การไปชมซากุระที่ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในช่วงเวลาน่าเที่ยวที่หลายคนรอคอย ซึ่งโดยปกติจะชมได้ชมประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน แต่ก็มีซากุระสายพันธุ์พิเศษที่จะบานก่อนหน้านั่น นั่นก็คือ ซากุระคาวาซุ (Kawazu Sakura) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ซากุระที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงในญี่ปุ่น มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่เมืองคาวาซุ จังหวัดชิซุโอกะ ซากุระสายพันธุ์นี้นอกจากจะมีสีสันที่สวยงามแล้ว ยังมีความพิเศษตรงที่บานเร็วและนานกว่าซากุระสายพันธุ์อื่นๆ ในบทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล พาทุกคนไปสำรวจ เทศกาลซากุระคาวาซุ ตั้งแต่ช่วงเวลาบาน วิธีการเดินทาง ไปจนถึงจุดไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด จะสวยงามน่าเที่ยวขนาดไหน ไปชมพร้อมๆ กันเลย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชม ซากุระคาวาซุ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชม ซากุระคาวาซุ คือ ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ และบานเต็มที่ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม โดยจุดเด่นคือดอกซากุระจะบานสะพรั่งยาวนานประมาณ 1 เดือน ทำให้ผู้ที่มาเยือนมีโอกาสสัมผัสความงามของซากุระในช่วงต้นปีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแตกต่างจากซากุระสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมทั่วไป เช่น โซเมอิโยชิโนะ (Somei Yoshino), ชิดาเระซากุระ (Shidare Sakura) ที่มักจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน และจะบานเพียงช่วงสั้นๆ ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
เที่ยวเทศกาลซากุระเมืองคาวาซุและจุดชมวิวที่น่าสนใจ
เทศกาลซากุระคาวาซุประจำปี 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมที่เมือง คาวาซุ Kawazu ในจังหวัดชิซุโอกะ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ซากุระคาวาซุบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศและความสวยงามของซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิได้อย่างเต็มที่ โดยมีจุดไฮไลต์ในการชมวิวซากุระบานที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ริมแม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River)

ทางเดินริมแม่น้ำคาวาซุเป็นจุดเด่นของเทศกาลที่ไม่ควรพลาด ด้วยระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร เรียงรายไปด้วยต้น ซากุระคาวาซุ กว่า 8,000 ต้น ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของดอกซากุระสีชมพูสดใส บานสะพรั่งตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและผืนน้ำ บางจุดมี ดอกนาโนะฮานะ (Nanohana) หรือดอกเรพซีด สีเหลืองบานอยู่ใต้ต้นซากุระ เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการเดินชมวิว ถ่ายภาพ และดื่มด่ำกับธรรมชาติในบรรยากาศที่ร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่จำหน่ายอาหาร สินค้าท้องถิ่น ของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อกัน ไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดก็คือ ไทยากิ (Taiyaki) ขนมรูปปลาสีชมพูสุดน่ารัก ด้านในสอดไส้ถั่วแดง มีความกรอบนอกนุ่มใน ไม่หวานมาก รสชาติอร่อยแถมถ่ายรูปสวยด้วย
2. ไฟประดับยามค่ำคืน (Illumination)

อีกหนึ่งความน่าสนใจของเทศกาล ซากุระคาวาซุ ก็คือ ในช่วงกลางคืน บรรยากาศริมแม่น้ำคาวาซุจะถูกแต่งแต้มด้วยไฟประดับที่ส่องสว่างตามต้นซากุระ ทำให้ดูงดงามและมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก โดยจะเริ่มเปิดไฟตั้งแต่ช่วงประมาณ 18.00 – 21.00 น. บรรยากาศแปลกใหม่ แตกต่างจากการชมซากุระในช่วงกลางวัน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นหรือถ่ายภาพความงามของซากุระยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม
3. บ่อน้ำพุร้อน (Onsen)

