ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ ไปปีนเขา คินาบาลู มาเลเซีย แบบฉบับผู้เริ่มต้น จะท้าทายน่าสนุกขนาดไหน ใครอยากไป ต้องชม!
ลาพักร้อนไปปีนเขา ” Kinabalu (คินาบาลู) ” ประเทศมาเลเซีย (ฉบับผู้เริ่มต้น)
ลาพักร้อนครั้งนี้จะพาไปปีนเขากันค่ะ สำหรับทริปนี้เป็นเกาะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทยที่ คินาบาลู มาเลเซีย อยู่ติดประเทศบรูไน มากที่สุด
นั่นก็คือ ” Kota Kinabalu ” รัฐซาบะฮ์ แปลเป็นไทยจริงๆ น่าจะเขียนว่า โกตากีนาบาลู แต่ขอเรียกเป็น คินาบาลู ละกันนะคะ
นี่จะเป็นวิธีการต่างๆ แบบฉบับ นักหัดเดินป่า ปีนเขา สำหรับผู้เริ่มต้น หรือ ใครที่จะไป คินาบาลู มาเลเซีย แบบมือใหม่เลยนะคะ
จะสรุปให้แบบ ทำตาม เห็นภาพ สั้นๆ แล้วก็ไปได้เลย ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งทริปนี้หมดไป 20,000 บาท โดยประมาณค่ะ
1.การเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างประเทศ
สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศนั้น ตามแบบของฝนแล้วจะเป็นแบบนี้ค่ะ
“ขาไป”
บินตรงจาก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – โกตา คินาบาลู มาเลเซีย (Kota Kinabalu) โดยสายการบิน ” Thai Smile ” ขึ้นจาก สุวรรณภูมิ
ชอบมีโปรโมชั่น 2,500 – 4,000 บาท
“ขากลับ”
บินจาก Kota Kinabalu – Kuala Lumpur (KL) – Bangkok
โดยสายการบิน “Air Asia” ลงจอดที่ดอนเมือง ชอบมีโปรโมชั่นเช่นกัน ส่วนฝนได้มาน่าจะเป็นราคาปกติคือประมาณ 1,500 บาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับใครที่ มามาเลเซีย อยากจะบินตรงกลับเลยก็ได้ หรือใครที่อยากจะต่อเครื่องทั้งขาไปขากลับก็ได้เช่นกันค่ะ
2. การจองโปรแกรมปีนเขารวมถึงที่พัก
ซึ่งจะเป็นคนกลางที่มี contact agency ทั้งหมดเอาไว้ เราสามารถ “เลือก package” ได้ตามใจต้องการ โดยแต่ละ package จะเขียนรายละเอียดค่อยข้างชัดเจน
รวมถึงราคา , ความยากและระดับความเหนื่อยเอาไว้ด้วย ราคาจะถูกปรับขึ้นในทุกๆปี และจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับจำนวนคนในทริป
ในนั้นจะเขียนไว้ค่ะ ถ้าใครไปมากๆกว่า 30 คนให้ติดต่อไปต่างหาก เพราะจะได้ราคาพิเศษ
ฝนเลือก Package 2D1N MOUNT KINABALU CLIMB MYR 1,880 (เพราะไป 3 คน)
2D1N ย่อมาจาก 2 Days 1 night << หรือ 2 วัน 1 คืน นั่นเองค่ะ
สำหรับ Package รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งรถรับส่ง , ค่าที่พัก , ค่ากิน , ค่าไกด์ , ค่า Permit ,ค่า ID card , ค่าโน้นนี่นั่น…
