เที่ยว ทั้งวันก็ไม่พอ…
โคะอิวะอิ สุดยอดฟาร์มขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
มากลิ้งเกลือกไปบนพื้นหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่ โคะอิวะอิ ฟาร์มที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นกันเถอะ
โคะอิวะอิ หรือชื่อเต็มคือ ฟาร์มปศุสัตว์โคะอิวะอิ (Koiwai Farm akibaen) ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนโดยสามผู้ก่อตั้งคือ มาซารุ อิโนะอุเอะ บิดาแห่งการรถไฟของญี่ปุ่น อิวาซากิ ยะโนะสุเกะ ประธานบริษัทมิตซูบิตชิ และรองประธานอย่าง กิชิน โอโนะ โดยเริ่มจากการสร้างทางคมนาคมก็คือทางรถไฟเข้าสู่ภูมิภาคโทโฮกุ และเริ่มที่จะฟื้นฟูพื้นที่ที่แทบไม่มีต้นไม้ขึ้นใหม่ โดยพื้นที่ที่ตั้งฟาร์มขึ้นคือเมืองคุสุคุอิชิ (Shizukuishi) จังหวัดอิวาเตะ ภูมิภาคโทโฮกุ
เดี๋ยวๆๆ เห็นรูปแล้วอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเครื่องคอมรวนจนเด้งกลับไปหน้าเดส์กทอปส์นะ เข้าใจว่ารูปที่เห็นนี่มันสวยจนเหมือนภาพพักหน้าจอสมัยวินโดว์ 98 (แก่ไปมั้ยเนี่ย?) แต่นี่เป็นภาพถ่ายจากวิวในฟาร์มปศุสัตว์โคะอิวะอิต่างหากล่ะ แหม สวยจนตะลึงเลยล่ะสิ แถมไม่ใช่แค่สวยธรรมดานะ สวยมากเชียวแหละ ที่ว่ามากนี่ไม่ใช่แค่ความสวยหรอกนะ ขนาดความกว้างใหญ่ของที่นี่เองก็มากกกกก (ขออนุญาตวิบัติเพื่ออรรถรสในการอ่าน) เชียวแหละ ใหญ่แค่ไหนเหรอ…
ฟาร์มโคะอิวะอิมีขนาดใหญ่ถึง 3,000 เฮกตาร์!! เทียบให้เห็นภาพง่ายๆว่า 1 เฮกตาร์มีขนาด 6.25 ไร่ 3,000 เฮกตาร์จึงมีขนาดถึง 18,750 ไร่ หรือประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรเลยล่ะ
ที่นี่ไม่ได้มีแต่ใช้ว่าชื่อฟาร์มปศุสัตว์เท่านั้นนะ แต่เป็นการทำฟารม์ปศุสัตว์จริงๆ มีปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยววัน เลี้ยงแกะ เลี้ยงม้า เรียกได้ว่าเป็นฟาร์มจริงจังไม่ใช่แค่ตั้งเอาโก้ มีการผลิตสินค้าจากผลผลิตทางการเกษตรมากมายเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้มาเยี่ยมชมด้วย เรียกได้ว่าเป็นของฝากสำคัญอย่างหนึ่งของโทโฮกุด้วยล่ะ โดนสินค้าจะถูกตีเป็นแบรนด์ โคะอิวะอิ เดย์รี่ โปรดักซ์ (Koiwai Dairy Products) ซึ่งมีมากมายเชียวแหละเธอ แต่ที่เด็ดและไม่ควรพลาดก็คือโยเกิร์ต นม ชีส ไข่ไก่ แยม ที่หอมอร่อยเหาะ…เพราะมาจากวัตถุดิบสดใหม่เลยทีเดียว