เมืองคาวาซุไม่ได้มีเพียงซากุระ Kawazu ที่งดงามเท่านั้น แต่ยังขึ้นชื่อเรื่อง บ่อน้ำพุร้อน ที่เป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายร่างกายและจิตใจในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติหลังจากเดินชมซากุระได้ มีทั้งแบบกลางแจ้งที่สามารถแช่พร้อมชมวิวธรรมชาติ และแบบในร่มที่จะมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว น้ำแร่จากออนเซ็นในพื้นที่นี้มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาความเมื่อยล้า และทำให้ผิวพรรณสดชื่น การแช่ออนเซ็นจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เติมเต็มความสุขในการเที่ยวชมเทศกาลซากุระในคาวาซุได้เป็นอย่างดี
4. น้ำตกคาวาซุเซเว่น (Kawazu Seven Waterfalls)

น้ำตกคาวาซุเซเว่น หรือ คาวาซุนานาดารุ (Kawazu Nanadaru) เป็นกลุ่มน้ำตก 7 แห่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองคาวาซุ น้ำตกแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์และความงดงามเฉพาะตัว ได้แก่ น้ำตกโอไดรู (Oo-daru falls) น้ำตกที่สูงที่สุดในกลุ่ม, น้ำตกเอบิดารุ (Ebi-daru falls) ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกุ้ง, น้ำตกเฮบิดารุ (Hebi-Daru falls) แนวหินรอบๆ มีลักษณะคล้ายเกล็ดงู, น้ำตกโชเคย์ดารุ (Shokei-daru falls) บริเวณด้านหน้ามีประติมากรรมให้ถ่ายรูป รวมไปถึง น้ำตกคามาดารุ (Kama-daru falls), น้ำตกคานิดารุ (Kani-daru falls) และน้ำตกเดะไอดารุ (Deai-daru falls) เหมาะสำหรับการเดินป่าเบาๆ ชื่นชมธรรมชาติ และถ่ายภาพวิวที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสความสงบของธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน
การเดินทางไปชม ซากุระคาวาซุ จากโตเกียว
การเดินทางจากโตเกียวไปยังเมืองคาวาซุนั้นสะดวกและใช้เวลาไม่นาน โดยมีตัวเลือกหลากหลายตามความต้องการ ดังนี้
1. รถไฟ JR (Shinkansen + Local Line) : จากสถานี Tokyo หรือ Shinagawa นั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Tokaido Shinkansen ไปยังสถานี Atami ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปต่อรถไฟสาย Ito หรือสาย Izu Kyuko ไปยังสถานี Kawazu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที สามารถใช้ JR Pass หรือ JR Tokyo Wide Pass ได้
2. Limited Express Odoriko : จากสถานี Tokyo Station หรือ Shinjuku Station นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Odoriko หรือ Super View Odoriko ตรงไปยังสถานี Kawazu โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที สามารถใช้ JR Pass หรือ JR Tokyo Wide Pass ได้เช่นกัน
3. รถบัส : ขึ้นรถบัสสายตรงจากสถานี Tokyo หรือ สถานี Shinjuku ไปยังคาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) แล้วต่อรถท้องถิ่นไปยังคาวาซุ ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
4. รถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถ : ขับรถจากโตเกียวผ่านทางด่วน Tomei Expressway มุ่งหน้าสู่จังหวัดชิซุโอกะและคาบสมุทรอิซุ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร

ซากุระคาวาซุ ไม่เพียงแต่เป็นดอกไม้ที่มีความงดงามโดดเด่นด้วยสีชมพูเข้มและช่วงเวลาบานที่ยาวนาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศที่โรแมนติกก่อนใคร สำหรับใครที่สนใจอยากมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษแบบนี้ สามารถจอง ทัวร์ญี่ปุ่น ไปเที่ยวกับพี่เห็ด มัชรูมทราเวล พร้อมเดินทางไปชื่นชมซากุระคาวาซุในบรรยากาศที่น่าประทับใจกันนะคะ