Mushroom Travel

15 พิกัด พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด สนุกถูกใจ ได้ประสบการณ์ !!

พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด

ฮอกไกโด เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสุดๆ สำหรับพาเด็กๆ ไปเปิดโลกกว้าง เพราะการเดินทางสะดวกสบายมาก มีรถไฟเชื่อมทุกสถานที่สำคัญ อีกทั้งอาหารก็อร่อย อากาศดี วิวสวยอลังการ หน้าหนาวมีหิมะนุ่มๆ ส่วนหน้าร้อนก็มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใส และกิจกรรมมากมายที่เด็กๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศใหม่ๆ วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไปดู 15 สถานที่เช็กอินสุดฮิตสำหรับการ พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาเลย !

1. สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo)

Credit : Jo Panuwat D / shutterstock.com

สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า ตั้งอยู่ที่เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) เป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีคนมาเยี่ยมชมกว่า 1.4 ล้านคนทุกปี เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์จากหลากหลายถิ่นรวมกว่า 800 ตัว โดยเฉพาะสัตว์เมืองหนาวหาชมยาก เช่น หมีขั้วโลก นกเค้าแมวหิมะ และเพนกวินหลายสายพันธุ์ ที่เด็กๆ สามารถเข้าไปชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างใกล้ชิด ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ ขบวนพาเหรดเพนกวิน ที่จะมีให้ชมเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น หรือประมาณเดือนธันวาคม – กลางเดือนมีนาคม

เวลาเปิด-ปิด :
– 2 มกราคม – 7 เมษายน 10.30 – 15.30 น.
– 26 เมษายน – 15 ตุลาคม 9.30 – 17.15 น.
– 16 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 09.30 – 16.30 น.
– 11 พฤศจิกายน – 29 ธันวาคม 10.30 – 15.30 น.
** ปิดวันที่ 4 – 10 พฤศจิกายน และ 30 ธันวาคม – 1 มกราคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน / เด็กนักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่า เข้าฟรี
เว็บไซต์ : https://www.city.asahikawa.hokkaido.jp/asahiyamazoo/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NeTyVDVdW295arc56


2. โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

Credit : f11photo / shutterstock.com

โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิโคอิบิโตะ ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นผู้ผลิตขนม “ชิโรอิโคอิบิโตะ” ของฝากชื่อดังที่ใครมา เที่ยวฮอกไกโด ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่โรงงานขนมอย่างเดียว แต่ยังมีสวนสไตล์อังกฤษ คาเฟ่ ร้านอาหาร และจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีโซนที่น้องๆ จะได้ทำความรู้จักกับนวัตกรรมสุดเจ๋งที่เข้ามาเปลี่ยนโลกของการทำช็อกโกแลต ชมกระบวนการผลิตคุกกี้ชิโรอิโคอิบิโตะ และออกแบบขนมในสไตล์ของตัวเองได้ด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 19.00 น. (โซนที่เสียค่าเข้าชม 10.00 – 17.30 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (16 ปีขึ้นไป) 800 เยน / เด็ก (อายุ 4 – 15 ปี) 400 เยน / เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 3 ขวบ) เข้าฟรี
เว็บไซต์ : https://www.shiroikoibitopark.jp/en/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qrnAyenX4i4LBScU6


3. ป้อมโกเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)

Credit : Shawn.ccf / shutterstock.com

ป้อมโกเรียวกาคุ ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นป้อมปราการที่มีลักษณะเป็นรูปดาวห้าแฉก ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อใช้ปกป้องเมืองจากภัยคุกคามของชาติตะวันตก แต่เมื่อหมดความสำคัญทางการทหารก็ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ และมีการปลูกต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นเรียงรายตามคูน้ำ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดของฮอกไกโดเลยค่ะ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง ก็จะได้พบกับบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยน เป็นที่เที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นไปชมวิวจากบน หอคอยโกเรียวกาคุ (Goryokaku Tower) สูง 107 เมตรได้ด้วย