นอกเหนือจากความกว้างและสินค้าที่แปรรูปจากผลผลิตในฟาร์มแล้ว ฟาร์มโคะอิวะอิยังเป็นสถานที่พักผ่อนแบบยกครอบครัวด้วยนะ เพราะว่าที่นี่จะเปิดให้เข้าชม โดยมีกิจกรรมให้ร่วมมากมาย ทั้งการพาไปเก็บผัก ผลไม้ในฟาร์มมาอบพิซซ่าสดใหม่ด้วยมือคุณเอง ชิมไอศกรีมโฮมเมด ขึ้นรถพาทัวร์ฟาร์มผ่านกำแพงต้นไม้สูงชะลูด ไปจนถึงเล่นน้ำเย็นฉ่ำที่ไหลมาจากน้ำตก เรียกได้ว่า คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายสามารถนั่งรับอากาศบริสุทธิ์รอหลานๆทั้งหลายไปเก็บวัตถุดิบกับคุณพ่อคุณแม่มาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดให้ได้ทานกันแบบสดใหม่ได้แบบไม่เบื่อเลยทีเดียว ช่วยเสริมทั้งสุขภาพกายสุขภาพจิตเลยนะเนี่ย แหมดี๊ดี
อย่างที่บอกไปว่าที่นี่เหมาะสำหรับครอบครัวและยังเหมาะกับการมาเพื่อเพิ่มพูนการเรียนรู้ธรรมชาติที่มากันเป็นสถานศึกษาด้วยนะ เพราะว่ามีการเปิดให้ชมหลายส่วนทั้งการเก็บเกี่ยว การแปรรูป แล้วยังมีคอร์สการเรียนประดิษฐ์ระยะสั้นให้ได้เรียนผลิตงานไม้ ผลิตเนยด้วยแหละ การแนะนำให้เด็กๆ ได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ได้ลองส่องนก ดูปลา เป็นการปลูกฝังการอนุรักษ์ธรรมชาติและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม
ส่วนหนุ่มสาวที่มาแล้วคิดว่าที่นี่ช่างจืดชืด น่าเบื่อหน่ายล่ะก็ ขอบอกเลยว่าคิดผิดแล้วนะจ๊ะ เพราะนอกจากธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ทั้งขี่ม้า ยิงธนู เกมฝ่าด่านต่างๆ หรือถ้ามาช่วงฤดูหนาวยิ่งสุดยอดเลยล่ะ หิมะขาวโพลนเหมาะกับการสกีหรือว่าจะไปเดินจับมือ คล้องแขนดูไฟประดับก็โรแมนติกไม่น้อยเลยล่ะ หรือถ้ามาช่วงซากุระผลิดอกนี่ก็ ดีงามมากเพราะว่าต้นซากุระที่นี่ปลูกเรียงรายริมถนนหลักให้ได้นั่งรถชม เดินชมได้แบบไม่หวงเลยล่ะ
ที่สุดของที่สุด (สำหรับเรา) สำหรับที่นี่ ก็คืออาหาร ขอแนะนำว่าถ้ามาที่นี่ล้างท้องรอไว้ได้เลยนะ เพราะของกินอร่อยมาก ตั้งแต่ของคาวยันของหวาน เครื่องดื่มยังอร่อยเลยคิดดู เพราะวัตถุดิบสดใหม่ที่มีทั้งพิซซ่าร้อนๆ ชีสแน่นๆ ยืดๆ หนุบหนับเต็มคำ เจลาโต้รสหวานกลมกล่อม หอมกลิ่นนมและยังมีกลิ่นและรสจากดอกไม้และผลไม้ในไร่ให้เลือกด้วย (แนะนำไอกรีมโคนโฮมเมดริงโงะหรือแอปเปิ้ลเลยนะ ฟินมว้ากก) นอกจากนี้ยังขอแนะนำเนื้อแกะเจงกิสข่านย่างบนเตาร้อนๆ กินแกล้มกับผักย่างหวานๆ น้ำผลไม้หอมกรุ่น รับรองว่ามีกี่กระเพาะก็ไม่อยากอิ่ม 55
อ้อ เกือบลืมไปเลย ที่นี่เค้ามีวันหยุดด้วยนะ นั่นก็คือวันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน นอกนั้นเค้าเปิดตลอดปี ส่วนเวลาเปิด – ปิดก็ต่างกันไปตามฤดูกาลนะ แต่ส่วนมากจะเปิด 9.00 น. และปิด 17.30 น. เสียค่าเข้าชมคนละ 600 เยน ส่วนเด็กๆ เสียคนละ 300 เยนเท่านั้น ใครสนใจอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถดูได้ที่ www.koiwai.co.jp
ใครไม่อยากไปก็ช่าง แต่เมษานี้เราไปแน่ๆ ใครอยากไปด้วยก็รีบๆเข้าล่ะ ช่วงไฮซีซั่นแบบนี้เต็มไวมาก บอกเลย
ขอบคุณภาพสวยๆจาก www.facebook.com/KOIWAI.makiba