สำหรับหนุ่มโสดสาวโสดที่อยากเจอเนื้อคู่เร็วๆ หรือไม่โสดแต่อยากให้ความรักมั่นคงยืนยาว อีกหนึ่งทริคที่หลายคนนิยมไปทำกันก็คือการไปมู วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยนำ 10 ศาลเจ้าญี่ปุ่น ขอพรความรัก ที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าเหลือเชื่อ มาฝากเพื่อนๆ ใครที่มีแพลนจะไป เที่ยวญี่ปุ่น แต่ยังไร้คู่ หรืออยากให้ความรักปังขึ้นไปอีก ก็ไปตามรอยได้เลย!
1. ศาลเจ้าโคอิโนะคิ – ฟุกุโอกะ
ศาลเจ้าโคอิโนะคิ (Koinoki Shrine) เป็นศาลเจ้าย่อยที่ตั้งอยู่ในเขตของศาลเจ้ามิซุตะ ในจังหวัดฟุกุโอกะ มีชื่อเสียงด้านการขอพรเรื่องความรัก เป็นที่ประดิษฐาน “โคอิโนมิโคโตะ (Koi-no-Mikoto)” เทพเจ้าแห่งความรัก บริเวณศาลเจ้ามีการตกแต่งด้วยรูปหัวใจ และสีชมพูสุดน่ารัก ทำให้เป็นที่นิมยมในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่น ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้าจะเรียงรายด้วยแผ่นเซรามิกรูปหัวใจ เครื่องราง เซียมซีแบบญี่ปุ่น และแผ่นภาพสำหรับเขียนคำอธิษฐานที่มีการออกแบบรูปหัวใจ นอกจากจะได้ขอพรแล้ว ยังได้ภาพสวยๆ กลับไปอีกด้วย
การเดินทาง :
– นั่งรถไฟสาย JR Kagoshima Line ลงสถานี Hainuzuka Station แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
– นั่งรถไฟสาย JR Kagoshima Honsen ลงสถานี Chikugo-Funagoya Station แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 8 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/JDqt2dc57TQmJSAt7
2. ศาลเจ้าไดจินกู – โตเกียว
ศาลเจ้าไดจินกู (Tokyo Daijingu) แห่งโตเกียว คือ ศาลเจ้าในญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามีเทพแห่งความรักสิงสถิตอยู่ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็น ศาลเจ้าญี่ปุ่น ขอพรความรัก ยอดนิยมสำหรับคนโสด ที่มักจะมาขอพรให้สมหวังอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะในช่วงวาเลนไทน์ ที่ดูเหมือนว่าศาลเจ้าไดจินกูดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งวิธีการขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแค่โค้งคำนับ 2 ครั้ง จากนั้นก็ตบมือ 2 ครั้ง ขอพรที่ต้องการ เสร็จแล้วก็โค้งคำนับอีกรอบ เพียงแค่นี้ความรักก็จะสมหวังแล้วล่ะค่ะ ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อเครื่องรางจากที่นี่ติดตัวไว้ด้วยนะคะ โดยศาลเจ้าไดจินกูนั้นมีเครื่องรางให้เลือกซื้อหลายแบบ ทั้งเครื่องรางนำโชคของคนโสด เครื่องรางนำสุข และเครื่องรางแต่งงานแสนสุข
การเดินทาง : จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR สาย Chuo มาลงที่สถานี Ochanomizu แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Chuo/Sobu ไปลงที่สถานี Iidabashi จากนั้นเดินอีก 3 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/vQpjuxC9kiV6qbFf8
3. ศาลเจ้าอิมะโดะ – โตเกียว
