Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

14 พิกัด พาลูกเที่ยวเกาหลี เปิดประสบการณ์ใหม่ สนุกทั้งได้ครอบครัว !

เกาหลี ไม่ได้เป็นแค่จุดหมายปลายทางสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ถูกใจเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็น สวนสนุก สวนสัตว์ หรือ พิพิธภัณฑ์ เต็มไปด้วยกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ ความรู้ และประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยาก พาลูกเที่ยวเกาหลี แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล รวบรวม 14 พิกัด ที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็กๆ ในเกาหลี มาให้แล้ว ไปสนุกกันได้ทั้งครอบครัวเลย !

1. สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland) – คยองกี

พาลูกเที่ยวเกาหลี
Credit : Lifestyle Travel Photo / shutterstock.com

เปิดที่แรกด้วยสวนสนุกชื่อดังอย่าง เอเวอร์แลนด์ เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี มีเครื่องเล่นมากมายที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ประกอบไปด้วย 5 โซนที่มีธีมแตกต่างกัน ได้แก่ Zootopia, American Adventure, European Adventure, Magic Land และ Global Fair พร้อมด้วยไฮไลต์เด็ดอย่าง ไลเกอร์ (Liger) ลูกแฝดคู่แรกของโลกที่ผสมระหว่างสิงโตเพศผู้และเสือเพศเมีย หรือจะพาเด็กๆ ไปชมความน่ารักของ ครอบครัวแพนด้ายักษ์ Bao Family ที่มีทั้ง พ่อ แม่ และลูกแพนด้าแฝด นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกในแต่ละโซน มีขบวนพาเหรดทั้งกลางวันและกลางคืน มีการแสดงดอกไม้ไฟแบบมัลติมีเดียให้ได้ชมทุกวัน ทั้งยังมีการจัดเทศกาลดอกไม้ตามฤดูกาล สวยอลังการเหมือนอยู่ยุโรป เช่น เทศกาลทิวลิป จัดช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน, เทศกาลดอกกุหลาบในเดือนพฤษภาคม เป็นต้น

เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 62,000 – 68,000 วอน / เด็ก 52,000 – 58,000 วอน (ราคาแตกต่างกันตามฤดู)
เว็บไซต์ : https://www.everland.com/
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Yongin EverLine ลงสถานี Jeondae-Everland ทางออก 3 และจะมีรถ Shuttle bus ไปส่งที่สวนสนุกฟรี
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Q6yYZb6UQ1a1PwD97


2. พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลมีเดียอาร์ต (Arte Museum) – ปูซาน

พาลูกเที่ยวเกาหลี
Credit : english.visitkorea.or.kr

หากใครคิดว่าการเที่ยวพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องน่าเบื่อ ลอง พาลูกเที่ยวเกาหลี ที่ พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลมีเดียอาร์ต รับรองเลยว่าเด็กๆ ต้องตื่นตาตื่นใจแน่นอน มีการจัดแสดงครั้งแรกที่เกาะเชจู และขยายการจัดแสดงไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลก ปัจจุบันในเกาหลีมีทั้งหมด 4 ที่ คือ ยอซู (Yeosu), คังนึง (Gangneung), เชจู (Jeju) และที่เปิดใหม่ล่าสุดคือ ปูซาน (Busan) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดนิทรรศการศิลปะด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ภายใต้แนวคิด “Eternal Nature” ที่ปูซานแบ่งเป็นห้องย่อยในธีมแตกต่างกัน 18 ธีม เช่น Waterfall Infinite, Flower Rose, Starry Beach, Jungle Glow, Seed Hibiscus, Moon, Sun, Wave ฯลฯ ภายในนิทรรศการจะได้สัมผัสทั้งแสง สี เสียง เอฟเฟกต์ต่างๆ อลังการมาก แถมยังถ่ายรูปสวยด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 21:00 น.
ค่าเข้า :
– วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 22,000 วอน / วัยรุ่น (อายุ 13 – 18 ปี) 18,000 วอน / เด็ก (อายุ 7 – 12 ปี) 15,000 วอน / เด็ก (อายุ 3 – 6 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุ 63 ปีขึ้นไป) 13,000 วอน
– วันเสาร์ – อาทิตย์ ผู้ใหญ่ 25,000 วอน / วัยรุ่น (อายุ 13 – 18 ปี) 21,000 วอน / เด็ก (อายุ 7 – 12 ปี) 18,000 วอน / เด็ก (อายุ 3 – 6 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุ 63 ปีขึ้นไป) 16,000 วอน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/QBTbBbNzyCC94rgg6


