ลิสต์ เพลงพระราชนิพนธ์ เพราะๆ เติมเต็มความสุขในหัวใจไทย
ฮั่นแน่..รออัพเดตกันอยู่รึเปล่า วันนี้เป็นคิวของ… เพลงพระราชนิพนธ์ ของรัชกาลที่ 9 ในช่วงนี้ที่คนไทยหัวใจสลาย สิ่งที่สามารถช่วยให้อารมณ์ที่หม่นหมองกลับมาสดใสได้นั่นก็คือ ดนตรีนั่นเอง ดังนั้นมัชรูมทราเวลจึงอยากแนะนำ “เพลงพระราชนิพนธ์” ที่ทรงคุณค่าให้เราชาวไทยได้ผ่อนคลายไปพร้อมๆ กับระลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ระลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน เป็นที่รู้ดีกันค่ะว่าพระองค์มีพระราชปรีชาญาณในเรื่องของดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช รวมบทเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งสิ้น 48 เพลง มัชรูมทราเวล ขอเลือกนำ 5 เพลงพระราชนิพนธ์ ที่มีความหมายดีๆ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆ พี่น้องชาวไทยทุกๆ ท่าน ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาประเทศ ตามเจตนารมย์ ตามรอยพระบาทของพระองค์ท่านค่ะ
แสงเทียน (Candlelight Blues)
เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงแรก ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2498 เป็นเพลงที่มีเนื้อหาสอนใจได้เป็นอย่างดี โดยใจความสำคัญของเพลงนี้ก็คือให้ทุกคนหมั่นสร้างความดีอย่างสม่ำเสมอ จะได้ไม่ต้องอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อถึงคราวที่ชีวิตประสบชะตากรรม เพราะการบนบานต่างๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย หากเราไม่สร้างความดี
ชีวิตของเราก็เปรียบเหมือน “แสงเทียน” ที่สุดท้ายก็ต้องดับลง แต่ว่าความตายนั้นก็มีประโยชน์ เพราะทำให้เราพ้นจากความทรมานทั้งปวงนั่นเอง ดังนั้นแล้วก่อนที่จะถึงวันนั้น… เราก็มาทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดบนความไม่ประมาทนะคะ
คำร้องภาษาไทย : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
คำร้องภาษาอังกฤษ : รองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล
ชะตาชีวิต (H.M. Blues)
เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงชะตาชีวิตนั้นเนื้อหาภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ “ชะตาชีวิต” เป็นเพลงบลูส์ ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขณะที่เสด็จฯ ทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์หลังเสวยราชสมบัติแล้ว เป็นเพลงที่มีทำนองเรียบง่าย ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองแล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษโดยใช้ชื่อว่า “H.M. Blues” ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่าคงจะหมายถึง His Majesty’s Blues แต่แท้จริงหมายถึง Hungry Men’s Blues เพราะเหตุว่าในงานรื่นเริงที่ทรงเชิญข้าราชบริพาร นักเรียนไทย ไปร่วมงานเป็นการส่วนพระองค์นั้น ทรงบรรเลงเพลงเป็นเวลาครึ่งคืนโดยมิได้ทรงหยุดเพื่อเสวยพระกระยาหารเลย ในขณะที่ผู้ได้รับเชิญทุกคนได้รับพระราชทานอาหารอิ่มหนำสำราญ
โดยในภาษาไทยนั้นสะท้อนปรัชญาชีวิตที่ให้คนนั้นมีความหวัง ถึงแม้เราจะไม่มีอะไรดีเลย เป็นเพราะเวรกรรมหรืออะไรก็ตาม (เหมือนกับนกน้อยในเพลง ที่ไม่มีเพื่อนและไม่มีบ้าน) แต่ก็ต้องมีความเชื่อมั่นว่า ในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่สดใส และดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
คำร้องภาษาไทย : ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
คำร้องภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
สายฝน (Falling Rain)
เพลงพระราชนิพนธ์นี้มีเนื้อหาพรรณนาถึงสายฝนกับธรรมชาติ เป็นสัญลักษณ์เปรียบเทียบความสำเร็จที่คนเราจะได้รับหลังจากการทำงานหนักหรือยากความลำบากนั่นเอง บทเพลงแฝงนัยของการให้ความหวัง กำลังใจ ทำให้รู้สึกสดชื่น ใครที่ทำงานเหนื่อยๆ แล้วรู้สึกท้อแท้…ลองฟังเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน” ดูนะคะ
คำร้องภาษาไทย : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
คำร้องภาษาอังกฤษ : ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา
ยิ้มสู้ (Smiles)
เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ ๑๖ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย เพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่คนตาบอด แล้วพระราชทานให้นำไปบรรเลงในงานสมาคมช่วยคนตาบอด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๔๙๕ ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ในปีต่อมา
ซึ่งเนื้อหาเพลงนั้นอ่านแล้วสามารถเข้าใจในทันทีว่า คนเราจะทุกข์หรือสุข อยู่ที่ใจตัวเองนี่แหละค่ะ ประสบปัญหามากมายขนาดไหน ก็ขอให้ยิ้มสู้ อย่าได้กลัว! เทรนด์ยิ้มสู้กำลังมา
คำร้องภาษาไทย : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
คำร้องภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
ความฝันอันสูงสุด (The Impossible Dream)
เพลงนี้สืบเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชประสงค์จะพระราชทานกำลังใจให้แก่บรรดาข้าราชการทหาร ตำรวจและพลเรือน มิให้ท้อถอยในการปฏิบัติหน้าที่ต่อชาติ บ้านเมืองค่ะ เพลงนั้นถ้าเราอ่านดีแล้วก็พูดได้เต็มปากว่า รู้สึกฮึกเหิมจริงๆ เมื่อเราเอามาเปรียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน…ถ้ามี “ความฝันอันสูงสุด” ก็อย่าได้ไม่ท้อถอย ไม่พะว้าพะวัง ไม่น้อยใจในโชคชะตา เราจะไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน คงยืนหยัดสู้ต่อไป!
คำร้อง : ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค
ได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์แล้วก็รู้สึกฮึกเหิม มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ เราล้มได้ เราเสียใจได้ แต่ในวันพรุ่งนี้ เราจะเป็นคนใหม่ที่พร้อมสู้กับทุกปัญหาค่ะ!
ขอบคุณ wikipedia.org, web.ku.ac.th, supremeartist.org