หากเอ่ยชื่อ ประเทศอิหร่าน หลายคนคงอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามีที่เที่ยวน่าสนใจอย่างไรบ้าง? หรือ จะน่ากลัวไหมนะ? ในความเป็นจริงแล้วอิหร่านเป็นประเทศที่น่าเที่ยวประเทศหนึ่งเลยนะคะ เนื่องจากมีแลนด์มาร์คที่สวยและมีประวัติศาสตร์น่าค้นหา จนได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกหลายแห่ง แถมผู้คนอิหร่านก็น่ารัก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ วันนี้มัชรูมทราเวลเราจะพาคุณไป ทัวร์อิหร่าน กับ 10 ที่เที่ยวอิหร่าน ชมประวัติศาสตร์อาณาจักรเปอร์เซียเก่าแก่ที่สวยงามเหนือจินตนาการ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ลองเปิดใจแล้วตามมาดูเลยค่ะ
ก่อนจะไปดูที่เที่ยวอิหร่าน เรามาเก็บข้อมูลกันก่อนค่ะว่าควรไปเที่ยวช่วงไหน
เที่ยวอิหร่าน ช่วงไหนดี ?
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการ ทัวร์อิหร่าน คือ ช่วงกลางเดือนมีนาคม ถึง ปลายเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอากาศค่อนข้างสบายๆ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส ใส่เสื้อกันหนาวหรือแจ็คเก็ตเท่ๆ ตัวเดียวก็เอาอยู่ เดินสบาย เหงื่อไม่ออก เที่ยวภูเขาไม่หนาวมาก เที่ยวทะเลทรายก็ไม่ร้อนมาก แนะนำว่าให้ไปช่วงสงกรานต์สัก 5-7 วันเวิร์คสุด! และไม่ควรไปช่วงวันที่ 21 มีนาคม ถึง 3 เมษายน ของทุกปีนะคะ เพราะเป็นช่วงวันปีใหม่ของชาวเปอร์เซียเขา ช่วงนั้นทุกอย่างในประเทศจะแพงขึ้นมากเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบอากาศเย็น ไปเที่ยวช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนตุลาคม ก็ได้เช่นกัน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25-35 องศาเซลเซียส ช่วงนี้เป็น Low season ราคาไม่แพง
เก็บข้อมูลก่อนเที่ยวกันแล้ว ก็ได้เวลาไปท่องอาณาจักรเปอร์เซีย มาดูกันว่ามีที่เที่ยวน่าสนใจที่ไหนบ้าง
พระราชวังโกเลสตาน
ที่เที่ยวอิหร่าน ที่แรกเราจะพาคุณไปชม พระราชวังโกเลสตาน หรือ พระราชวังกุหลาบ เป็นหนึ่งในสถานที่ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศอิหร่าน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยคริสต์วรรษที่ 16 ในราชวงศ์ Safavid ความโดดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือ ความงดงามในการตกแต่งภายในด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชร และการตกแต่งภายนอกด้วยกระเบื้องเคลือบสุดอลังการ โดยองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้พระราชวังโกเลสตานเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2007 ปัจจุบันพระราชวังโกเลสตานยังคงใช้เป็นที่รับรองบุคคลสำคัญ แขกบ้านแขกเมืองจากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
สำหรับการเข้าชมพระราชวังโกเลสตานนั้น ถ้าจะเที่ยวให้ทั่วต้องซื้อบัตรเข้าชมแบบ All Area แนะนำว่าให้ถามเจ้าหน้าที่ก่อนซื้อบัตรว่าโซนไหนเข้าได้บ้าง รวมถึงการอนุญาตให้ถ่ายภาพ จะได้เป็นการประหยัดค่าเข้าชมไปในตัว แต่ถ้าไม่ซีเรียสก็จัด All Area ไปเลยค่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : 940,000 เรียล (ประมาณ 940 บาท)
พิกัด :
Nasir ol Molk Mosque
ถัดมาเราไปชม ที่เที่ยวอิหร่าน Nasir ol Molk Mosque หรือ มัสยิดสีชมพูแห่งเมือง Shiraz ซึ่งเป็นเมืองแห่งคีตกวีของอิหร่าน ที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติกในดินแดนเปอร์เซีย ใครที่มา ทัวร์อิหร่าน ต้องห้ามพลาดที่นี่เลยนะคะ ภายในห้องโถงของมัสยิดจะมีแสงสีต่างๆ ลอดผ่านช่องกระจกสีบนผนังหน้าต่าง ทำให้เกิดเป็นสีสันสวยงาม ซึ่งการจะได้ภาพถ่ายสวยๆ ของมัสยิดสีชมพูนั้น แนะนำว่าให้มาประมาณ 09.00 – 10.00 น. เนื่องจากแสงสะท้อนในห้องโถงจะทำมุมพอดี แต่ก็ต้องหามุมถ่ายหลบมหาชนดีๆ เช่นกัน
เวลาเปิด-ปิด : 07.30 – 19.30 น.