3. สวนสนุก ล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World) – โซล

พาลูกเที่ยวเกาหลี
Credit : Guitar photographer / shutterstock.com

ต่อด้วยอีกหนึ่งสวนสนุกห้ามพลาดอย่าง ล็อตเต้เวิลด์ เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโซล มีเครื่องเล่นรวมกว่า 50 ชนิด ตั้งแต่เครื่องเล่นแบบเบาๆ ไปจนถึงเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่จะทำให้หัวใจเต้นรัว แบ่งเป็น 2 โซนหลัก คือ โซน Magic Island เป็นสวนสนุกกลางแจ้ง อยู่กลางทะเลสาบซอกชน และโซน Lotte World Adventure เป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพื้นที่เดียวกับห้างล็อตเต้เวิลด์ ไม่ว่าจะ พาลูกเที่ยวเกาหลี ฤดูไหนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ นอกจากนี้ยังมีโชว์ และขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟสว่างไสวสวยงาม เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเลย !

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น. (เวลาเปิด-ปิดอาจแตกต่างกันในแต่ละเดือน)
ค่าเข้า :
– 1 DAY PASS ผู้ใหญ่ 59,000 วอน / วัยรุ่น (อายุ 13 – 18 ปี) 52,000 วอน / เด็ก (อายุ 36 เดือน – 12 ปี) 46,000 วอน
– เข้าหลัง 16:00 น. ผู้ใหญ่ 47,000 วอน / เด็ก (อายุ 13 – 18 ปี) 41,000 วอน / เด็ก (อายุ 36 เดือน – 12 ปี) 35,000 วอน
เว็บไซต์ : https://adventure.lotteworld.com/
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 หรือสาย 8 ลงสถานี Jamsil ทางออก 4 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 150 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/P9B83kgK29sKc6gG6


4. ล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ (Lotte World Tower) – โซล

พาลูกเที่ยวเกาหลี
Credit : The Green foto / shutterstock.com

เดินออกมาจากล็อตเต้เวิลด์ ฝั่งตรงข้ามจะเจอกับ ล็อตเต้เวิลด์ทาวเวอร์ ตึกที่สูงที่สุดในเกาหลี และสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีความสูงทั้งหมด 555 เมตร แบ่งเป็น 123 ชั้น การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากลักษณะของเครื่องปั้นดินเผา ภายในมีทั้งอาคารสำนักงาน ห้องประชุม หอศิลป์ คาเฟ่ ดิวตี้ฟรี ที่พักอาศัย และยังมี Seoul Sky ที่อยู่ชั้นบนสุด เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามของกรุงโซลได้แบบ 360 องศา ทั้งกลางวันและกลางคืน วันไหนที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส จะมองเห็นวิวของเขตซองโด และอินชอนที่อยู่ไกลออกไปด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 10.30 – 22.00 น.
ค่าเข้า : ฟรี แต่มีค่าบริการในโซน Seoul Sky ผู้ใหญ่ 31,000 วอน / เด็ก (อายุ 3 – 13 ปี)  27,000 วอน
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Jamsil ทางออก 2 หรือสาย 8 ลงสถานี Jamsil ทางออก 11 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/KZdr9p2eNcV1KAVh6


5. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโคเอ็กซ์ (COEX Aquarium) – โซล

