“To my mind, the greatest reward and luxury of travel is to be able to experience everyday things as if for the first time, to be in a position in which almost nothing is so familiar it is taken for granted.” – Bill Bryson
อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ไม่ถนัดในการหาข้อมูลเดินทางด้วยตัวเอง ภาษาอังกฤษก็งูๆ ปลาๆ ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่กระดิกหู จะทำอย่างไรดีหนอที่จะเที่ยวได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องกังวล
สำหรับใครที่กำลังตกอยู่ในสภาวะคิดไม่ตกแบบนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไรดี ถ้าให้มัชรูมทราเวลแนะนำ ก็คงต้องบอกว่า ซื้อทัวร์จะดีกว่าไหมคะ? เพราะนอกจากจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรให้ยุ่งยาก นอกจากเตรียมกระเป๋าเดินทางและแลกเงินไว้จับจ่ายใช้ช้อปปิ้งซื้อของให้กับตัวเองเท่านั้น เพราะค่าทัวร์ที่คุณจ่ายในเบื้องต้นจะรวมถึงตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร การเดินทางอยู่แล้ว และหากลองชั่งน้ำหนักตัดสินใจได้แล้ว จากนั้นก็เลือกบริษัททัวร์ที่คุณไว้วางใจแล้วก็ไปกันเล้ย
ทั้งนี้หากพูดถึงการท่องเที่ยวญี่ปุ่น มัชรูมทราเวลเองก็มีโปรแกรมมากมายหลายอย่างหลายเส้นทางให้เลือก ตามแต่รสนิยมของแต่ละคน และครั้งนี้เราจะมาแนะนำอีกหนึ่งโปรแกรมที่น่าจะถูกใจหญิงสาวทั้งหลาย เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายด้วยการเล่นสกีแล้ว ยังสามารถช้อปปิ้งกันอย่างเต็มอิ่มอีกด้วยค่ะ
ฟูจิเทนสกีรีสอร์ท (Fujiten Snow Resort)
เริ่มจากการไปเยือนสกีรีสอร์ทกันก่อนเลยค่ะ ที่สกีรีสอร์ทเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของภูเขาไฟฟูจิ ทางด้านที่สามารถมองเห็นทะเลสาบรอบๆ ฟูจิทั้งห้าแห่งนั่นแหละค่ะ แต่ถึงที่นี่จะเป็นสกีรีสอร์ทเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนะคะ แถมที่นี่ยังมีมุมถ่ายภาพได้สวยสุดๆ อีกด้วย ในส่วนลานสกีของรีสอร์ทก็มีแบ่งออกอย่างชัดเจนระหว่างพื้นที่สำหรับผู้เริ่มต้น โดยในระยะ 500 เมตรแรกจะมีความลาดชันต่ำ และไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ รวมถึงพื้นที่สำหรับผู้เล่นมืออาชีพหรือเคยมีประสบการณ์การเล่นสกีมาบ้าง อันนี้ก็จะมีความชันความสูงที่มากขึ้นไปอีก นอกจากนั้นก็ยังมีพื้นที่ซึ่งเป็นลานขนาดใหญ่ให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ด้วย
เวลา เปิด-ปิด: 08.30-22.00 น.
ระดับความน่าไป: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: เนื่องจากไม่มีระบบขนส่งสาธารณะไปยัง Fujiten Snow Resort ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวไม่ได้เดินทางไปกับทัวร์ ก็ต้องนั่งรถไฟไปลงสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Kawaguchiko Station จากนั้นนั่งแท๊กซี่ไปประมาณอีกประมาณ 20 นาที (ราคาประมาณ 4,500 เยน) หรือจะเช่ารถยนต์ขับไปเองจากร้านใกล้ๆ สถานี Kawaguchiko Station ก็ได้
แผนที่:
นากามิเซะ (Nakamise Dori)
มาถึงการช้อปปิ้งเอาใจคุณผู้หญิงกันบ้างค่ะ หลังจากไปไหว้พระที่วัดอาซากุสะเสร็จเรียบร้อย เมื่อเดินกลับมาที่ถนนเส้นเดิมที่ทอดยาวจากถนนหลักเข้าสู่พื้นที่ภายในของวัด ซึ่งมีความยาวประมาณ 200 เมตร จะสังเกตเห็นว่าตลอด 2 ช้างทางนั้นจะเต็มไปด้วยของขายมากมาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นของฝากของที่ระลึกประเภทชุดยูกาตะ ร่มพับ พวงกุญแจ พัด ตุ๊กตา เข็มกลัด เสื้อยืด รวมถึงขนมญี่ปุ่นหลายแบบหลากรสชาติให้ได้ซื้อหาติดไม้ติดมือไปฝากคนที่เมืองไทย
เวลา เปิด-ปิด: 08.30 – 20.00 น.
