ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ดีงาม ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมให้คงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน กลิ่นไอของวัฒนธรรมเก่าๆที่เราสัมผัสได้จากวิถีชีวิตของพวกเค้า ทั้งเทศกาลงานประเพณี วัฒนธรรมการกิน การชงชา การให้ของขวัญ ฯลฯ ที่ล้วนแต่มีความหมายแฝงอยู่เสมอ นับว่าเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมประณีตละเอียดอ่อนซะจริงๆ จนเป็นเสน่ห์ให้ใครต่อใครหลงไหลได้ปลื้มกันอยู่ไม่ใช่น้อย และสำหรับวันนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านอาหารชนิดหนึ่งที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้ดี๊ดี และคนไทยก็รู้จักกันเป็นอย่างดีด้วย เพราะเป็นของโปรดของใครหลายคนเลยแหละ พอจะเดากันออกมั้ยว่าคืออะไร…?
อ้ะ! เฉลยเลยละกัน อาหารชนิดนี้คือโมจิหรือเค้กข้าวญี่ปุ่น ของกินอมตะคู่บ้านคู่เมืองญี่ปุ่นมามากกว่า 1,300 ปีแล้ว (จริงๆนะไม่ได้โม้) เพราะฉะนั้นคนญี่ปุ่นจึงมีความผูกพันกับขนมชนิดนี้มากกก (ก.ไก่ล้านตัว) สังเกตได้จากงานเทศกาลต่างๆที่จะมีโมจิอยู่ในงานนั้นด้วยเสมอๆ สำหรับโมจิที่เราคุ้นเคยกันนั้น จะมีรูปร่างเหมือนซาลาเปาจิ๋วสอดไส้หลากรสไว้ข้างใน แต่ถ้าเป็นโมจิสูตรดั้งเดิมของญี่ปุ่น จะเป็นแป้งโมจิที่ไม่มีไส้อยู่ด้านใน แต่จะราดมาด้วยซอสรสต่างๆ ที่นิยมกินกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นซอสรสถั่วแดง
สำหรับใครหลายคนอาจคิดและเข้าใจว่าโมจิคือขนมที่รับประทานเป็นอาหารว่างเท่านั้น ใช่ค่ะ คุณคิดถูก แต่ถูกเพียงครึ่งเดียวนะคะ เพราะโมจิสำหรับคนญี่ปุ่นมันเป็นมากกว่านั้นค่ะ วันนี้เราจึงพาคุณมาที่ภูมิภาคโทโฮกุหรือภาคอีสานของญี่ปุ่น เพื่อมาทำความรู้จักกับโมจิให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพราะว่าภูมิภาคแห่งนี้เค้านิยมรับประทานโมจิกันมากๆ โดยเฉพาะที่จังหวัดอิวาเตะ เรียกได้ว่าทานกันจนเป็นอาหารจานหลักเลยทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่า “วัฒนธรรมโมจิ อยู่ในใจคนอิวาเตะ”
ที่อิวาเตะ “โมจิ” มีอยู่ในทุกวาระสำคัญต่างๆ ของชีวิต ในประเพณีเทศกาลงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานขึ้นปีใหม่ แต่งงาน หรือแม้กระทั่งงานศพ มีงานที่ไหนมีโมจิที่นั่น!
ยกตัวอย่างเช่น งานปีใหม่จะมีการจัดเทศกาลตำโมจิขึ้นทุกปี ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป ทั้งโรงเรียนและชุมชนจะจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อให้เด็กๆและคนในชุมชนได้ร่วมกันทำโมจิ และร่วมเอร็ดอร่อยกับโมจิฝีมือตัวเองเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กัน บรรยากาศภายในงาน เค้าก็จะโชว์กรรมวิธีการทำโมจิแบบดั้งเดิม คือ นำข้าวเหนียวที่แช่ค้างไว้ 1 คืนไปนึ่งให้สุก แล้วนำไปใส่ในครกไม้ขนาดใหญ่ (อารมณ์คล้ายกับครกตำข้าวของไทยสมัยก่อน) แล้วใช้สากไม้ที่มีรูปร่างเหมือนค้อนตำจนข้าวเหนียวจับตัวกันเป็นก้อนแป้งเหนียวๆ นุ่มๆ โดยขณะที่ตำจะมีการร้องรำทำเพลงไปด้วย เพื่อช่วยเป็นจังหวะในการตำ จะได้ไม่ตำผิดไปโดนมือคนพลิกแป้งเข้าให้ และยังสร้างความสนุกสนานครื้นเครงได้อย่างดีอีกด้วย