พาลูกเที่ยวเกาหลี
Credit : coexaqua.com

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโคเอ็กซ์ ตั้งอยู่ใจกลางย่านกังนัม ในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าโคเอ็กซ์ เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะสำหรับการ พาเด็กเที่ยวเกาหลี เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโซล แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ รวบรวมสัตว์น้ำไว้มากกว่า 40,000 ตัว 650 สายพันธุ์ ตั้งแต่ปลานีโม่สุดน่ารัก ไปจนถึงสัตว์น้ำหายากอย่าง ปลากระเบน ปลาไหลไฟฟ้า ปลาปิรันย่า และฉลามอีกกว่า 40 สายพันธุ์ นอกจากจะได้ตื่นตาตื่นใจกับโลกใต้น้ำ ยังมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำ รวมทั้งโชว์สนุกๆ อย่าง โชว์เมอร์เมด โชว์ให้อาหารฉลาม ปลากระเบน เพนกวิน และแมวน้ำ ที่จะผลัดกันมาสร้างความประทับใจเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 33,000 วอน / เด็ก 29,000 วอน
การเดินทาง :
– นั่งรถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานี Bongeunsa ทางออก 7 หรือรถไฟใต้ดินสาย 7 ทางออก 2 เข้าทาง ASEM Plaza
– นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Samseong ทางออก 5 หรือ 6 เข้าทาง Millennium Square
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/My1v5yTDoyCNrok67


6. ห้องสมุดสตาร์ฟิลด์ (Starfield Library) – ซูวอน 

พาลูกเที่ยวเกาหลี
Credit : Flying Camera / shutterstock.com

ใครชอบอ่านหนังสือต้องมาที่ ห้องสมุดสตาร์ฟิลด์ เป็นห้องสมุดที่มีขนาดใหญ่ ทันสมัย และสวยงามอลังการมาก ปัจจุบันมี 2 แห่งคือ ย่านกังนัม ในกรุงโซล กับสาขาใหม่ล่าสุด เมืองซูวอน เพิ่งเปิดในปี 2024 นี่เอง ใหญ่กว่าที่แรกถึง 3 เท่า ตั้งอยู่บนชั้น 4 – 7 ของห้างสตาร์ฟิลด์ (Starfield) สาขาซูวอน มีการออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ทันสมัย ให้กลิ่นอายธรรมชาติ บรรยกาศเหมาะแก่การมาอ่านหนังสือและพักผ่อนหย่อนใจ มีหนังสือกว่า 60,000 เล่ม ครบทุกหมวดหมู่ สำหรับใครที่ พาเด็กเที่ยวเกาหลี บนชั้น 3 ของห้องสมุดจะมีโซนสำหรับเด็กโดยเฉพาะ พร้อมด้วยกิจกรรมมากมาย ชั้นหนังสือจะถูกจัดเรียงเหมือนเขาวงกต และยังมีเบาะสีสันสดใสให้นั่งเล่น นอนเล่น เพลิดเพลินกับหนังสือเล่มโปรดได้อย่างอิสระ หรือจะหาจุดถ่ายรูปก็มีมุมชิคๆ เพียบ

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Hwaseo ทางออก 1 จากนั้นเดินต่อประมาณ 500 เมตร ห้องสมุดอยู่ที่ชั้น 4
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/s9Cms7EtkZGGMwao8


7. ตลาดของเล่นทงแดมุน (Dongdaemun Toy & Stationery Street) – โซล

Credit : korea.stripes.com

เอาใจเด็กๆ ไปหาซื้อของเล่นกันที่ ตลาดของเล่นทงแดมุน เป็นตลาดที่รวมร้านของเล่นและร้านเครื่องเขียนไว้มากมายกว่า 120 ร้าน ใหญ่ที่สุดในเกาหลี บรรยากาศเหมือนสะพานเหล็กหรือสำเพ็งบ้านเรา มีของเล่นหลากหลายรูปแบบสำหรับเด็กช่วงวัยต่างๆ ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพง แถมยังมีการลดราคาของเล่นที่เปลี่ยนรุ่นไปแล้วอีกด้วย อยากได้ของเล่นแบบไหนมาหาที่นี่ได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเขียนและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมุดโน้ต สมุดภาพ ดินสอสี กระเป๋าเป้ ไปจนถึงของตกแต่งสำหรับงานปาร์ตี้ รับรองว่า พาลูกเที่ยวเกาหลี มาที่นี่เด็กๆ ได้ตาโตไปกับของเล่นมากมายแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 19.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Dongdaemun ทางออก 4
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/kc2Vy7aRByvfFhuX6


