึ่งยอดก็กลายเป็นสองยอด ก้อนเมฆและสรรพสิ่งรอบๆเหมือนถูกโปรแกรมโฟโต้ช้อปตัดแต่ง สวยจนไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงเชียวแหละ
และไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้นนะ เพราะทีทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่ดึงดูดให้คนในท้องถิ่นและนักท่องเท่ยวต่างถิ่นอย่างเราๆ เลือกแวะเวียนมาอย่างสม่ำเสมอในทุกฤดูกาลอีกต่างหาก ทั้งการชมทิวทัศน์นั่งปิกนิกและชมนกป่าในฤดูใบไม้ผลิ แหวกว่ายในสายน้ำและเล่นกีฬาคลายความอบอ้าวในฤดูร้อน ส่องบรรดาหงส์สาว (และหนุ่ม) ขาวๆ ตัดกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และสดชื่นไปกับการเล่นกีฬาท้าอุณหภูมิติดลบหลายองศาพร้อมกับชมน้ำแข็งย้อยที่เห็นแล้วก็อยากเชิญราชินีเอลซ่ามาร้อง Let’s it Go! ประกอบบรรยากาศของช่วงฤดูหนาว (บรรดาหงส์ทั้งหลายจะเห็นได้ถึงช่วงฤดูหนาวเลยแหละ) หรือช่วงหนาวๆ อากาศเย็นๆ ชาวไทยจากเขตร้อน (ที่แค่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 ก็น้ำมูกย้อยแล้วอย่างเรานั้น) สามารถไปแช่น้ำพุร้อนที่อยูตามตีนเขาได้อีกนะ เรียกได้ว่าฤดูไหนๆ ก็มีกิจกรรมและความสวยงามที่แตกต่างชวนให้ตื่นตาได้ตลอดปีเชียวแหละคุณเอ๊ย
และอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า มุมที่คนมาเยือนอินาวะชิโระ นิยมกันก็คือ มุมที่ถ่ายผ่านทะเลสาบใสตรงไปยังเขาบันไดนั่นเอง ถ้าถามว่าทำไมถึงเป็นมุมนี้เพราะภูเขาบันไดเป็นภูเขาสัญลักษณ์ของจังหวัดฟุกุชิมะ ที่ชาวญี่ปุ่นยกให้เป็นหนึ่งในร้อยภูเขาที่มีความงดงามและมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แห่งนึงเลย เรียกได้ว่าเป็นฟูจิซังของฟุกุชิมะเลยล่ะ โดยกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือการเล่นสกีในฤดูหนาวนั่นเอง
เล่าถึงอินาวะชิโระทั้งที จะขาดบุคคลที่มีชื่อเสียงที่มีบ้านเกิดอยู่ที่นี่ไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าไปญี่ปุ่นแล้วเป็นต้องได้พบปะคนๆ นี้ทุกวัน ทุกที่ เสมือนอยู่ข้างกันตลอดเวลาแน่นอน เพราะบุคคลท่านนี้สำคัญและมีชื่อเสียงขนาดที่ปรากฏโฉมอยู่บนธนบัตรมูลค่า 1,000 เยน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีจำนวนมากที่สุดอีกด้วย (บอกแล้วว่าทุกคนที่ได้ไปที่ญี่ปุ่นไม่มีใครไม่เคยเห็นท่านแน่ๆ) ชื่อของบุคคลท่านนี้ก็คือ ดร.ฮิเดโยะ โนงุจิ นักวิจัยแบคทีเรีย ผู้ค้นพบต้นเหตุและทำการเพาะเชื้อของโรคซิฟิลิสได้สำเร็จเป็นคนแรก เจ้าของประโยค “ความอดทนมีรสขม แต่ผลของมันมีรสหวาน” และยังเป็นนักวิจัยและแพทย์ที่ออกเดินทางเพื่อรักษาและค้นคว้าเพื่อบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคไข้เหลืองในหลายพื้นที่ของโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ห่างไกลการแพทย์อย่างแอฟริกาใต้อีกด้วย จนในที่สุดท่านก็เสียชีวิตด้วยโรคไข้เหลืองที่ท่านกำลังวิจัยอยู่ที่ประเทศกาน่า ถ้าใครสนใจชีวประวัติของท่านที่อินาวะชิโระมีพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติของท่านตั้งอยู่ และหากอยากรู้ประวัติท่านก่อนไปเพื่อให้อินแล้วล่ะก็…ลองหาการ์ตูนเรื่อง “DR. NOGUCHI ด้วยใจนักสู้!” มาลองอ่านกันดู รับรองน้ำตาไหลพรากแน่นอน เพราะขนาดเรายังตาบวมอยู่หลายวันเลย (ก็เรื่องมันซึ้งนี่นา โฮ~)
เล่ามาเป็นพันๆคำแล้ว สั้นๆเลยนะ ไปเหอะ!
รับรองว่าคุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน ทั้งทะเลสาบใส ภูเขาสวย และยังมีข้อคิดดีๆ จากประวัติของบุคคลสำคัญระดับโลกด้วย แถมไปฤดูไหนก็สวย แต่ถ้าถามเรา เราว่ากระโจนลงน้ำไปว่ายน้ำในทะเลสาบใสๆ ในฤดูร้อนกับแช่ออนเซ็นอุ่นๆในฤดูหนาวนี่แหละน่าสนสุดแล้ว 😉