ไม่รวมค่าฝากกระเป๋า และ ค่าลูกหาบ
ค่าฝากกระเป๋า: ประมาณ 10 ริงกิตประมาณ 80 บาทไทยค่ะ (ราคานี้ฝากไป 2 ใบ)
ค่าแบกของ: ขึ้น – ลง กก.ละ 13 – 15 ริงกิต / กก. ค่ะ
สำหรับใครจะจองแยก สามารถจองได้ แต่ไปๆมาๆแล้ว มันจะใกล้เคียงกับจองรวดเดียว ถ้าไปน้อยคนนะคะ
คำเตือน : อย่าจองตั๋วเครื่องบินก่อน เมื่อเลือกวันที่จะไปเที่ยวแล้ว ให้เลือก ” Send Enquiry ” ผ่านเว็บไซต์ไปก่อน
เพราะว่า เขาจำกัดจำนวนคนปีนเขาคินาบาลูประมาณ 140 คน / 1 วัน
หลังจากนั้นทางเว็บไซต์จะส่งเรื่องไปยังแต่ละ Agency ว่าบริษัทไหนจะมาดูแล้วเรา หลังจากนั้น เราจะได้รับ Email ตอบรับมาค่ะ ว่าจะจองได้หรือไม่ได้
3. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง ที่จะไป คินาบาลู มาเลเซีย
สำหรับเป้าหมายทริปนี้ที่ มามาเลเซีย คือ ไปชูธงชาติไทยและพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 ค่ะ
หมายเหตุ : ไม่ได้โฆษณา brand แต่อย่างใดค่ะ เป็นความชอบส่วนตัวของฝนเองค่ะ
– อุปกรณ์กันหนาวสำหรับอุณหภูมิ (-2) ยอดเขา – 15 องศา บน base camp.
– เสื้อกันฝนซัก 1-2 ตัว (หาซื้อได้จาก 7-11 ในราคาถูก)
– (แนะนำ) ไม้เทรคกิ้ง
– ปลั๊ก universal และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับใครจะเอากล้องไปเยอะ
– ไฟฉายคาดหัว
– รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าสำหรับเดินป่าที่มันไม่ลื่น
– rain cover สำหรับกระเป๋า เพราะโหลดใต้เครื่องบินเจอฝน กระเป๋าเราก็เปียกค่ะ
– (แนะนำ) เป้น้ำที่ใช้ในงานวิ่งเทรล หรือ วิ่งระยะไกล เพราะมันสะดวกกว่าถือขวดน้ำ
สภาพอากาศ ช่วงต้นเดือน พฤษภาคม ยังมีฝนตกอยู่แต่ไม่หนักมาก มีหมอกลงจัดตลอดเวลาแต่วันที่ขึ้นยอดฟ้าโปร่งค่ะ
ฉะนั้นอุปกรณ์กันฝนต้องใส่ใว้ในกระเป๋าในส่วนที่พร้อมหยิบใช้ค่ะ
4. สนามบิน , Internet Sim , รถรับส่ง
สำหรับสนามบิน Kota Kinabalu เป็นสนามบินที่คนเยอะเหมือนกันค่ะ เนื่องจากมีไฟล์ท ดีเล ค่อนข้างบ่อยเนื่องจากสภาพอากาศ
ของขายส่วนใหญ่เป็นขนมหวาน มีของที่ละลึกขายเช่นกัน ถ้าใครพลาดจากในตัวเมืองมาแล้ว
4.1 Internet Sim ฝนใช้ของค่าย Digi (Dtac นั่นแหละ) Internet Only 25 MYR / 10 GB
(จำ data ไม่ได้ว่าให้เท่าไร แต่เอาเป็นว่าเยอะมากอะค่ะ เล่นกันให้เพลินไปเลย)
ชี้เป้า : เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋าแล้ว จะเจอเลยค่ะ
4.2 รถ shuttle bus สนามบิน – ตัวเมือง Kota Kinabalu
