เที่ยวเมืองไทยกับพี่เห็ด วันนี้เราจะพาไปเที่ยวกิจกรรมฮิตๆ ที่ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เปิดให้ท่องเที่ยวได้แล้วหลังมาตรการล็อกดาวน์ในสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย แถมยังเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้สบายๆ ใครที่คิดว่ากาญจนบุรีจะมีอะไรให้เที่ยวไปมากกว่าภูเขาและน้ำตก ขอบอกเลยว่าที่นี่มีกิจกรรมสนุกๆ รอเราอยู่เยอะมาก! ใครอยากไป เที่ยวกาญจนบุรี พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี 10 กิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดในกาญจนบุรี มาแนะนำ ตามมาดูเลยค่าา…!!
1. เยือนสะพานข้ามแม่น้ำแคว
เริ่มต้น เที่ยวกาญจนบุรี ไปเยือน สะพานข้ามแม่น้ำแคว หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง โดยเป็นสะพานที่มีทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรจำนวนมากมาสร้างทางรถไฟและสะพานแห่งนี้ ปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เราสามารถเดินบนรางรถไฟเพื่อถ่ายรูปและชมวิวแม่น้ำแควได้ แต่ต้องระวังเวลาที่มีรถไฟวิ่งผ่านด้วยนะคะ เพราะเส้นนี้ยังมีรถไฟวิ่งเป็นปกติทุกวัน และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือ การนั่งรถไฟสายมรณะเพื่อชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำแคว ซึ่งไฮไลท์ของเส้นทางรถไฟแห่งนี้จะอยู่ที่บริเวณ สถานีถ้ำกระแซ ที่เป็นสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อยและหน้าผายาวประมาณ 400 เมตร หรือที่เรียกกันว่าช่วงโค้งมรณะนั่นเอง
2. ชุ่มฉ่ำกับน้ำตกเอราวัณ
เที่ยวกาญจนบุรี กันแบบชุ่มฉ่ำที่ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกขนาดใหญ่ 7 ชั้นที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติของป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ ที่นอกจากจะมีน้ำตกใสสะอาดสีฟ้าอมเขียวให้เราได้เล่นน้ำคลายร้อนกันแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้ดื่มด่ำกับการ เที่ยวไทย ชมธรรมชาติ และเป็นการทดสอบสมรรถภาพความฟิตของร่างกายไปด้วยในตัว โดยที่สองชั้นแรกเราสามารถนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานบริเวณน้ำตกได้ แต่ตั้งแต่ชั้น 3 – 7 สามารถนำเพียงน้ำดื่มติดตัวเข้าไปได้เท่านั้น โดยจะมีค่ามัดจำขวดละ 20 บาท หากขากลับนำขวดกลับลงมาด้วยก็จะได้ค่ามัดจำคืน สำหรับชั้นที่เหมาะจะลงเล่นน้ำที่สุดคือชั้นที่ 2 น้ำเป็นสีฟ้า ไม่ลึกมาก แต่เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้เช่าเสื้อชูชีพใส่ก่อนลงเล่นน้ำด้วยจะดีที่สุดค่ะ
3. ชิลล์กับสายน้ำที่เขื่อนศรีนครินทร์
สายชิลล์มาทางนี้ เที่ยวกาญจนบุรี กับสายน้ำกันต่อที่ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนอเนกประสงค์บนแม่น้ำแควใหญ่ ตั้งอยู่ในอำเภอศรีสวัสดิ์ ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า การชลประทาน การเกษตร ฯลฯ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองกาญฯ ภายในเขื่อนมีแพรีสอร์ท และมีที่พักบริเวณรอบๆ เขื่อนหลากหลายแห่งไว้รองรับนักท่องเที่ยว บริเวณสันเขื่อนจะมีจุดชมวิวที่สวยงาม และมีไฮไลท์อยู่ที่กิจกรรมการล่องเรือชมเขื่อน โดยจะมีไกด์ให้ความรู้ถึงประวัติของเขื่อนแห่งนี้ หรือใครอยากมาพักผ่อนชิลล์ๆ ก็เข้าพักในรีสอร์ท ออกมานั่งแช่น้ำหน้าห้องพักแพ ฟังเสียงลม เสียงน้ำ สูดอากาศให้เต็มปอด แค่นี้ก็ฟินสุดๆ ไปเลยล่ะ
4. ไหว้พระวัดถ้ำเสือ
ใครเป็นสายบุญ เที่ยวไทย ที่กาญจนบุรี ก็มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังให้เราได้ไปสักการะกัน นั่นก็ วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง เป็นวัดที่อยู่บนเนินเขา มีพระประธานองค์ใหญ่สวยงาม ประดับด้วยโมเสคสีทองเด่นเป็นสง่า และมีพระเจดีย์เกษุแก้วมหาปราสาท ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสีส้มสูงใหญ่งดงามตระการตา การจะขึ้นไปยังวัดนี้มีสองวิธีคือ เดินขึ้นบันได หรือ ขึ้นรถรางในราคาคนละ 10 บาท ด้านบนวัดมีจุดชมวิวซึ่งบริเวณด้านหลังของวัดจะเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปวิวภูเขา แม่น้ำแม่กลอง และทุ่งนาสวยๆ ได้จากจุดนี้
5. ตระเวนคาเฟ่ริมทุ่งนา
เที่ยวกาญจนบุรี กันจนเหนื่อย แวะมานั่งพักจิบกาแฟริมทุ่งนากันสักหน่อย ซึ่งที่กาญจนบุรีก็มีคาเฟ่ริมทุ่งนาฮิปๆ อยู่หลายแห่ง ส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่รอบๆ วัดถ้ำเสือเพราะมีวิวทุ่งนาที่สวยงาม พี่เห็ดขอแนะนำคาเฟ่ที่น่าไปเช็คอิน 2 แห่งก็คือ มีนาคาเฟ่ บรรยากาศเหมือนคาเฟ่ในทุ่งนาที่ภาคเหนือเลยทีเดียว มีมุมถ่ายรูปสวยๆ อีกเพียบ ส่วนเครื่องดื่มและขนมหวานก็อร่อย ราคาไม่แพง และอีกหนึ่งแห่งก็คือ สะพานนาคาเฟ่ คาเฟ่น้องใหม่ในย่านนี้ ด้วยการตกแต่งเป็นโรงนาสไตล์โมเดิร์น มีห้องแอร์กระจกใสให้นั่งคลายร้อน ส่วนอาหาร เครื่องดื่ม และขนมนั้นก็อร่อยถูกปาก ราคาถูกใจ ใครมาไหว้พระที่วัดถ้ำเสือแล้วอย่าลืมแวะมาคาเฟ่ริมทุ่งนาเหล่านี้กันด้วยนะคะ
