เที่ยวเมืองฮาดง ที่เที่ยวใหม่สไตล์สโลว์ไลฟ์ซ่อนอยู่ตอนใต้ของประเทศเกาหลี!
ถ้าหากการ เที่ยวเกาหลี ของคุณที่ผ่านมามันไม่ค่อยแตกต่างกันสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ไปช้อปปิ้ง ใส่ชุดฮันบกถ่ายรูป เดินชมความเจริญของกรุงโซล นั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เก๋ๆ เชื่อว่าหลายคนอาจเคยทำมาหมดแล้วแหละ วันนี้มัชรูมทราเวลจะพาไปเที่ยวเกาหลีในอีกอารมณ์นึงค่ะ ใครเป็นพวกอยากหลีกหนีความวุ่นวาย ชอบธรรมชาติ อยากตามหาความสงบเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจ ลองไปเที่ยวที่ เมืองฮาดง จังหวัดยองซางนามโด ทางตอนใต้ของเกาหลีกันมั้ยคะ? ขอบอกว่าถ้าได้มา เที่ยวเมืองฮาดง คุณจะเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในซีรีส์เกาหลีย้อนยุค ได้ไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ เหมือนอยู่คนละโลกกับกรุงโซลในปัจจุบันเลยล่ะค่ะ
เมืองฮาดง เต็มไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความงดงามและความสมบูรณ์ของวัฒณธรรมของชาวเกาหลีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี นี่คือเสน่ห์ของเมืองนี้เลยล่ะค่ะ ยิ่งใครได้ไป เที่ยวเมืองฮาดง ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศยิ่งสวยงาม ดีงามไปอี๊กกกก สถานที่ที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากลองมา เที่ยวเมืองฮาดง ที่แรกคือ
1.ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ “ซัมซองกุง” Samseonggung Palace
ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่โบราณ อารมณ์วัดโบราณหรือสถานที่ไว้ทำพิธีต่างๆ เกี่ยวกับความเชื่อ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ยังคงความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยหลายพันปีที่แล้วของคนเกาหลีไว้ดีมาก และคนเกาหลีเองก็บอกเราว่า ที่นี่คือต้นกำเนิดของชนชาติเกาหลี และ จิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่เลยทีเดียว แค่เดินเข้าไปในวัดก็รู้สึกได้ถึงความขลังเลยนะจ๊ะ เพราะจะมีรูปปั้นของทวยเทพที่ชาวเกาหลีนับถือ อันนี้เราไม่แน่ใจว่าใช่มั้ยแต่เราคิดว่าคงจะอารมณ์เหมือนพญานาคที่คนไทยบางคนนับถืออะไรประมาณนั้น ซึ่งคนเกาหลีในเมืองหลวงหรือเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบันแทบจะไม่มีความเชื่อเรื่องพวกนี้แล้ว เราจึงคิดว่าที่นี่น่าสนใจมากๆ รวมทั้งพวกศิลปะคือเค้ายังคงสภาพความสมบูรณ์แบบของพวกจิตรกรรมฝาผนัง หิน รูปปั้นต่างๆ ไว้ดีเลย การก่อสร้างต่างๆ ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยมือ เช่น การก่อหินขึ้นทีละก้อนจนเป็นกำแพง บอกเลยว่าเจ๋งมาก ระหว่างทางที่เราเดินก็จะได้พบกับวิวธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ใหญ่ ลำธารและน้ำตกเล็กๆ อยู่ด้วย ยิ่งถ้าใครได้ไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะยิ่งสวยขึ้นมาก