โรงแรมส่วนใหญ่จะใกล้ห้าง Centre Point Sabah ซึ่งรถจะผ่านตรงนี้ ราคาอยู่ที่ 5 MYR / 1 คน ประมาณ 40 บาท
ชี้เป้า : เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋าแล้ว ซื้อซิมเสร็จแล้ว อยู่ซ้ายสุดของสนามบินถ้าหันหน้าออกสนามบิน
5. ที่พักในเมือง อาหารการกิน
” เราต้องมาถึง Kota Kinabalu ก่อนปีนเขา 1 วัน นี่คือคำเตือนจาก Agency ” ที่พักคืนแรกฝนเลือก Hotel traveller 3 คน / 1 คืน 900 บาท ค่ะ
ก็ตกคนละ 300 บาทนั่นเอง ถือว่าดูดีเลยเชียว สำหรับราคานี้
ข้างๆโรงแรมมีร้านอาหารที่เปิด 24 ชั่วโมงด้วยค่ะ ชื่อร้าน WONG KOK อาหารก็รสชาติคนไทยกินได้ค่ะ อร่อยอยู่ ราคาอาหารเริ่มต้นที่จานละ 50 บาทค่ะ
6. Summit Mt.Kinabalu Project
พูดรายละเอียดมาตั้งนาน หลายๆคนน่าจะรอในส่วนนี้ (หัวเราะ)อันดับแรก เราจะต้องเดินทางไปยัง ” Kinabalu Park Headquarter. “ ก่อน 8.30 น. ค่ะ
ฉะนั้นรถก็จะมารับเราประมาณ 6.00 น. ที่โรงแรม ถ้าเราจอง Agency.
สำหรับก่อนปีนเขา ทางอุทยานจะให้เราไปเซ็นเอกสารยินยอมจะไม่ฟ้องร้องหากเราเสียชีวิตระหว่างเดินทาง
เนื่องจากการเดินทางมีความเสี่ยง ประมาณนั้นค่ะ นั่นไง ยอดเขา คินาบาลู !! อยู่โน้น !!!
หลังกจานั้นเวลา 8:30 ทางอุทยานและไกด์ที่ดูแลเราจะพาเรานั่งรถไปที่ Timpohon Gate เพื่อเริ่มออก start ค่ะ
ก่อนจะเดิน ไกด์ก็จะอธิบาย เส้นทางทั้งหมดที่เราจะต้องเดิน ที่แรกที่เราจะต้องไปให้ถึงคือ
” Panalaban Base Camp ที่ความสูง 3,272 เมตร จากระดับน้ำทะเล “ แต่ที่พักเราจะอยู่ที่ Laban Rata ซึ่งสูง 3,314 เมตรจากระดับน้ำทะเลค่ะ
พิกัด :
ถึงแล้ว Panalaban Base Camp
สำหรับคืนนี้เราจะพักกันที่บ้านหลังในรูปนี้ค่ะ เรียกว่า Laban Rata เป็นเหมือน hostel ในห้องนอนจะเป็นเตียงสองชั้น
ไม่มีการ fixed เตียงล้างเตียงบน ใครไปก่อนได้ก่อนค่ะ หากไปกลุ่มเล็กๆ จะได้เจอเพื่อนใหม่ต่างชาติแน่นอนค่ะ คุยกันเพลินไปเลย
ห้องน้ำรวม แต่แยกชายหญิง มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีน้ำอุ่นให้อาบ
สำหรับ zone กินข้าว จะเป็น Buffet บริการตัวเอง
อาหารเย็นจะมีถึงแค่ 19:00 น. ฉะนั้นหากเดินมาถึงช้าจะไม่ได้กินข้าวเย็นค่ะ และจะเสิร์ฟอีกทีตอน 2:00 น. ก่อนเดินขึ้นเขา
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมค่าอาหารและที่พักแล้ว “ยกเว้น น้ำดื่ม” ต้องจ่ายเงินเองค่ะ
Panalaban Base Camp – Summit Point Mt.Kinabalu (Low’s Peak @ 4,095 M.)