ค่าเข้าชม : 150,000 เรียล (ประมาณ 150 บาท)
พิกัด :
Persepolis
สถานที่ต่อมาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง Shiraz หากใครยังจำภาพยนตร์เรื่อง 300 ได้ สถานที่ที่คิงเลโอไนดัส นำทัพอันน้อยนิดมาสู้กับจักรวรรดิเปอร์เซีย ซึ่งก็คือที่ Persepolis จุดศูนย์กลางของจักรวรรดินี่เอง ก่อนที่จะถูกพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ยกทัพมาเผาราบเป็นหน้ากลองมาถึงทุกวันนี้ โดยเสาแต่ละต้นที่นี่ล้วนแต่มีประวัติความเป็นมาสองถึงสามพันปี และตัวอักษรที่ถูกจารึกอยู่บนแผ่นหินมีชื่อว่า “อักษรลิ่ม” หรือคูนิฟอร์ม (Cuneiform) ซึ่งถือว่าเป็นตัวอักษรที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์เลยทีเดียว โดยองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้ Persepolis เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1979
เวลาเปิด-ปิด : 07.30 – 19.30 น.
ค่าเข้าชม : 150,000 เรียล (ประมาณ 150 บาท)
พิกัด :
Naqsh E Rostam
Naqsh E Rostam นครหลังความตาย หรือ สุสานสี่กษัตริย์ แห่งราชวงศ์อคามินิคที่เคยปกครองอาณาจักรเปอร์เซีย ซึ่งเป็นสุสานหลวงของจักรพรรดิเปอร์เซียในอดีต ด้วยความเชื่อตามหลักคำสอนของศาสนาโซโรแอสเตอร์ที่ว่า หลังจากจบสิ้นชีวิตจากความเป็นมนุษย์บนโลกแล้ว ชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อ เพียงแต่ว่าจะต้องไปสู่อีกโลกหนึ่ง หรือในอีกมิติหนึ่งเท่านั้น ชาวเปอร์เซียเลยมีความเชื่อว่าต้องสร้างสุสานแห่งนี้ขึ้นมาให้มีความยิ่งใหญ่อลังการ เช่นเดียวกับพระราชวังที่กษัตริย์เหล่านั้นเคยประทับมาก่อน มีการสร้างโดยการขุดเจาะโพรงเข้าไปในภูเขาให้เป็นห้องขนาดใหญ่บนหน้าผาหิน สูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร ซึ่งเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ตระการตา เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวอิหร่าน ที่น่าสนใจมากๆ
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม : 200,000 เรียล (ประมาณ 200 บาท)
พิกัด :
Imam Square
ลุยกันต่อที่ Imam Square จัตุรัสอิหม่ามหรืออีกชื่อหนึ่งว่า Naqsh-e Jahan Square เป็นศูนย์กลางของโลกในยุคกลาง ตั้งอยู่ที่เมือง Esfahan เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ซึ่งจัตุรัสอิหม่ามนั้นยิ่งใหญ่อลังการ โดยบรรดาสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่รายล้อมทั้งสี่ทิศของจัตุรัสอิหม่ามนั้น คือมรดกแห่งอารยธรรมเปอร์เซียที่แท้จริง ทางทิศใต้ มีมัสยิดอิหม่าม ทางทิศตะวันออก มีมัสยิด Sheikh Lotfollah ทางทิศตะวันตก มีพระราชวัง Ali Qapu และทางทิศเหนือมีสะพาน Si-o-Seh Pol สัญลักษณ์อันคลาสสิคของอิสฟาฮาน ที่ชาวเมืองมักจะมาใช้เวลายามเย็นจนค่ำคืนกันที่นี่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดวัน
พิกัด :
Sheikh Lotfollah Mosque
อีกหนึ่งมัสยิดที่เป็น ที่เที่ยวอิหร่าน ในพื้นที่จัตุรัสอิหม่ามนั่นก็คือ Sheikh Lotfollah ผลงานชิ้นเอกของศิลปะแบบอิหร่าน ด้วยรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม การตกแต่งด้วยกระเบื้องสีต่างๆ โดยเน้นไปที่สีน้ำเงินอันสวยงาม ลายกระเบื้องที่เป็นตัวอักษรเปอร์เซีย และความใหญ่โตอลังการ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดในอิหร่าน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : 200,000 เรียล (ประมาณ 200 บาท)
พิกัด :
Ali Qapu Palace