รายละเอียดหอคอยโกเรียวกาคุ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น. (ซื้อตั๋วเข้าชมได้ถึง 17.50 น.)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/kGsYmpkhcwdL8u9YA


4. นิเซโกะ สกี รีสอร์ต (Niseko ski resort) 

Credit : atthle / shutterstock.com

แลนด์มาร์กยอดฮิตสำหรับการ พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวคือ นิเซโกะ สกีรีสอร์ต ในจังหวัดชิริเบชิ (Shiribeshi) มีทั้งที่พัก ร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร บ่อแช่ออนเซ็น ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงเส้นทางสกีหลายระดับ และโซน Kid’s Park ที่มีกิจกรรมสนุกๆ สำหรับเด็ก เช่น นั่งรถเลื่อนสุนัข เล่นห่วงยางหิมะ ขี่สโนว์โมบิล หรือจะหลบหนาวไปทำกิจกรรมในร่ม ก็มีเวิร์กช็อปต่างๆ ที่ช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้ให้เด็กๆ ด้วย นอกจากนี้ที่ฮอกไกโดยังมีสกีรีสอร์ตเจ๋งๆ อีกหลายแห่ง พี่เห็ดรวบรวมมาให้แล้ว ที่นี่ ใครชอบสไตล์ไหน หรืออยู่ใกล้ที่ไหนก็เลือกได้เลย รับประกันความมันส์ กิจกรรมแน่นทุกที่!

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/sa7UEgMdVo5sbtXU
เว็บไซต์ : https://www.niseko.ne.jp/en/niseko/


5. ทุ่งดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai no oka)

Credit : littlewormy / shutterstock.com

ทุ่งดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ เป็นจุดเช็กอินที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงามของฮอกไกโด บนพื้นที่กว่า 93 ไร่ ตลอดทั้งปีจะเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีที่บานสะพรั่งกว่า 30 ชนิด หมุนเวียนไปตามฤดูกาล เช่น ลาเวนเดอร์ โคเคีย ทิวลิป เป็นต้น แถมยังมีภูเขาไดเซ็ตสึเป็นฉากหลังให้วิวปังๆ ถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ แต่ถ้า พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด ในช่วงหน้าหนาวก็จะได้บรรยากาศอีกแบบ เพราะทั้งสวนจะเปลี่ยนเป็นสโนว์แลนด์แดนหิมะสุดฟิน ที่สามารถขับสโนว์โมบิลลุยหิมะได้ด้วย

เวลาเปิด-ปิด :
– มกราคม – เมษายน 09.10 – 17.00 น.
– พฤษภาคม และ ตุลาคม 08.40 – 17.00 น.
– มิถุนายน – กันยายน 08.40 – 17.30 น.
– พฤศจิกายน – ธันวาคม 09.10 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) 500 เยน  / นักเรียนประถม – มัธยมต้น 300 เยน / เด็กต่ำกว่าชั้นประถมศึกษาเข้าฟรี
เว็บไซต์ : https://www.shikisainooka.jp
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/VyJ5bPgSLm5ipuiX8


6. ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship)

Credit : booking.o-tower.co.jp

ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคมของทุกปี เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับ การล่องเรือตัดน้ำแข็ง ในทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk Sea) โดยจะมีท่าเรือให้บริการ 2 แห่งในเมืองอะบะชิริ (Abashiri) และเมืองมอมเบทสุ (Monbetsu) รับรองว่าเด็กๆ จะต้องตื่นตาตื่นใจกับสว่านยักษ์ที่ทำหน้าที่ตัดน้ำแข็งพร้อมส่งเสียงดังสนั่น ฟีลเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือเลย ถ้าโชคดีจะได้เจอนกอินทรีทะเลสเตลเลอร์ และแมวน้ำลายจุดด้วย

เวลาเปิด-ปิด : มีเรือออกเป็นรอบ ตั้งแต่ประมาณ 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : ประมาณ 4,500 – 5,000 เยน


7. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)

Credit : stock_shot / shutterstock.com

เทศกาลหิมะซัปโปโร เป็นเทศกาลฤดูหนาวสุดยิ่งใหญ่ที่จัดต่อเนื่องมาหลายปี โดยจะจัดขึ้นเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองซัปโปโรมีอากาศหนาวและหิมะสะสมหนา หลักๆ จะจัดขึ้น 3 จุดด้วยกัน คือ สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park), ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) และสึโดม (Tsudome) โดยแต่ละที่ก็จะมีประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะมาจัดแสดงมากมาย บางที่มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ได้ทำด้วย ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยงามอลังการสุดๆ

เว็บไซต์ : https://www.snowfes.com


8. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)

Credit : Jo Panuwat D / shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยอาคารอิฐสีแดงที่สร้างมาตั้งสมัยยุคเมจิ ภายในนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ และวิธีการผลิตเบียร์ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่จะได้ลิ้มรสชาติของเบียร์สุดพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะที่นี่เท่านั้น ส่วนเด็กๆ ก็รับรองว่าต้องติดใจกับเนื้อเจงกิสข่านนุ่มๆ ปรุงด้วยซอสสูตรพิเศษ เป็นเมนูเด็ดที่มา เที่ยวฮอกไกโด แล้วห้ามพลาดเลย !

เวลาเปิด-ปิด : อังคาร – อาทิตย์ 11.00 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์ แต่หากวันจันทร์เป็นวันหยุด จะปิดวันอังคารแทน)
เว็บไซต์ : https://www.sapporobeer.jp/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/TqzRoW8i3exdbZZG9


9. ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค (Jozankei Onsen)

Credit : Sean Pavone / shutterstock.com

ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค มีชื่อเสียงโด่งดังมานานนับร้อยปี ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในอุทยานแห่งชาติชิโคสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ห่างจากเมืองซัปโปโรประมาณ 1 ชั่วโมง มีออนเซ็นรีสอร์ทหลายแห่งที่เปิดให้บริการทุกฤดู นอกจากจะได้ผ่อนคลายในน้ำแร่ที่มีต้นกำเนิดมาจากป่าธรรมชาติ ท่ามกลางวิวสวยๆ ยังมีแลนด์มาร์กหลายจุดให้เที่ยวชม เช่น สะพานโจซังเค ฟุตามิ (Jozankei Futami Bridge), ศาลเจ้าโจซังเค (Jozankei Shrine), สวนสาธารณะโจซังเค เกนเซ็น (Jozankei Gensen Park) เป็นต้น บรรยากาศดี ทัศนียภาพสวยงาม น่าเที่ยวทุกฤดูเลย

เว็บไซต์ : https://jozankei.jp
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/LUj7krmAQDk4MKiq7


10. ฟาร์มม้านอร์เทิร์น (Northern Horse Park)

Credit : northern-horsepark.jp

สายกิจกรรมต้องไปที่ ฟาร์มม้านอร์เทิร์น อยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 15 นาที เป็นที่ เที่ยวฮอกไกโด ที่น้องๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับม้า บนพื้นที่กว่า 470,000 ตารางเมตร โดยมีม้าทั้งหมดประมาณ 80 ตัว ทั้งม้าแคระตัวเล็กๆ และม้าที่เกษียณจากการแข่งม้า มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการชมโชว์ นั่งรถม้า ขี่ม้า ถ่ายรูปและให้อาหารม้า ในฤดูหนาวยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างสกี สโนว์โมบิล และนั่งเรือยางลุยหิมะด้วย

