ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ เที่ยวญี่ปุ่นตั้งแต่โตเกียวถึงเกียวโต พร้อมการเช่าชุด กิโมโน เกียวโต เดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ เหมือนสาวญี่ปุ่น ตามไปชมกันค่ะ
Kyoto …ใส่กิโมโน เดินเที่ยวเกียวโต แดด ฝน ลม หนาว ครบ! ฉบับมือใหม่หัดเที่ยว By Nichanary
DAY 4 : KYOTO, ARASHIYAMA
Good morning เกียวโต ♥
16 / 04 / 2017
เวลา 6 โมงเช้า รถบัสมาถึงเกียวโตแล้วค่ะ มาจอดส่งผู้โดยสารตรงด้านหลัง Kyoto Station อากาศที่นี่ตอนเช้าค่อนข้างหนาวกว่าโตเกียวเยอะมาก แอบสั่นเบาๆเพราะใส่เสื้อมาไม่หนามาก
เราลากกระเป๋ามาที่โรงแรม Hotel Kyoto Station Honkan โดยจองจาก Booking มาล่วงหน้าแล้วค่ะ ห้องนอนเป็นแบบเรียวกัง สไตล์ญี่ปุ่น เราชอบมาก ♥
แนะนำค่ะ สำหรับท่านใดอยากนอนเรียวกังราคาไม่แพง ห้องกว้างพอสมควร มีห้องน้ำส่วนตัว บรรยากาศรอบๆเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เดินถึง Kyoto Station 5-10 นาทีเองค่ะ
►ราคา : ★★★★★ (9,000 yen/night)
►บริการของพนักงาน : ★★★★ (พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย สื่อสารค่อนข้างลำบากค่ะ)
►ความสะอาด/สะดวกสบายในห้องพัก : ★★★★★ (ส่วนตัวว่าการนอนบนฟูกสีขาวนุ่มๆอุ่นๆ สบายมากค่ะ ได้อารมณ์เรียวกังสุดๆ)
►สถานที่ตั้ง : ★★★★ (ใกล้ Kyoto Station เดินแค่ 5-10 นาทีถึงค่ะ สบายๆ)
หลังจากเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า ความสดชื่นก็เข้ามาเลย พร้อมลุยเที่ยวเกียวโตต่อทั้งวันแล้ววว
ก่อนอื่น ขอรองท้องด้วยราเมนใกล้ๆที่พัก ที่ตัดสินใจทานเพราะเห็นคนท้องถิ่นไปยืนรอต่อคิวตั้งแต่หกโมงเช้า รสชาติสำหรับเราว่าเฉยๆนะ ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แป่ว!
มาญี่ปุ่น เปิดทริปเกียวโตด้วยการเดินทางไปอาราชิยาม่า เมืองน่ารัก โดยนั่งรถไฟ JR Kyoto ไปลง JR Saga Arashiyama ค่ะ
มาถึงก็แวะเข้า สวนป่าไผ่ (Bamboo Groves) ฮอตฮิตกันก่อน
สวนป่าไผ่นี้เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่ตัดผ่านในกลางสวนป่าไผ่ สามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยานผ่านก็ได้ บางท่านมีงบหน่อยก็สามารถนั่งรถให้หนุ่มญี่ปุ่นลากชมเมืองก็น่าสนุกดีค่ะ
ระหว่างทางมีศาลเจ้าโนโนมิยะให้เราได้ไหว้เอาฤกษ์เอาชัยกันด้วยค่ะ
ต่อกันด้วย วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเขตอาราชิยาม่าของเกียวโต เป็นอันดับ 1 จาก 5 อันดับสูงสุดของวัดเซน และยังได้ถูกบันทึกเป็นมรกดโลกอีกด้วยค่ะ
ด้านในมีสวนสไตล์เซน ร่มรื่นและเงียบสงบมากค่ะ ค่าเข้าชม 500 yen (ประมาณ 150 บาท)
หลังออกจากวัด ก็มาเดินเล่นชมเมืองอาราชิยาม่ากันต่อค่ะ
เจอซากุระ มาฮิปสเตอร์กันซักหน่อย
เดินผ่านร้านไอติมไม่ได้อีกแว้วว คราวนี้คุณลุงใจดี ให้ทำเองด้วย
ตัวเมืองอาราชิยาม่านั้นจะคึกคักมากในช่วงวันหยุด มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆเลย
สถานที่ที่ได้รับความนิยมอีกที่หนึ่งเมื่อมาถึงเมืองนี้ก็คือ สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) นั่นเอง
วิวสวยมากกกกกก เรานั่งชมวิวอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมงเลย มองสายน้ำไหลเอื่อยๆกับลมเย็นๆ ผู้คนเดินข้ามสะพานไปมาอย่างอารมณ์ดี วิวเขาก็ดีงามมาก หลงรักที่นี่เลย ต้องมานะคะ ♥
ระหว่างเดินกลับสถานี ก็โดนไปอีก 1 แท่ง ไอติมชาเขียวก็อร่อยนะ
เนื้อทอดข้างทางยังอร่อย แต่แอบอมน้ำมันไปนิ๊ดด
เดินเพลินไปหน่อย เริ่มเหนื่อยแล้วก็เลยหามื้อกลางวันทานค่ะ
ตกบ่ายๆก็นั่งรถไฟกลับเกียวโตค่ะ โดยขอแวะลงไปชม วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง กันสักหน่อยก่อนกลับค่ะ
นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะเลยทีเดียววันนี้ ค่าเข้า 400 yen ค่ะ (ประมาณ 120 บาท)
วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ พร้อมสวนสไตล์เซนค่ะ
ออกมาก็นั่ง Bus กลับไป Kyoto Station ค่ะ แวะทานมื้อเย็นที่ร้านหมูทอดทงคัตสึ Katsukura เจ้าดัง ชาวต่างชาติมาต่อคิวยาวเหยียดเลย รอประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้ทานค่ะ
รสชาติค่อนข้างดีเลยค่ะ หมูนุ่ม น้ำซอสก็รสชาติกำลังดี แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า Maisen ที่ไทยอร่อยกว่านะคะ ไม่ต้องมาไกลถึงเกียวโตก็ฟินได้
จบวันไปกับหนังท้องตึงๆกับหมูทอดคัตสึคุระละกันนะคะ
โดยพรุ่งนี้เราแพลนจะใส่กิโมโนเดินเล่นทั้งวันค่ะ จะเป็นยังไง รอติดตามกันต่อเล้ยย
ซึ่งสถานที่เช่าชุด กิโมโน เกียวโต ของเรา อยู่ที่ Kyoto Tower นี่เอง
DAY 5 : KYOTO, OSAKA
あめですね。
ฝนตกทั้งวันเลยนะ เกียวโต T_T
17 / 04 / 2017
ตื่นเช้ามาดูพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกทั้งวัน แอบเซ็งจัง เพราะ มาญี่ปุ่น ตั้งใจจะใส่ชุด กิโมโน เกียวโต เดินเล่นทั้งวันอะ แต่ด้วยความตั้งใจจริงแล้ว ประกอบกับความมโนว่าสายฝนเบาๆจะทำให้ถ่ายรูปสวย มั้ยนะ? เลยตัดสินใจไปร้านเช่าชุดเลยค่ะ ด้วยความดื้อล้วนๆ 555+
กิโมโน เกียวโต ร้านที่เราไปเช่านั้นต้องจองในเว็บล่วงหน้า 1 วันค่ะ ชื่อร้าน Kyoto Kimono Rental Wargo อยู่ตรง Kyoto Tower ขึ้นไปชั้น 3 ก็เจอเลยค่ะ หาง่ายมาก พนักงานเป็นคนญี่ปุ่น ที่น่าจะคุ้นเคยกับคนไทยเป็นอย่างดีค่ะ ดูแลบริการให้เลือกชุดดีมาก
พอเราไปถึงก็ยืนยันการจองจากอีเมลล์ แล้วก็ไปเลือกผ้ากิโมโน ต่อด้วยเลือกโอบิค่ะ เราสามารถเลือกทุกอย่างได้เองทั้งหมดอย่างอิสระเลยค่ะ
หลังจากนั้น พนักงานก็จะจับเราแต่งตัว โดยที่เสื้อผ้าทั้งหมดที่ใส่มา เค้าจะให้เราใส่ถุงไว้แยกต่างหาก ตอนเรามาคืนชุด ก็เปลี่ยนกลับได้เหมือนเดิมค่ะ
หลังจากแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นที่เรียบร้อย ติดกิ๊บ เลือกกระเป๋า พร้อมใส่รองเท้าเสร็จสรรพ ก็เตรียมออกไปเซย์ไฮ เป็นสาวญี่ปุ่นกันได้เลยหนึ่งวันเต็มๆค่า….