ศาลเจ้าอิมะโดะ (Imado Shrine) ตั้งอยู่ใกล้กับวัดอาซากุสะ มีความโดดเด่นแตกต่างจากที่อื่นคือ มีแมวกวัก หรือ มาเนกิเนะโกะ (Manekineko) ตั้งอยู่มากมายทั่วทั้งศาลเจ้า มีตำนานเล่าว่าในสมัยเอโดะมีหญิงชราคนหนึ่งเลี้ยงแมวไว้ แต่ด้วยความยากจนทำให้ไม่สามารถเลี้ยงแมวตัวนั้นต่อได้ เมื่อคุณยายนำแมวไปปล่อย ก็ฝันว่าแมวมาบอกให้ปั้นตุ๊กตารูปแมวขึ้นมาแล้วจะโชคดี ทำให้มีการทำตุ๊กตาแมวกวักในแบบอิมาโดะยากิ และเกิดเป็นความเชื่อต่อมาเรื่อยๆ ว่าถ้าจะมาขอพรเรื่องโชคลาภให้มาขอกับแมวกวักที่นี่ ส่วนใครอยากขอพรเรื่องความรักแนะนำให้มาเขียนคำอธิษฐานบนแผ่นป้ายรูปแมวกวัก 2 ตัว ใครสมหวังแล้วให้เขียนบนแผ่นรูปแมวกวักแต่งงาน นอกจากนี้ยังสามารถซื้อเครื่องรางแบบพกพากลับไปได้อีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่า Ginza Line หรือสายอาซากุสะ (Asakusa Line) มาลงที่สถานีอาซากุสะ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/gTwEWD4fpDHJSAK96
4. ศาลเจ้าฟุตะมิโอะคิตามะ – มิเอะ
ศาลเจ้าฟุตะมิโอะคิตามะ (Futami Okitama Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ของจังหวัดมิเอะ มีสิ่งหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าหากใครมาขอพรเรื่องความรักแล้วจะสมหวังดังปรารถนากันทุกคน นั่นก็คือ เมะโอะโทะอิวะ (Meoto Iwa) หรือ หินแต่งงาน ซึ่งมีลักษณะเป็นหิน 2 ลูกตั้งอยู่ในทะเล โดยมีเชือก Oshimenawa เชื่อมคล้องกันเอาไว้ คล้ายกับด้ายมงคลของคู่บ่าวสาว ผู้คนมักนิยมมาอธิษฐานขอพรหินแต่งงานนี้เพื่อให้มีชีวิตสมรสที่มีความสุข และครองคู่กันให้ยาวนานเหมือนกับหินทั้ง 2 ก้อนนี้
การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Futamino-Ura Station จากนั้นจึงต่อรถแท็กซี่ไปอีก 7 นาที หรือเดินไปอีก 15 นาที หรือนั่งรถบัสจากสถานี Iseshi ไปลงที่ป้าย Meoto Iwa Higashiguchiช แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/SuriGcedZXX4QvUG9
5. ศาลเจ้าจิชุจินจะ – เกียวโต
อีกหนึ่ง ศาลเจ้าญี่ปุ่น ขอพรความรัก ที่คนโสดไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนเกียวโตก็คือ ศาลเจ้าจิชุจินจะ (Jishu Shrine) ศาลเจ้าที่มีอาณาเขตติดกับวัดดังอย่าง วัดคิโยมิสุ หรือ วัดน้ำใส โดยศาลเจ้าจิชุจินจะจะตั้งอยู่ทางเหนือของวิหารหลักของวัด ใช้ทางเข้าหลักทางเดียวกับวัดคิโยมิสุได้เลย ซึ่งจุดไฮไลต์ของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ก้อนหินทำนายรัก โดยเป็นหิน 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร เรียกกันว่า “หินตาบอด” เชื่อกันว่าถ้าสามารถหลับตาแล้วเดินจากหินก้อนหนึ่งไปยังหินอีกก้อนได้โดยท่องชื่อคนรักไว้ในใจจะทำให้สมปรารถนา นอกจากนั้นภายในศาลเจ้ายังมีเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ด้านความรักต่างๆ ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ
การเดินทาง : จากสถานี JR Kyoto ขึ้นรถบัสด่วนสาย 100 หรือสาย 206 มุ่งหน้าสู่ Higashiyamadori/Kitaoji Bus Terminal ลงที่ป้าย Gojozaka แล้วเดินต่อ 10 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/6NycrUPXpDD5TK6m7
6. ศาลเจ้าอิซูโมะ ไทฉะ – ชิมะเนะ