6. ล่องแพชมธรรมชาติ
หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของการ เที่ยวกาญจนบุรี ก็คือ ล่องแพชมธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะ มากับครอบครัวใหญ่ หรือกลุ่มเพื่อนหลายคน โดยจะเป็นการล่องแพใหญ่แบบส่วนตัว บางแพก็จะมีโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องน้ำ ให้กินข้าวไปชมธรรมชาติไป บางแพก็มีคาราโอเกะให้ด้วยนะ พอถึงกลางลำน้ำก็สามารถโดดลงน้ำเล่นได้ ซึ่งผู้ให้บริการล่องแพก็มีมากมายหลายเจ้า ทั้งที่แม่น้ำแคว เขื่อนศรีนครินทร์ หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ แต่ถ้าอยากได้ความตื่นเต้นนิดๆ แอดเวนเจอร์หน่อยๆ และสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ก็มีบริการล่องแพไม้ไผ่เล็กๆ ที่นั่งได้ 3-4 คน ล่องไปตามแม่น้ำต่างๆ อาทิ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำน้อย เป็นต้น เลือกตามความชอบได้เลย
7. เช็คอินที่พักแพลอยน้ำ
มาเที่ยวกาญจนบุรีทั้งทีก็ต้องมาเข้าพักเช็คอินกันใน ที่พักแพลอยน้ำ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย แต่ละที่ก็จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินด้วย อาทิ ล่องแพ พายเรือแคนู เครื่องเล่นกิจกรรมทางน้ำ ฯลฯ ซึ่งที่พักแพลอยน้ำส่วนใหญ่ก็จะมีลักษณะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักที่สร้างขึ้นบนแพริมน้ำ แต่ละห้องก็จะมีระเบียงส่วนตัวให้ออกมานั่งเล่นรับลมเย็นๆ ชมธรรมชาติ และสายน้ำที่ไหลเอื่อย ซึ่งบางแห่งก็สามารถโดดลงน้ำเล่นหน้าห้องพักได้เลย บางแห่งก็จะมีสระว่ายน้ำส่วนกลางให้ด้วย เผื่อใครที่ไม่กล้าลงเล่นน้ำหน้าห้องพัก บอกเลยว่าถ้ามา เที่ยวไทย ที่กาญจนบุรี อย่าลืมมาสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนบนที่พักแพลอยน้ำกันให้ได้นะคะ
8. ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพานมอญ
เที่ยวกาญจนบุรี กันต่อที่ อำเภอสังขละบุรี ที่อยู่ไกลออกไป ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยว unseen มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ สะพานมอญ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในไทย ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปสัมผัสวัฒนธรรมกลิ่นอายของชาวมอญที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น โดยในช่วงเช้าจะคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากๆ หลังจากที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็รอตักบาตรบนสะพาน และเดินชมวิถีชีวิตในช่วงเช้าของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยในแถบนี้ นอกจากนี้บนสะพานมอญยังเป็นจุดชมวิวเขื่อนวชิราลงกรณ์ที่สวยงามจุดหนึ่งอีกด้วย
9. สัมผัสธรรมชาติที่ หมู่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก
ใครที่ชอบ เที่ยวไทย ในบรรยากาศเงียบสงบ สัมผัสอากาศเย็นๆ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ บอกเลยว่าคุณจะต้องหลงรัก หมู่บ้านอีต่อง ที่ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ อย่างแน่นอน ในอดีตที่นี่เคยเป็นเหมืองแร่อันรุ่งโรจน์ แต่ปัจจุบันได้ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน อากาศดีๆ วิวสวยๆ และธรรมชาติโดยรอบที่ยังบริสุทธิ์ มีเส้นทางให้เดินขึ้นไปชมวิวชายแดนไทย-พม่า ท่ามกลางอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
10. เที่ยวแบบลุยๆ ปีนเขาช้างเผือก
ปิดท้ายเอาใจสายลุยด้วยการไปปีน เขาช้างเผือก ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม โดยเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า และมีไฮไลท์อยู่ที่เส้นทางเดินบนสันเขาที่เรียกว่า สันคมมีด อันน่าตื่นเต้นหวาดเสียว เพราะสองข้างทางเดินคือหน้าผาสูงชัน แต่เมื่อเดินขึ้นไปบนยอดเขาก็จะเห็นวิวแบบ 360 องศา ซึ่งเขาช้างเผือกจะเปิดฤดูท่องเที่ยวในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนมกราคมเท่านั้น และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 60 คน เพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติ ในการเดินขึ้นเขานั้นจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร พร้อมกางเต็นท์ค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำทาง และมีลูกหาบช่วยขนสัมภาระให้ ใครที่จะไปต้องทำการจองล่วงหน้าก่อน 7 วันกับทางอุทยานฯ นะคะ