ข้อแนะนำ
1. ควรเตรียมรองเท้าที่แข็งแรง เช่น ผ้าใบ รองเท้ากีฬาจะดีมาก ห้ามรองเท้าแตะ ยิ่งส้นสูงตัดทิ้งไปเลยจ้า
เพราะทางเดินเหมือนเราเดินขึ้นเขาเล็กๆ ใช้เวลาเดินไม่รวมถ่ายรูปเน่าจะเกิน 30 นาที แน่ๆ
2. ควรไปเวลาเย็นๆ แบบไม่เกิน 5 โมงเย็น เพราะถ้าไปเย็นมากๆ พอเริ่มเดินต้นทางกว่าจะถึงปลายทางก็จะมืด และที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะจ๊ะ
3. สำหรับการเที่ยวที่นี่แบบไม่เหนื่อยมาก เราคิดว่าต้องใช้เวลาสัก 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป เพราะสถานที่ค่อนข้างใหญ่และมีที่ให้ถ่ายรูปเยอะ ควรจัดเวลาให้ดีก่อนมาค่ะ
2. วัดโบราณ “ ซังเกซา ” Sanggyesa Temple
เที่ยวเมืองฮาดง ที่ต่อมาคือ วัดโบราณซังเกซา ที่นี่มีอายุกว่า 1,200 ปี เป็นวัดที่ยังคงพลังของความงดงาม ความเงียบสงบ และสีสันของป่าธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติที่แรกของเกาหลี “ภูเขาจีรีซาน” ไว้อย่างดี ที่นี่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลล่า และที่วัดซังเกซาเค้ามีที่พักสำหรับคนที่อยากจะมาพักผ่อนกายและใจ เป็นการเปิดประสบการณ์การพักผ่อนแบบ Mini Temple Stay ค่ะ บางคนอาจจะคิดว่าเหมือนนอนวัดแบบบ้านเรา แต่ไม่ใช่เลยค่ะ ที่นี่เค้าเตรียมที่พักไว้ดีในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับนอนสบายแบบโรงแรมนะ เป็นการพักค้างคืนในบ้านแบบชาวเกาหลีตั้งเดิม รับรองว่าปลอดภัย พักสบาย และสะอาดมากๆ ค่ะ
ข้อแนะนำ
เนื่องจากเป็นวัดโบราณและมีพระอาศัยอยู่จริง รวมถึงมีชาวบ้านมาสักการะไหว้พระตามปกติ เลยค่อนข้างมีกฎระเบียบหลายอย่าง อยากให้ทุกคนทำตามอย่างเคร่งครัดค่ะ
3.เรียนชงชาเขียวป่าฮาดง กับ อาจารย์ระดับมาสเตอร์พีช (ใส่ชุดฮันบก)
เป็นการเรียนชงชาเขียว ซึ่งเป็นชาเขียวที่มาจากป่าของเมืองฮาดงค่ะ โดยจะมีอาจารย์ระดับมาสเตอร์พีชมาสอนอย่างใกล้ชิด ความพิเศษอยู่ตรงที่ได้ใส่ชุดฮันบกเหมือนคนเกาหลีด้วย เข้ากันสุดๆ และแอบบอกว่า ชุดฮันบกที่นี่ สวยและใหม่กว่าที่โซลอีกนะ 555
4. บ้านเชแชมเปญและสวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์วรรณกรรม
House of Choe Champan ตามรอยมหากาพย์นิยายดัง “ Toji “บนจุดชมวิวเมืองฮาดง
จริงๆ แล้วเมืองฮาดงยังมีที่เที่ยวเยอะกว่านี้มากค่ะ ในอนาคตเค้าจะเปิดเป็น ธีมปาร์คต่างๆ จะมีกิจกรรมท่องเที่ยวสนุกๆ เยอะแยะ ถ้าใครเบื่อการเที่ยวเกาหลีแบบเดิมๆ อยากหาโลเคชั่นใหม่ๆ และเป็นธรรมชาติ แนะนำให้มา เที่ยวฮาดง เลยค่ะ รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจแน่ๆ
ส่วนใครที่สนใจอยากจะมาเที่ยวกับเรา Mushroom Travel ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปนะคะ สำหรับโปรแกรม ทัวร์เกาหลี เที่ยวเมืองฮาดง รับรองว่าเราจะจัดโปรแกรมดีๆ มาฝากทุกคนแน่นอน ส่วนตอนนี้ใครสนใจอยากเที่ยวเกาหลีในเมืองอื่นๆ ก็สามารถคลิกเข้าไปดูโปรแกรมที่มีให้เลือกมากมายได้ที่ ทัวร์เกาหลี เลยค่ะ