ศาลเจ้าอิซูโมะ ไทฉะ (Izumo Taisha Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองชื่อเดียวกับศาลเจ้า ภายในจังหวัดชิมะเนะ บนเกาะฮอนชู ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก เพราะศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพเจ้าโอคุนินุซึโนะ โอคะมิ ที่เป็นเทพเจ้าของความสัมพันธ์ และการสมรส ทำให้คนโสดและไม่โสดนิยมมาขอพรความรักที่นี่เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ส่วนวิธีการขอพรนั้นก็จะแตกต่างจากศาลเจ้าอื่นๆ ตรงที่ต้องปรบมือ 4 ครั้งหลังจากโค้งคำนับ โดย 2 ครั้งแรกจะหมายถึงตัวเราเอง ส่วน 2 ครั้งหลังหมายถึงคนรักหรือคนที่เรากำลังแอบชอบนั่นเอง
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Taisha ไปลงที่สถานี Izumo Taisha Mae จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 8 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/wmML2cjU41hxN32E8
7. ศาลเจ้าโคอิโนะมิซุ – เมืองนาโกย่า, ไอจิ
ไปมูกันต่อที่ ศาลเจ้าโคอิโนะมิซุ (Koinomizu Shrine) อีกหนึ่ง ศาลเจ้าในญี่ปุ่น ที่คนนิยมมาขอพรเรื่องความรัก ชื่อศาลเจ้ามีความหมายว่า ศาลเจ้าแห่งสายน้ำของความรัก เชื่อกันว่าช่วยรักษาอาการป่วยจากความรัก มีวิธีสักการะคือให้นำแก้วกระดาษมาเขียนคำอธิษฐาน จากนั้นเติมน้ำจากบ่อใส่ในแก้วครึ่งหนึ่งแล้วนำไปถวาย สั่นกระดิ่งและขอพร นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแผ่นป้ายขอพรรูปหัวใจ รวมทั้งเครื่องราง ที่ด้านในมีกระดาษรูปร่มให้เขียนชื่อตนเองฝั่งซ้าย และเขียนชื่อคนที่หมายปองทางฝั่งขวา
การเดินทาง : จากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) ขึ้นรถไฟสาย Meitestu Chita line ลงสถานีชิตะโอคุดะ (Chita Okuda Station) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/uBtSJ6a44arAEvkr6
8. ศาลเจ้าทะมัตสึคุริ อินาริ – โอซาก้า
ไปต่อกันที่อีกหนึ่ง ศาลเจ้าญี่ปุ่น ขอพรความรัก อย่าง ศาลเจ้าทะมัตสึคุริ อินาริ (Tamatsukuri Inari Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ว่ากันว่าสร้างขึ้นใน 12 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ชื่อของศาลเจ้าได้มาจากผู้ผลิตอัญมณีที่ชื่อว่า มะกะทามะ (Magatama) ศาลเจ้านี้เป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นบ้านเกิดของเทพเจ้าผู้พิทักษ์ปกป้องปราสาทโอซาก้า ภายในศาลเจ้ามีพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงอัญมณี โบราณวัตถุ เครื่องปั้นดินเผา เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อัญมณี และขั้นตอนการทำอัญมณีให้ชม ส่วนใครที่อยากมาขอพรเรื่องความรัก ให้มาเขียนคำอธิษฐานที่ป้ายขอพร เอมะ (Ema) รูปสุนัขจิ้งจอกนั่งเข้าหากันเป็นรูปหัวใจ ผู้ชายเขียนชื่อฝั่งซ้าย (สุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่) ส่วนผู้หญิงเขียนชื่อฝั่งขวา (สุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก) จากนั้นเขียนคำอธิษฐานและวันที่ด้านล่าง แล้วจึงนำไปแขวนเพื่อส่งสารให้เทพเจ้ารับรู้และให้พร
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Nagahori Tsurumi Ryokuchi ลงสถานี Tamatsukuri Station จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 8 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NdaFC4UCG6RKNRj27
9. ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ – ไซตะมะ
ถัดมากับ ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) อีกหนึ่ง ศาลเจ้าในญี่ปุ่น เก่าแก่อายุกว่า 1,500 ปี ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าในศาสนาชินโต 5 พระองค์ ซึ่งแต่ละพระองค์ต่างก็เป็นคู่สามีภรรยา หรือเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ทำให้คนนิยมมาขอพรเรื่องความรัก การมีคู่ครอง ครอบครัว สำหรับไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ เซียมซีรูปปลาไท่ ซึ่งจะมีกระดาษเซียมซีเสียบอยู่ที่ปากปลา แบ่งเป็น 2 สี คือ สีแดงจะเป็นเรื่องทั่วไป ส่วนสีชมพูจะเป็นเรื่องความรัก นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์เอมะ แผ่นไม้สำหรับเขียนคำอธิษฐานที่แขวนเรียงรายกัน ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 600 ปี ที่เชื่อกันว่าถ้าเดินวนเป็นรูปเลข 8 จะได้รับพลัง ศาลเจ้าเล็กๆ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ให้ได้ขอพรอีกมากมาย
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tobu Tojo Line มาลงที่สถานี Kawagoe จากหน้าสถานี Kawagoe Station จากนั้นนั่งรถบัสที่ป้ายหมายเลข 7 มาลงที่ป้าย Kawagoe Hikawa Shrine
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/8i4np2M2kiWQ5kQS6
10. ศาลเจ้าอะคะงิ – กุนมะ
ปิดท้าย ศาลเจ้าญี่ปุ่น ขอพรความรัก กันด้วย ศาลเจ้าอะคะงิ (Akagi Shrine) ศาลเจ้าสีแดง ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ยื่นไปในทะเลสาบโอนุมะ ศาลเจ้าสีแดงตัดกับทะเลสาบสีฟ้า และป่าสีเขียวบนภูเขาในฤดูร้อน ทำให้ที่นี่มีความสวยงามโดดเด่น มีสะพานสีแดงสดใสเป็นสัญลักษณ์ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของอิวาทซึทซึ โนะ มิโคโตะ (Iwatsutsuo no Mikoto) เทพเจ้าของญี่ปุ่น และ อากากิฮิเมะ โนะ มิโคโตะ (Akagihime no mikoto) ซึ่งเป็นเทพธิดา เชื่อกันว่าเทพธิดาองค์นี้ช่วยให้การขอพรเรื่องความรักสมหวัง หลายคนจึงนิยมไปขอพรและเสี่ยงเซียมซีกัน ว่ากันว่าแม่นยำมากๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าที่รู้จักในฐานะจุดชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียง ภายในศาลเจ้ามีดอกซากุระปลูกอยู่ประมาณ 50 สายพันธุ์ ทำให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tozai Line ลงสถานี Kagurazaka ทางออกหมายเลข 1 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/pg7PgunfyVHtDDQF6
แต่ละที่ที่พี่เห็ดคัดมาบอกเลยว่าขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีเครื่องรางให้เราได้ซื้อกลับมาพกติดตัว หรือจะซื้อไปเป็นของฝากก็ยังได้ แถมบางที่ยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ อีกด้วย งานนี้นอกจากจะได้เที่ยวแล้ว ก็อาจจะได้แฟนกลับมาด้วย รู้อย่างนี้แล้ว สาวโสดหนุ่มโสดก็อย่าได้รอช้า รีบจองตั๋วจองทัวร์ไปขอพรความรักกันที่ญี่ปุ่นด่วนๆ เลย