ซึ่งกว่าจะได้แป้งโมจิก็ต้องออกแรงกันเยอะเลยทีเดียว แต่ผลที่ได้ออกมาก็คุ้ม! เพราะแป้งจะเหนียวนุ่มและหอมมากๆ จากนั้นก็จะนำมาแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ แล้วนำไปกินกับท้อปปิ้งต่างๆ ก็คือพวกซอสเค็มซอสหวานจากซีอิ้ว ถั่วแดงบด ฟักทองบด ผงถั่วเหลือง และอีกสารพัดมากมายที่นำมาทานคู่กับโมจินั่นแหละค่ะ ซึ่งสามารถเลือกได้เลยตามใจชอบ
และนอกจาก “โมจิ” จะเป็นเมนูของหวานแล้วยังสามารถทานเป็นของคาวได้อีกด้วยนะ อย่างเมนูนี้ “โอะโซวนิ” หรือซุปโมจิ เป็นอาหารที่ขาดไม่ได้เลยในช่วงปีใหม่ มันคือโมจิย่างหอมๆที่ใส่อยู่ในน้ำซุปไก่ หรือ น้ำซุปดาชิ มีสาหร่าย เนื้อไก่ และผักต่างๆ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งโมจิก็เปรียบเสมือนเส้นราเมง โซบะ อูด้ง ที่เรากินคู่กับซุปกันปกตินั่นแหละค่ะ มีรสสัมผัสที่เหนียวนุ่มกัดแล้วจะยืดๆ ให้ความหมายว่าชีวิตจะได้ยืนยาวนั่นเอง
เรายังคงอยู่กันที่งานเฉลิมฉลองปีใหม่กันต่อ…
แน่นอน…! ว่าปีใหม่จะต้องมีการบูชาเทพเจ้าด้วยเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ และหนึ่งในนั้นก็คือ “คะกะมิโมจิ”
เป็นขนมที่ใช้บูชาเทพเจ้าในวันขึ้นปีใหม่ มีลักษณะเป็นโมจิก้อนกลมๆแบนๆสองก้อนวางซ้อนกันแล้วมีส้มวางไว้ด้านบนสุด โดยชาวญี่ปุ่นจะวาง คะกะมิโมจินี้ ไว้บนหิ้ง จนถึงวันที่ 11 มกราคม จากนั้นก็จะนำมาทานกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ และใช้มือบิหรือใช้ค้อนทุบเท่านั้น ห้ามใช้มีดโดยเด็ดขาดเพราะจะมีความหมายในเชิงอัปมงคลทันที และอย่างที่เกริ่นไปในข้างต้นว่า โมจิเป็นอาหารจานหลักของคนอิวาเตะ ก็สามารถยืนยันด้วยเมนูนี้ “โมจิฮอนเซน” ที่ประกอบไปด้วยโมจิราดซอสถึง 9 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ รสวอลนัต รสผักเขียว รสกุ้งแห้ง รสขิง รสหัวไชเท้า รสเต้าหู้หวาน รสถั่วแระบด รสถั่วแดงบด และรสงาดำบด ที่คุณสามารถพบเห็นเมนูนี้ได้ในร้านอาหารของอิวาเตะ โดยเค้าจะนิยมเสิร์ฟเมนูนี้เป็นอาหารกลางวัน และนอกจากนี้คุณยังสามารถพบเห็น โมจิฮอนเซน ในงานแต่งงานและงานศพของญี่ปุ่นได้อีกด้วย ( บอกแล้วว่าโมจิมีอยู่ทุกงานจริงๆ… )
และถ้าคุณเป็นคนที่ไม่อยู่เฉย มีความรู้สึกกระดี๊กระด๊ามีความสุขทุกที ที่ได้ทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมและอยากที่จะเรียนรู้การทำโมจิ เราขอเสนอสถานที่นี้เลย “ถนนอิชิโนะเซะกิ-ฮิไรซูมิ โมจิ โร้ด (Ichinoseki-Hiraizumi Mochi Road)” ป็นถนนที่รวบรวมร้านขายโมจิแสนอร่อยเหาะ เหมาะอย่างยิ่งแก่การซื้อรับประทานเองและซื้อไปเป็นของฝาก และถ้าหากอยากเลิ้มลองเมนู โมจิฮอนเซน ก็มากันได้ที่นี่ มีเสิร์ฟกันแทบทุกร้านแหละ
และที่สำคัญที่ซู้ดด!!! คุณยังสามารถโชว์ฝีไม้ลายมือการทำโมจิสดๆได้ด้วยตัวคุณเอง ให้คนญี่ปุ่นได้ทึ่งกันไปเลย 555+ แต่ก่อนอื่นก็ต้องดูเค้าสาธิตกันก่อนนะ ซึ่งเค้าก็จะทำให้ดูตั้งแต่โมจิสูตรโบร่ำโบราณยันสูตรใหม่ๆใสกิ๊ง ฟรุ้งฟริ้ง ให้คุณได้ร่วมชมร่วมชิมและร่วมทำอย่างสนุกสนาน
ขอบอกเลยว่างานนี้คนรักวัฒนธรรมไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด รับรองว่าคุณจะได้เพลิดเพลินจำเริญใจไปกับความสนุกสนานหรรษาที่ได้จากการเรียนรู้วัฒนธรรมโมจิของคนอิวาเตะ ที่อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีให้คุณได้มาสัมผัสชื่นชมกัน เพราะฉะนั้นหาโอกาสไปซึมซับความรู้สึกดีๆที่นี่กันนะคะ แล้วคุณจะได้รู้จักกับ “โมจิ” กันอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นแน่นอน