ไกด์จะนัดเราที่เวลาประมาณตี 2:45 น. ซึ่งเราจะต้องตื่นประมาณ 2:00 น. เพื่อมาทานอาหารเช้ามืด สำหรับคนไทยบางคนจะเรียกว่าเป็นมื้อดึกอยู่เลย
ใส่อุปกรณ์กันหนาวให้เรียบร้อย ห้ามลืมไฟฉายเด็ดขาด ไม่ต้องแบกอะไรขึ้นไปเยอะ ทิ้งเอาไว้ในห้องนอนก่อน สำคัญที่สุดคงจะเป็น “น้ำดื่ม”
เริ่มเดิน 2:45 น.
ทางช่วงแรกจะเป็นบันไดไม้ ที่มีความชื้น ลื่นบ้าง แต่ชันหลังจากนั้นจะเป็นการปีนป่าย จับเชือกดึงตัวเองขึ้นไป
เดินบนก้อนหินแทน จนพระอาทิตย์ใกล้ขึ้นถึงจะเห็นสภาพแบบนี้ค่ะ
หลังจากนี้ฝนก็นั่งอยู่ตรงนี้ซักพักเพื่อชื่นชมวิวก่อนจะเดินขึ้นไป Summit Low’s Peak ก็จะเป็นภาพแบบนี้ค่ะ
(ต้องขอภัยด้วย อาจจะเบื่อหน้ากันไปหน่อยแต่ มองข้ามๆไปก่อนนะคะ (หัวเราะ)
7.ของที่ละลึก
สำหรับของที่ละลึกที่ มามาเลเซีย แล้วไม่ควรพลาดเช่น Postcard หรือว่า Magnet หรือพวกเสื้อ สามารถซื้อได้จาก Base camp
ถ้าส่ง Postcard จากบนนี้ เราจะได้ตราประทับ Laban Rata ด้วยค่ะ ให้ติดต่อ counter ได้เลยว่าให้ส่งให้ด้วย
เขาคิดค่าแสตป์ประมาณ 40 บาทค่ะ หรือจะไปซื้อที่ Kinabalu Park HQ. (แต่อันนี้เหมือนจะปิดแล้วตอน 16:30 น.)
ส่วนราคาน่าจะพอๆกันค่ะ ข้างบนอาจจะแพงกว่านิดหน่อย
8. นอกรอบที่ Kuala Lumpur (KL)
หลังจากลงเขาเสร็จ เราก็บินต่อไปนอนที่ Kuala Lumpur ค่ะ ด้วยไฟล์เวลา 20:40 น. ของ AirAsia. ซึ่งไปถึงแบบ counter เปิดแล้วพอดี
สนามบินที่นี่ให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ AirAsia บริการตนเอง ด้วยการ Check in จากตู้ Kiosk , ปริ้น tag กระเป๋า แล้วก็โหลดกระเป๋าเอง
สำหรับที่พักที่ KL เรานอนที่โรงแรม Gold brick 900 บาท / คืน / 3 คน ตกคนละ 300 บาทเช่นเคยค่ะ
สำหรับการเดินทาง สามารถใช้รถไฟฟ้าได้ค่ะ ให้ลงสถานี KLCC
สำหรับเพื่อๆคนไหนที่มีคำถามที่จะไปหรือวางแผลที่จะไป คินาบาลู มาเลเซีย สามารถ comment และหลังไมค์มาหาได้ค่ะ ยินดีช่วยเหลือ
ขอทิ้งท้ายไว้ว่า “ไม่มีภาพใดสวยเท่าภาพที่ตาเราเห็น” สวัสดีค่ะ
ขอบคุณรีวิวน่ารักๆจาก Guest สุดพิเศษ คุณฝน จากกระทู้ “[CR] ลาพักร้อนไปปีนเขา ” Kinabalu (คินาบาลู) ” ประเทศมาเลเซีย (ฉบับผู้เริ่มต้น)” ที่มามอบประสบการณ์จัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : https://www.facebook.com/VacationIsButAJourney/