ระดับความน่าไป: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: เดิน 5 นาที จากสถานีรถไฟ Asakusa Station
แผนที่:
ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
แหล่งช้อปปิ้งแห่งที่สองตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว และมีพื้นที่ใหญ่โตกว่าแห่งแรกและมีผู้คนพลุกพล่านกว่ามาก ด้วยเป็นทั้งที่ตั้งของสถานีรถไฟชินจูกุ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมาย โดยชินจูกุได้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งใหญ่ๆ ด้วยกัน นั่นคือฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ และฝั่งทิศตะวันออกที่เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นชิลล์ๆ หรือช้อปปิ้งอย่างที่สุด เพราะเต็มไปด้วยศูนย์การค้า ร้านขายเครื่่องใช้ไฟฟ้า ร้านขายสินค้าแฟชั่น ร้านขายสินค้าลดราคาและสินค้ามือสอง ร้านอาหาร และยังเป็นแหล่งบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย
เวลา เปิด-ปิด: 10.00-21.00 น.
ระดับความน่าไป: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: เดินประมาณ 3 นาทีจากสถานี Shinjuku Station
แผนที่:
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
แหล่งช้อปปิ้งแห่งที่สาม ถือเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยเท่านั้น เพราะฮาราจูกินนอกจากจะเป็นถนนสายแฟชั่นที่เต็มไปด้วยศูนย์การค้า ร้านเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นสำหรับทุกเพศทุกวัยแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ ร้านอาหารหน้าตาดี ตลอดจนศาลเจ้า และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้เราได้พักผ่อนระหว่างการช้อปปิ้ง ที่สำคัญยังมีย่านที่หนุ่มสาวชาวคอสเพลย์นิยมมาเดินกันด้วยค่ะ
เวลา เปิด-ปิด: 10.00-20.00 น.
ระดับความน่าไป: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Yamanote Line มาลงที่สถานี Harajuku Station หรือนั่งรถไฟสาย Tokyo Metro Chiyoda Line และ Fukutoshin Line มาลงที่สถานี สถานี Meiji-Jingumae ‘Harajuku’ Station
แผนที่:
ย่านชิบูยะ (Shibuya)
แหล่งช้อปปิ้งแห่งสุดท้ายในบทความนี้ มัชรูมทราเวลจะพาคุณไปยังย่านแฟชั่นของวัยรุ่นในกรุงโตเกียว ที่มีสัญลักษณ์เป็นอนุสาวรีย์สุนัขอย่างฮาจิโกะ ที่ในอดีตเคยมานั่งเฝ้ารอเจ้านายที่นี่เป็นเวลาถึง 11 ปี ก่อนที่จะมันจะเสียชีวิต ส่วนในเรื่องของการช้อปปิ้ง ใครที่ใคร่อยากอัพเดทแฟชั่นใหม่ๆ ของหนุ่มสาวชาวอาทิตย์อุทัยว่าไปถึงไหนกันแล้ว ก็ควรจะมาที่นี่เลยค่ะ รับรองว่ามีให้เลือกอย่างครบครันนับตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว นอกจากนั้นพอช้อปปิ้งเสร็จ หากรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหรือหิวโซ ที่นี่ก็มีทั้งคาเฟ่และร้านอาหารที่มีหลากหลายราคาให้เลือกสรร
เวลา เปิด-ปิด: 10.00-21.00 น.
ระดับความน่าไป: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: 1. นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีเหลือทอง), สาย F-Fukutoshin Line (สีน้ำตาลแดง), สาย Z-Hanzomon Line (สีม่วง) ลงสถานี G01/F16/Z01-Shibuya 2. นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line (สายวงกลม-สีเขียว) ลงสถานี Shibuya 3. นั่งรถไฟ Tokyu Line สาย Tokyu Den-en-toshi Line (DT), สาย Tokyo Toyoko Line (TY) ลงสถานี Shibuya (ต้นสาย)
แผนที่: