ฮั่นแน่..รออัพเดตกันอยู่รึเปล่า วันนี้เป็นคิวของ ใบไม้เปลี่ยนสี หรือโมมิจิ ช่วงเวลาสุดโรแมนติกที่หลายคนรอคอย(ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน) ที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ใครที่จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วก็คงกำลังหาข้อมูลกันเป็นระวิง แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้จองตั๋ว ก็คงต้องเร่งมือกันหน่อยแล้วล่ะ
เราเคยคุยกับเพื่อนฝรั่งที่เจอกันบนรถไฟ Sagano Torokko รถไฟสายท่องเที่ยวแถวอาราชิยาม่าที่แล่นเรียบแม่น้ำ Hozu เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยความสงสัยว่า ประเทศที่เธอจากมาก็มีใบไม้เปลี่ยนสีนี่นา ทำไมถึงยังตื่นเต้นกับใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นอีก เธอเปรียบเปรยให้ฟังว่า ก็เหมือนกับสนามหญ้าหน้าบ้านนั่นแหละ หน้าบ้านคนอื่นย่อมเขียวกว่าหน้าบ้านเราเสมอ ที่ประเทศฉัน ใบไม้จะเปลี่ยนสี ก็เปลี่ยนสีไป ไม่มีใครให้ความสำคัญหรอก แต่ดูที่นี่สิ ทุกคนให้ความสำคัญ มันกลายเป็นวัฒนธรรม เป็นเทศกาลที่เราต้องปฏิบัติตามอย่างเต็มใจ เธอบอกด้วยสีหน้าอิ่มเอม
สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศญี่ปุ่นมีกูรูหลายต่อหลายคนแนะนำไว้อย่างมากมายแล้ว แต่มัชรูมทราเวลนั้นเราอยากจะแนะนำการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่เหมือนใคร เพราะนี่ไม่ใช่การเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีตามสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แต่เป็นการชมใบไม้เปลี่ยนสีในรูปแบบการไปพักแรมหรือแคมป์ปิ้ง ซึ่งเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังมา… คนญี่ปุ่นหลงใหลการแคมป์ปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ แคมป์ปิ้งจึงเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแม้กระทั่งองค์กร ดังนั้นในญี่ปุ่นจึงมีสถานที่สำหรับแคมป์ปิ้งอย่างเป็นกิจจะลักษณะมากมายให้ได้เลือกสรร คนญี่ปุ่นเรียกสถานที่สำหรับแคมป์ปิ้งว่า แคมป์ปิ้งหรือแคมป์โจ (Camp Site) ด้วยความที่กิจกรรมแคมป์ปิ้งเป็นที่นิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JNTO) จึงทำการโปรโมทแคมป์โจต่างๆให้ชาวต่างชาติได้มีโอกาสไปสัมผัสการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นกันบ้าง ถึงกับมีมีการทำลิสต์รวบรวมแคมป์โจทั่วประเทศกว่า 3,000 แห่งไว้เป็นแนวทางสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติให้เลือกกันจนตาลายเลยทีเดียว
แค่นึกถึงกิจกรรมสำหรับแค้มป์ปิ้งก็น่าสนุกแล้ว ทั้งกางเต็นท์ ทำอาหาร ตกปลา เดินชมธรรมชาติไปตามเทรล ตอนค่ำๆกับกิจกรรมรอบกองไฟ ยิ่งช่วงโมมิจิที่อากาศเริ่มหนาวเย็นด้วยแล้ว การนั่งผิงไฟปิ้งมาชเมลโล่ จิบโก้โก้อุ่นๆท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติก็ทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว มัชรูมทราเวลจึงอยากจะเลือก 4 แคมป์โจที่ดีที่สุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี มาให้เพื่อนๆได้พิจารณากันค่ะ
Cr.Pic : nihonalpskankou.com, FB/morinoresortkonashi
1. Konashidaira Camping Retreat (森のリゾート小梨)