8. รถไฟแคปซูล Sky Capsule Haeundae Blue Line Park – ปูซาน

Credit : littlewormy / shutterstock.com

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เด็กๆ ที่ชอบ ผู้ใหญ่ก็ไม่ควรพลาด เพราะ รถไฟแคปซูล Sky Capsule Haeundae Blue Line Park แห่งเมืองปูซาน สีสันสดใส คันเล็กน่ารักปุ๊กปิ๊ก ความจุเพียง 4 ที่นั่ง จะพาเราวิ่งบนรางรถไฟลอยฟ้าสูง 10 เมตร จากสถานี Mipo ไปยังสถานี Cheongsapo รวมระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร ด้วยความเร็วช้าๆ ประมาณ 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 30 นาทีต่อเที่ยว จะมองเห็นทิวทัศน์ชายฝั่งแฮอุนแด (Haeundae) บรรยากาศของเมือง และแลนด์มาร์กของปูซานอย่าง สะพานควังอัล (Gwangandaegyo) ที่ทอดยาวข้ามทะเลด้วย สำหรับใครที่จะมาเที่ยวที่นี่และอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม พี่เห็ดรวบรวมข้อมูลไว้ให้แล้ว >> ที่นี่

เวลาเปิด-ปิด : ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) 09.30 – 18.00 น. / Off-Season (มีนาคม – เมษายน, ตุลาคม) 09.30 – 18.30 น. / High Season (พฤษภาคม – มิถุนายน, กันยายน) 09.30 – 19.30 น. / Polar Season (กรกฎาคม – สิงหาคม) 09.30 – 20.30 น.
ค่าโดยสาร : 2 คน 35,000 วอน / 3 คน 45,000 วอน / 4 คน 50,000 วอน
เว็บไซต์ : https://www.bluelinepark.com/eng/
การเดินทาง :
– จากสถานี Busan นั่งรถบัสสาย 1003 ลงที่ Mipo เดินต่อประมาณ 10 นาที
– นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Jung-dong ทางออก 7 เดินต่อประมาณ 10 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/uR5oHBYWTfSr72N68


9. สวนสนุกวอลมิ (Wolmi Theme Park) – อินชอน 

Credit : Rookie Stock / shutterstock.com

ต่อกันที่อีกหนึ่งสวนสนุกอย่าง สวนสนุกวอลมิ ตั้งอยู่บนเกาะวอลมีโด (Wolmido) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอินชอน ไม่ไกลจากโซล และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น We got married และ Running man พื้นที่ในสวนสนุกอาจจะไม่ใหญ่โตมาก แต่ก็มีเครื่องเล่นเยอะ เช่น Hyper Shoot Drop ที่สูงถึง 70 เมตร, เรือไวกิ้ง (Viking) ที่ว่ากันว่าน่ากลัวที่สุดในเกาหลี รวมถึงเครื่องเล่นชิลๆ สำหรับเด็กอีกมากมาย เช่น โรงภาพยนตร์ 4D, ชิงช้าสวรรค์ เป็นต้น อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือ เป็นสวนสนุกเปิดที่ตั้งอยู่ติดทะเล วิวสวยมาก ถ้าไม่ได้เล่นเครื่องเล่นก็สามารถไปเดินเล่นถ่ายรูป ให้อาหานกนางนวล หรือนั่งชมพระอาทิตย์ตกได้ แถมรอบๆ ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ หลายแห่งให้บริการ ราคาไม่แพงด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
ค่าเข้า : ไม่มีค่าเข้าชม แต่จะขายเป็นตั๋วเหมาจำนวนครั้งของการเล่นเครื่องเล่นแทน สามารถซื้อตั๋วสำหรับเครื่องเล่นเดียว หรือซื้อเป็นชุด 3 – 7 เครื่องเล่นก็ได้
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Incheon ทางออก 1 จากนั้นต่อรถบัสสาย 45 ลงที่ป้าย Wolmi Theme Park
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/LdomKqKSrHvkd8Fn8