ยังอยู่ในพื้นที่จัตุรัสอิหม่าม นั่นก็คือ Ali Qapu Palace พระราชวังเก่าที่มีความสูงถึง 7 ชั้น การเดินชมจะเป็นการเดินขึ้นบันไดสูงชันขึ้นไป มีภาพสวยงามมากมาย แต่ไฮไลท์ คือ การตกแต่งเป็นลวดลายดนตรีของชั้นบนสุด นอกจากนี้บนจุดชมวิวสามารถถ่ายรูปได้ทั่วบริเวณจัตุรัสอิหม่ามอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม : 200,000 เรียล (ประมาณ 200 บาท)
พิกัด :
Khaju Bridge
ที่ต่อมาคือ Khaju Bridge เป็นสะพานเปอร์เซียโบราณที่ติดอันดับสะพานที่สวยที่สุดในโลก สร้างในสมัยพระเจ้าชาห์อับบาสที่ 2 ใช้สำหรับข้ามแม่น้ำ Zayandeh โดยมีความยาว 110 เมตร ด้านในสะพานมีผลงานแกะสลักและลวดลายอันวิจิตร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดวัน
พิกัด :
Abyaneh Village
ทัวร์อิหร่าน กันต่อที่ Abyaneh Village (อะบียาเน่ห์ วิลเลจ) หมู่บ้านสีชมพูที่อยู่กลางหุบเขาคาร์คาส (Karkas) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่โบราณที่มีอายุราวๆ 1,000 ปี เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านลับแลแห่งอิหร่าน เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ซ่อนตัวอย่างเงียบสงบที่ระดับความสูง 2,235 เมตร รายล้อมด้วยยอดเขาสูงของยอดเขาคาร์คาสที่มีความสูงถึง 3,899 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในอดีตชาวพื้นเมืองอะบียาเน่ห์นับถือศาสนา โซโรแอสเตอร์ ซึ่งเป็นศาสนาโบราณของโลก ก่อนที่จะได้รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามาในภายหลัง
บ้านเรือนของหมู่บ้านอะบียาเน่ห์นั้นเป็นสีชมพู ด้วยการที่ใช้อิฐ ดินดิบ ไม้ หิน เป็นวัสดุในการสร้างบ้านแล้วฉาบเคลือบด้วยดิน ซึ่งดินที่นี่จะมีโทนสีเป็นสีชมพู จึงทำให้บ้านทุกหลังมองดูเป็นสีชมพูทั้งหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นชาวพื้นเมืองจากยุค อิลาไมท์ ที่มีรูปร่างหน้าตา การแต่งกายไม่เหมือนชาวอิหร่านทั่วไป พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สืบทอดติดต่อกันมาอย่างยาวนาน และแทบจะไม่มีการติดต่อกับคนภายนอกจนกระทั่งขึ้นศตวรรษที่ 20 จึงได้รับการค้นพบหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้
ค่าเข้าชม : 500,000 เรียล (ประมาณ 500 บาท)
พิกัด :
Maranjab Desert
ปิดท้าย ที่เที่ยวอิหร่าน กันด้วย Maranjab Desert ทะเลทรายมารานจ๊าบ ทะเลทรายขนาดใหญ่กลางที่ราบสูงอิหร่าน ห่างจากตะวันออกของเมืองเตหะรานไปประมาณ 300 กิโลเมตร ทะเลทรายมีความยาวประมาณ 800 กิโลเมตร และกว้าง 320 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยโคลนและบ่อเกลือที่ทับถมมานับสิบล้านปี ในสมัยก่อนบริเวณนี้เป็นเคยมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยเกลือ ปัจจุบันเมื่อมหาสมุทรแห้งก็ทิ้งเกลือที่หนาราว 6 ถึง 7 กิโลเมตรเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปชั้นเกลือถูกฝังอยู่ใต้โคลนหนา ที่นี่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถขี่อูฐชมทะเลทราย และการนั่งรถ 4×4 ฝ่าทะเลทรายอันตื่นเต้น เร้าใจ
ค่าทัวร์ : 250,000 เรียล (ประมาณ 250 บาท)
พิกัด :
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 ที่เที่ยวอิหร่านที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก ใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปเปิดหูเปิดตาและเปิดใจไป ทัวร์อิหร่าน กันสักครั้ง รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง และได้รูปสวยๆ ที่ไม่เหมือนใครกลับมาอวดชาวโซเชียลแน่นอนค่ะ