ความโดดเด่นของแคมป์นี้ : ถ้าเปรียบพื้นที่กางเต็นท์เป็นเวที จุดกางเต็นท์ของแคมป์นี้มีฉากหลังเป็นวิวภูเขา Japan Alps แห่ง Kamikoji ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี มีผ้าม่านเป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เป็นเวทีทางธรรมชาติที่สวยงามและประณีตที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
ช่วงเวลาให้บริการ : ตลอดทั้งปี
ค่าเช่าพื้นที่ตั้งเต็นท์ : 800 เยน/คืน/คน
ระดับความอินเทรนด์ : ☆☆☆☆☆
วิธีการเดินทาง : 5-7 ชั่วโมงโดยรถบัส Alpico วิ่งตรงจากสถานีสู่ชินจูกุสู่ Kamikoji สามารถตรวจสอบตารางรถบัสได้ตามเว็บ www.alpico.co.jp/en/transportation/overview.php?id=4
เว็บไซต์ : www.nihonalpskankou.com
แผนที่ :
2. Shobugashima Camp-Jo （菖蒲が浜キャンプ場）
ความโดดเด่นของแคมป์นี้ : สามารถล่องเรือชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขาได้ตั้งแต่เช้าตรู่ กลุ่มหมอกบางๆที่ลอยเหนือแผ่นน้ำในยามเช้า กับแสงแดดอ่อนๆที่ค่อยๆ อาบใบไม้เมเปิ้ลสีสันสวยงาม เป็นเช้าวันใหม่ที่ตราตรึงในความทรงจำไม่รู้ลืม
ช่วงเวลาให้บริการ : 1 พฤษภาคม จนถึง 30 ตุลาคม
ค่าเช่าพื้นที่ตั้งเต็นท์ : 1,000 เยน/คืน/คน
ระดับความอินเทรนด์ : ☆☆☆☆
วิธีการเดินทาง : 70 นาทีโดยรถบัสสาย Nikko หรือ Tobu จากสถานีรถไฟ Nikko ไปลงที่ป้าย Shobugahama Motor Hatchakuji
เว็บไซต์ : www.shoubugahama.co.jp/
แผนที่ :
3. Miyajima Tsutsumigaura Camp-Jo (宮島包ヶ浦自然公園)
ความโดดเด่นของแคมป์นี้ : ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่าที่มีสัญลักษณ์เป็นเสาโอริอิกลางน้ำ สถานที่ชมวิวที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเมืองฮิโรชิม่า ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เกาะมิยาจิม่า ก็เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะเกาะทั้งเกาะจะถูกประดับประดาไปด้วยสีเหลืองส้มแดงไปทั่วบริเวณ
ช่วงเวลาให้บริการ : ตลอดทั้งปี
ค่าเช่าพื้นที่ตั้งเต็นท์ : 500 เยน/คืน/คน (ค่าเช่าเต็นท์ 2,800 บาท สำหรับ 4 คน)
ระดับความอินเทรนด์ : ☆☆☆☆
วิธีการเดินทาง : 10 นาทีโดยรถบัสจากท่าเรือ Miyajima ไปลงที่ป้าย Miyajima Tsutsumigaura Camp-Jo
เว็บไซต์ : www.tsutsumigaura.com/en/index.html
พิกัด (แผนที่) :
4. Koyodai Camp-Jo
ความโดดเด่นของแคมป์นี้ : แคมป์นี้ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ Saiko ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ทะเลสาบที่อยู่รายรอบภูเขาไฟฟูจิ ท่านจะได้ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีรอบทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ
ช่วงเวลาให้บริการ : ตลอดทั้งปี
ค่าเช่าพื้นที่ตั้งเต็นท์ : 1,080 เยน/คืน/คน
ระดับความอินเทรนด์ : 3 ดาว
เว็บไซต์ : www.koyodai.info/english.html
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย Chuo Express 1.45 ชั่วโมงจากสถานีชินจูกุ ถึงสถานีรถไฟ Wakaguchiko ต่อรถบัสสาย Green Line
แผนที่ :
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับแคมป์โจที่มัชรูมทราเวลาได้คัดสรรมาให้พิจารณากัน หวังว่าคงจะพอเป็นไอเดียในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแนวใหม่ให้เพื่อนๆได้สนุกกันเพิ่มขึ้นนะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเทรนด์อะไร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