แต่งตัวเสร็จก็รองท้องกันก่อน เบาๆ
เริ่มด้วยการนั่ง JR มาลง JR Inari เพื่อเยี่ยมชม ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยเรียกว่า ศาลเจ้าแดง นั่นเองค่ะ
ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มาก ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าสร้างมากว่าพันปีแล้ว
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจาก ประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือ เสาประตูสีแดง ที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริเลยค่ะ
เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ได้ใส่ชุดกิโมโนเดินทั่วเกียวโต แถมมีชาวต่างชาติมากมาย ทั้งคนจีน ฝรั่ง หรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง ก็มาขอถ่ายรูปด้วย 555 น่ารักกรุบกริบ
เดินเล่นจนเพลิน ก็รองท้องสิคะ จัดเนื้อย่างเลย 1 ไม้
ตามด้วยเบค่อน อ้อน อ้อนนน
ถัดมา เราก็นั่ง Bus ต่อไปลงที่ วัดคิโยะมิซุ ( Kiyomizu-dera) หรือที่คนไทยเรียกว่า วัดน้ำใส ค่ะ
เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านทำให้เป็นที่มาของชื่อ “วัดน้ำใส”
มาแล้วก็ขอซักอึกสองอึก! เค้าบอกจะให้โชคให้ลาภ!
เค้านี่ใคร?
นู๋ไม่รู้ ได้ยินมา…
อาคารไม้ของวัดคิโยะมิซุสร้างขึ้นโดยไม่มีการใช้ตะปูตอกแม้แต่ตัวเดียวในการก่อสร้าง นอกจากนี้ยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลกอีกด้วยค่ะ
แต่โชคไม่ดีอีกแล้ว เราไปในช่วงที่ตัวอาคารหลักปิดซ่อมแซมพอดี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020 เพื่อให้ทันต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกสำหรับ Olympic 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพนั่นเองค่า
ซากุระเปียกฝน ในวัดน้ำใส
ฝนตกอะไรทั้งวันน้าา บ่นๆ แต่ก็เดินต่อไป อากาศเย็นจัง
ทางออกจากวัดก็มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ
ความจริงที่แพลนไว้ คือเราจะต้องไปเดินเล่นต่อที่ Gion ดูเกอิชา ชมเมืองเก่า แต่ปรากฏว่าฝนตกหนักขึ้น เฉอะแฉะมาทั้งวันแล้ว เราจึงขอลาเกียวโตไว้แค่นี้ดีกว่า บายยย
หลังจากกลับไปคืนกิโมโน และ เอาสัมภาระที่โรงแรม เราก็มุ่งหน้าต่อไปที่โอซาก้าค่ะ
โดยเดินทางด้วย JR เช่นเดิม ลงสถานี Osaka ต่อมาที่โรงแรม Hotel Osaka Bay Tower ที่สถานี Bentencho ค่ะ
KYOTO ► OSAKA
Hotel Osaka Bay Tower
เป็นโรงแรมสูงเสียดฟ้าและเชื่อมต่อโดยตรงกับ Bentencho Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสาย JR และ SUBWAY
แนะนำเลย สะดวกมากๆค่ะ สำหรับคนสัมภาระเยอะ ไม่ต้องเดินลากกระเป๋าลงถนนเลย เพราะมีทางเดินเชื่อมต่อจาก JR ถึงโรงแรม และจาก SUBWAY ถึงโรงแรมเลยค่ะ
ที่สำคัญคือชอบวิวห้องมากกกกกกก แถมยังมีทำเลอยู่ห่างจาก Universal Studios Japan ด้วยการนั่งรถไฟแค่ 2 สถานีเท่านั้น สะดวกสุดๆ
ชอบมากจนให้ 5 ดาวทุกอย่างไปเลยยย
►ราคา : ★★★★★ (8,000 yen/night คุ้มค่ามากกกกก)
►บริการของพนักงาน : ★★★★★ (พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ บริการยิ้มแย้มแจ่มใสดีค่ะ)
►ความสะอาด/สะดวกสบายในห้องพัก : ★★★★★ (ห้องนอนกว้างกว่ามาตรฐานญี่ปุ่นทั่วไป ห้องน้ำกว้าง ของใช้ครบครันค่ะ)
►สถานที่ตั้ง : ★★★★★ (ใกล้ทั้ง JR และ SUBWAY แม้จะอยู่ไกลตัวเมือง แต่เดินทางสะดวก ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ)
จบวันไปกับวิวเมืองโอซาก้ายามค่ำคืนแล้วกันนะคะ ครอกก ฟี้….zzZz
ขอบคุณรีวิวน่ารักๆจาก Guest สุดพิเศษ คุณ Nichanary เที่ยวที่ละคำ สังกัด Pantip จากกระทู้ “[CR] Kyoto …ใส่กิโมโน เดินเที่ยวเกียวโต แดด ฝน ลม หนาว ครบ! … ฉบับมือใหม่หัดเที่ยว By Nichanary” ที่มามอบประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่น ใส่ชุดกิโมโนเดินเที่ยวเกียวโต รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : Facebook/Nichanary – ชีวิตดีดี ที่ได้เที่ยว