10. เลโก้แลนด์ (Legoland Korea Resort) – คังวอน

Credit : legoland.kr

เลโก้แลนด์ เกาหลี เป็นเลโก้แลนด์แห่งที่ 10 ของโลก เปิดให้บริการเมื่อปี 2022 เหมาะมากสำหรับคนที่ พาลูกเที่ยวเกาหลี เพราะมีเครื่องเล่นเยอะ และส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับเด็ก ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ถึง 7 โซน ได้แก่ Brick Street, Bricktopia, Lego Castle, Lego Ninja World, Pirate Sea, Lego City และ Miniland ที่เอาตัวต่อเลโก้มาจำลองสถานที่สำคัญต่างๆ มีเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด อีกทั้งยังมีส่วนที่เป็นโรงแรม ซึ่งภายในห้องจะตกแต่งเป็นธีมต่างๆ เช่น Kingdom, Lego Ninja, Pirate และ Lego Friends เด็กๆ มาแล้วต้องชอบแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. (วันหยุดไม่แน่นอน แนะนำให้ตรวจสอบวันหยุดผ่านเว็บไซต์)
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 65,000 วอน / เด็ก 55,000 วอน
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี Seoul Station ไปลงสถานี Yongsan Station แล้วเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟ ITX ลงสถานี Chuncheon จากนั้นจะมีรถ Shuttle Bus บริการฟรีมาส่งถึงหน้าสวนสนุก
เว็บไซต์ : www.legoland.kr
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/7zBaH7ovAeG3vy2t9


11. ปั่นรถรางบนทางรถไฟ (Gangchon Rail Park Rail Bike) – คังวอน

Credit : ksy9 / shutterstock.com

ถ้าอยาก พาลูกเที่ยวเกาหลี แบบชิลๆ รับลมธรรมชาติแถมยังได้ออกกำลัง ก็ต้องไปปั่นรถรางที่ สวนรถไฟ Gangchon Rail Park สร้างขึ้นบนรางรถไฟเก่าที่ใช้มานานกว่า 70 ปี เมื่อคนหันไปใช้รถไฟใต้ดินกันมากขึ้น สถานที่แห่งนี้จึงถูกปรับปรุงเป็นสวนรถไฟ โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานี Gimyujeong ยาวไป 8.5 กิโลเมตร ใน 6 กิโลเมตรแรกต้องปั่นรถรางขนาด 2-4 ที่นั่งด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ช่วยกันปั่นไปพร้อมกับลูกๆ ได้เลย ทิวทัศน์รอบข้างที่มีทั้งภูเขา ทุ่งนา ไร่ข้าวโพด แม่น้ำ สวยงามมาก ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จะถึงจุดแวะพัก จากนั้นนั่งรถไฟไปอีก 2.5 กิโลเมตร หรือประมาณ 20 นาที ก็จะถึงสถานีปลายทาง ไฮไลต์คือระหว่างทางต้องปั่นลอดอุโมงค์ โดยแต่ละอุโมงค์จะมีการตกแต่งเป็นธีมที่แตกต่างกันออกไป เมื่อถึงปลายทางจะมีรถ Shuttle Bus พากลับไปส่งที่ต้นทางด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.30 น.
ค่าเข้า : รถราง 2 ที่นั่ง 35,000 วอน / รถราง 4 ที่นั่ง 48,000 วอน
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Gyeongchun Line ลงสถานี Gimyujeong ทางออก 1 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 150 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/VH3MmLtGxcuywxbbA


12. เล่นหิมะที่สกีรีสอร์ท (Ski Resort)