เวลาเปิด-ปิด :
– 15 เมษายน – 5 พฤศจิกายน เวลา 09.00 – 17.00 น.
– 6 พฤศจิกายน – 9 เมษายน เวลา 10.00 – 16.00 น.
** ปิดวันที่ 10 เมษายน – 14 เมษายน
ค่าเข้าชม :
– 15 เมษายน – 5 พฤศจิกายน : ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมต้นขึ้นไป) 800 เยน / เด็ก (ชั้นประถมศึกษาขึ้นไป) 400 เยน
– 6 พฤศจิกายน – 9 เมษายน : ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมต้นขึ้นไป) 500 เยน เด็ก (ชั้นประถมศึกษาขึ้นไป) 200 เยน
เว็บไซต์ : https://www.northern-horsepark.j
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/ry67J9mRo7LvoWjm8


11. สวนสาธารณะทาคิโนะซุซุรันฮิลล์พาร์ค (Takino Suzuran Hillside Park)

Credit : ThamKC / shutterstock.com

สวนสาธารณะทาคิโนะซุซุรันฮิลล์พาร์ค เป็นสวนสาธารณะของรัฐบาลเพียงแห่งเดียวในฮอกไกโด มีพื้นที่กว้างถึง 395 ไร่ ภายในมีป่าสีเขียวขจี ทุ่งดอกไม้สวยๆ ที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาล น้ำตกที่งดงามถึง 3 แห่ง และสนามเด็กเล่นกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ ช่วงหน้าหนาวจะเปลี่ยนเป็น “ทาคิโนะสโนว์เวิร์ล” ที่สามารถมาเล่นสกีได้ มีให้เลือกหลายระดับ แต่สำหรับเด็กๆ ที่เล่นสกีเป็นครั้งแรก เขาก็มีลานสกีความยาว 250 เมตร ความลาดชัน 7 องศา ให้บริการ จะ พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด ช่วงไหนก็แวะมาได้ทุกฤดูเลย

เวลาเปิด-ปิด :
– ฤดูใบไม้ผลิ (20 เมษายน – 31 พฤษภาคม) 09.00 – 17.00 น.
ฤดูร้อน (1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม) 09.00 – 18.00 น.
ฤดูใบไม้ร่วง (1 กันยายน – 10 พฤศจิกายน) 09.00 – 17.00 น.
ฤดูหนาว (23 ธันวาคม – 31 มีนาคม) 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ 15 ปีขึ้นไป) 450 เยน / เด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี) เข้าฟรี / ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน
เว็บไซต์ : https://www.takinopark.com.e.ast.hp.transer.com
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NYariDNK7uSVDbDC9


12. หมู่บ้านเอโคริน (Ecorin Village)

Credit : hokkaidoguide.com

หมู่บ้านเอโคริน เป็นสวนเชิงนิเวศที่ตั้งอยู่ในเมืองเอนิวะ (Eniwa) จังหวัดอิชิการิ (Ishikari-shi) สร้างขึ้นโดยบริษัท Aleph Co., Ltd. เจ้าของ “Bikkuri Donkey” ร้านเบอร์เกอร์สุดโด่งดัง มีพื้นที่สีเขียวอันกว้างใหญ่กว่า 900 ไร่ ภายในมีทั้งสวนมะเขือเทศ สวนสไตล์อังกฤษพร้อมดอกไม้ที่เบ่งบานแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ฟาร์มที่มีแกะมากถึง 1,000 ตัว โซนตั้งแคมป์ และกิจกรรมอีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนตลอดปี ทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารที่ใช้ข้าวปลอดสารพิษ รวมไปถึงการแสดงสุนัขต้อนแกะให้ได้ชมอีกด้วย เป็นที่เที่ยวที่มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม น่ามาเที่ยวมาก!

เวลาเปิด-ปิด :
– เมษายน – ตุลาคม 09.30 – 17.00 น.
– พฤศจิกายน – มีนาคม 10.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าฟรี แต่มีค่าใช้จ่ายในโซน Sheep Sheep Camping Field ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 500 เยน ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 1,000 รวมถึงโซนสำหรับตั้งแคมป์ที่ราคาแตกต่างกันในแต่ละจุด
เว็บไซต์ : https://www.ecorinvillage.com/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/22SuNpCMAj1Y7aEK8


13. นิเซโกะ แอดเวนเจอร์ เซ็นเตอร์ (Niseko Adventure Center)

Credit : nacadventures.jp

นิเซโกะ แอดเวนเจอร์ เซ็นเตอร์ จะทำให้เด็กๆ ละสายตาจากเกมบนมือถือ และสนุกไปกับการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ ในสวนขนาด 2 ไร่ ที่มีให้กิจกรรมสนุกๆ มากกว่า 130 รายการ มีกิจกรรมสำหรับเด็กที่มีความสูงแตกต่างกัน รวมถึงกิจกรรมทางน้ำอีกมากมาย เช่น ล่องแพมันส์ๆ หรือพายเรือไปตามแม่น้ำชิริเบ็ตสึ (Shiribetsu River) ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่สะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น พร้อมเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สวยๆ ของทิวเขา

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 20.00 น.
ค่าเข้าชม : ราคาแตกต่างกันไปตามแต่กิจกรรมและฤดูกาล
เว็บไซต์ : https://nacadventures.jp
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/5EJ9xu8bMZVMT5T88


14. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium) 

Credit : visit-hokkaido.jp

พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด อย่าลืมแวะมากที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ เป็นอควาเรียมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งของเมืองโอตารุเลยค่ะ นอกจากชมสัตว์น้ำต่างๆ ที่อยู่ด้านใน ก็มาชมวิวสวยๆ ด้านนอกได้ด้วย ที่นี่มีสัตว์น้ำมากกว่า 5,000 ตัว รวมกว่า 250 สายพันธุ์ เช่น โลมา, เพนกวิน,  สิงโตทะเล, แมวน้ำ ฯลฯ อีกทั้งยังมีโซนจัดแสดงกลางแจ้ง ที่จะได้ชมความน่ารักและแสนรู้ของสัตว์ต่างๆ ด้วย

เวลาเปิด-ปิด :
– 16 มีนาคม – 14 ตุลาคม 09.00 – 17.00 น.
– 15 ตุลาคม – 24 พฤศจิกายน 09.00 – 16.00 น.
– 14 ธันวาคม – 24 กุมภาพันธ์ 10.00 – 16.00 น.
** อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 1,800 เยน / เด็ก (อายุ 6-15 ปี) 700 เยน/ เด็กเล็ก (อายุ 3-5 ปี) 350 เยน
เว็บไซต์ : https://otaru-aq.jp
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FUe2wzLA2a1TknPK8


15. ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)

Credit : Kangsadarn.S / shutterstock.com

ปิดท้ายกันที่ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่ติดกับสถานีฮาโกดาเตะเลยค่ะ บรรยากาศจะคึกคักตั้งแต่เช้า เพราะมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นออกมาจับจ่ายใช้สอยกัน บริเวณนี้มีร้านค้ามากกว่า 250 ร้าน ที่จำหน่ายอาหารทะเลสดๆ รวมถึงผลไม้และวัตถุดิบชั้นเลิศของฮอกไกโด พร้อมด้วยร้านอาหารอีกมากมาย ที่พลาดไม่ได้คือเมนูข้าวหน้าต่างๆ ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ อร่อย ราคาคุ้มมาก !

เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 14.00 น. (แต่ละร้านมีเวลาเปิดปิดที่แตกต่างกัน)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/pDaxQWsfrXKsmsRa6

และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเช็กอินที่อยากแนะนำให้ลองพาลูกหลานไปเที่ยวกันดูนะคะ นอกจากจะได้ความสนุก เด็กๆ ยังจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านประสบการณ์ที่น่าจดจำ ทุกคนในครอบครัวก็จะได้ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกันด้วย ใครที่สนใจ ทักหาพี่เห็ด มัชรูมทราเวล ได้เลย !


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ฮอกไกโด ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com

15 พิกัด พาลูกเที่ยว ฮอกไกโด สนุกถูกใจ ได้ประสบการณ์ !! was last modified: November 22nd, 2024 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version