Credit : NOP1990 / shutterstock.com

ถ้า พาลูกเที่ยวเกาหลี ในช่วงหน้าหนาว แนะนำให้มา สกีรีสอร์ท ที่เกาหลี มีหลายแห่งที่เปิดให้บริการ เช่น จีซาน ฟอเรสต์ สกีรีสอร์ท (Jisan Forest Ski Resort) ในจังหวัดคยองกี, วิวัลดิ ปาร์ด สกีรีสอร์ท (Vivaldi Park Ski Resort) หรือ ฟีนิกซ์ พาร์ค สกีรีสอร์ท (Phoenix Park Ski Resort) ในจังหวัดคังวอน ทุกที่จะมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน รวมถึงมีลานสกีหลายระดับ ตั้งแต่ง่ายไปจนถึงยาก เด็กๆ ที่ยังเล่นไม่เป็นก็มาหัดได้ และยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่เด็กสามารถทำได้ เช่น นั่งรถเลื่อนหิมะ ล่องแก่งหิมะ ปั้นตุ๊กตาหิมะ หรือขึ้นกระเช้าชมวิวชิลๆ ก็ได้ พี่เห็ดรวบรวมสกีรีสอร์ทน่าไปใกล้โซลมาให้แล้ว อ่านเพิ่มเติมได้ >> ที่นี่


13. อันซองฟาร์มแลนด์ (Anseong Farmland) – คยองกี

Credit : nhasfarmland.com

อันซองฟาร์มแลนด์ เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางด้านเกษตรกรรมและปศุสัตว์ เด็กๆ จะได้สัมผัสกับสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น วัว, ลา, แกะ, ห่าน, กระต่าย, อัลปาก้า ฯลฯ มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งให้อาหารสัตว์, ขี่ม้า, ขับรถโกคาร์ท, ขี่จักรยาน, โดดแทรมโพลีน, นั่งรถชมวิว หรือวิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้กว้างๆ โดยจะมีดอกไม้สายพันธุ์ต่างๆ สลับสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่รับรองว่าสวยทุกฤดู ถ่ายรูปออกมาสวยมาก

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 15,000 วอน / เด็ก (อายุ 36 เดือน – 18 ปี) 13,000 วอน (ไม่รวมค่ากิจกรรมต่างๆ)
การเดินทาง :  จากสถานี Pyeongtaek นั่ง Anseong-bound bus สาย 50 หรือ 70 ลงที่ Gongdo ต่อแท็กซี่ไปยังอันซองฟาร์มแลนด์
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dXk5GrE4rEc1dXY66


14. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติกวาชอน (Gwacheon National Science Museum) – คยองกี

Credit : sciencecenter-go-kr.translate.goog

ปิดท้ายด้วย พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติกวาชอน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่และเด็กทุกวัย มีการจัดแสดงนิทรรศการทั้งในร่มและกลางแจ้ง เช่น โซนไดโนเสาร์ ที่มีไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริงถึง 7 ชนิด, โซนดึกดำบรรพ์ ที่จัดแสดงสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว, โซนโลกของแมลง, หอดูดาว, ท้องฟ้าจำลอง ที่ฉายภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนบนจอโดมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 25 เมตร และกว่า 50% ของนิทรรศการที่จัดแสดง ก็เป็นแบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive) ทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกและเหมือนได้มีส่วนร่วมในการจัดแสดงนั้นๆ

เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.30 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ (อายุ 20 – 64 ปี) 4,000 วอน / เด็ก (อายุ 7 – 19 ปี) 2,000 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี และ ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปี ขึ้นไป) ฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Seoul Grand Park ทางออก 6
เว็บไซต์ : https://www.sciencecenter.go.kr/scipia/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/XM7a8NBEN6qXhUpZ7

 ที่เที่ยวเยอะขนาดนี้ไม่ต้องกลัวว่า พาเด็กเที่ยวเกาหลี แล้วจะเบื่อเลย หลายๆ ที่ แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเราก็ยังอดตื่นตาตื่นใจไปด้วยไม่ได้ แต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะวางแผนการเดินทางให้ดี โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เตรียมอุปกรณ์ สิ่งของที่จำเป็นให้พร้อม วางแผนการเดินทางให้ดี และอย่าลืมศึกษาเส้นทางล่วงหน้าด้วย แต่ถ้าใครกังวลเรื่องการเดินทางก็จอง ทัวร์เกาหลี ไปกับมัชรูมทราเวลได้เลย มีรถรับส่งสะดวกสบาย พร้อมไกด์ดูแลตลอดทริป เที่ยวสบายหายห่วง !


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์เกาหลี ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง