Mushroom Travel

7 พิกัด ดูไฟ สิงคโปร์ 2024 และโชว์สุดอลัง ชมฟรี !!

ดูไฟ สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ ใกล้เมืองไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่เยอะมากๆ บ้านเมืองก็เจริญหูเจริญตาด้วยตึกสูงและแลนด์มาร์คสุดฮิตที่ต้องไปเช็คอิน ต่อด้วยการช้อปปิ้งและชิมของอร่อย แถมตอนกลางคืนก็ยังเที่ยวต่อได้ เพราะมีที่เที่ยวที่เปิดไฟสวยๆ เล่นแสงสีเสียงให้ชมแบบฟรีๆ ใครอยากเที่ยวต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจนจรดค่ำ บทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล รวบรวม 7 พิกัดที่เที่ยว ดูไฟ สิงคโปร์ พร้อมโชว์สุดอลัง ชมได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าเข้า จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามเรามาเลยค่ะ…!!


1. SPECTRA – A LIGHT & WATER SHOW – Marina Bay Sands

Credit : Netfalls / canva.com

ทัวร์สิงคโปร์ ตอนกลางวันกันแล้ว มาชมแสงสีสวยๆ ตอนกลางคืนกันบ้าง ในทุกๆ คืนที่บริเวณ มารีนาเบย์แซนส์ (Marina Bay Sands) จะมีโชว์แสงสีเสียงและน้ำพุสุดยิ่งใหญ่ให้ชมกันแบบฟรีๆ กับการแสดงที่มีชื่อว่า Spectra – A Light & Water Show ไฮไลท์ของโชว์นี้ก็คือการโชว์แสงไฟเลเซอร์ที่ส่องจากตัวตึกมารีนาเบย์แซนส์ พร้อมด้วยโชว์น้ำพุประกอบไฟและเสียงเพลง มีการฉายภาพที่เกี่ยวกับคนสิงคโปร์ผ่านม่านละอองน้ำ นับว่าเป็นการแสดงแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Credit : Netfalls / canva.com

และเนื่องจากการแสดงนี้อยู่ที่บริเวณริมอ่าวมารีนาเบย์ ทำให้สามารถมองเห็นได้จากหลายจุด อีกทั้งในหนึ่งคืนก็มีการแสดงหลายรอบ พี่เห็ดแนะนำให้เริ่มชมการแสดงที่บริเวณตึก Marina Bay Sands ก่อน จะมีโซนที่นั่งอยู่ด้านข้างของตึก Louis Vuitton จุดนี้จะได้ชมโชว์แบบครบถ้วน เมื่อชมโชว์รอบแรกจบก็เดินอ้อมอ่าวมารีนาเบย์ไปยังฝั่งตรงข้ามที่บริเวณ Merlion Park ด้านหน้าโรงแรม One Fullerton เพื่อชมโชว์รอบต่อไป รอบนี้ก็จะได้ชมแสงเลเซอร์ที่ยิงออกมาจากตัวตึก Marina Bay Sands ได้ชมโชว์ ดูไฟ สิงคโปร์ ครบทั้งสองแบบเลยค่ะ

เวลาแสดง : วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 20.00 น. และ 21.00 น. / วันศุกร์-เสาร์ เวลา 20.00น., 21.00 น. และ 22.00 น.
การเดินทาง :
– ฝั่งตึก Marina Bay Sands รถไฟฟ้า MRT สถานี Bayfront
– ฝั่ง Merlion Park รถไฟฟ้า MRT สถานี Raffles Place เดินตามป้ายมายัง One Fullerton จากนั้นข้ามถนนมายัง Merlion Park
แผนที่ : https://goo.gl/maps/MjiuVM8n3KmqR7vF7


2. Garden Rhapsody – Gardens by the Bay

Credit : pixabay.com

พิกัด ดูไฟ สิงคโปร์ ที่ต่อมาอยู่ที่ Gardens by the Bay ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ อยู่ไม่ไกลจาก Marina Bay Sands สวนแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสิงคโปร์อีกแห่งหนึ่ง ภายในสวนมีความโดดเด่นหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม พันธุ์ไม้หลากหลายชนิดจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการทำโดมปรับอากาศเรือนกระจกรูปทรงเปลือกหอยที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 2 โดม แถมยังมีกลุ่มต้นไม้ยักษ์ Supertree Grove จำนวน 18 ต้น เป็นรูปแบบของสวนแนวตั้งที่มีความสูงถึง 25-50 เมตร หรือประมาณตึก 16 ชั้น มองเห็นได้จากระยะไกล และที่ด้านบนมีการติด Solar cell เพื่อใช้เก็บเป็นพลังงานส่องสว่างในเวลากลางคืน

Credit : pixabay.com

ตอนกลางวันว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนยิ่งสวยกว่า เพราะที่บริเวณ Supertree จะเปิดไฟส่องสว่างกลายเป็นป่ายามค่ำคืน และมีโชว์ที่ชื่อว่า Garden Rhapsody หรือการแสดงแสงสีของกลุ่มต้นไม้ยักษ์ ประกอบเสียงเพลงสนุกๆ เหมือนกับต้นไม้เต้นระบำได้ สามารถเข้าชมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว ดูไฟ สิงคโปร์ ที่พี่เห็ดแนะนำเลยค่ะ

เวลาแสดง : มี 2 รอบ 19.45 น. และ 20.45 น.
การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานี Bayfront ทางออก B จากนั้นเดินข้ามสะพาน Dragonfly Bridge
แผนที่ : https://goo.gl/maps/F3v66qz5EvvDSrrV9


3. HSBC Rain Vortex Light & Sound Show – Jewel Changi Airport

Credit : jewelchangiairport.com

มาเช็คอินที่เที่ยวแห่งใหม่ในสิงคโปร์อย่าง Jewel Changi Airport เป็นศูนย์การค้าที่อยู่ในพื้นที่ของสนามบินชางงี ที่แค่เปิดตัวก็สร้างความฮือฮาด้วยการยกเอาน้ำตกสุดยิ่งใหญ่มาไว้ในอาคาร เป็นน้ำตกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 40 เมตร นับว่าเป็นไฮไลท์ที่ใครมา ทัวร์สิงคโปร์ ต้องไม่พลาดเลยค่ะ การที่มีน้ำตกและต้นไม้มากมายอยู่ในอาคารแบบนี้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายและทันสมัยมากๆ

นอกจากความอลังการของน้ำตกในร่มแล้ว ในทุกๆ คืน เมื่อแสงอาทิตย์หมดลง ที่น้ำตกก็จะมีการเปิดไฟสวยๆ รวมถึงมีการแสดงแสงสีเสียงให้ชม ซึ่งเป็นการเล่นแสงสีโดยฉายไฟไปที่น้ำตก เวลาการแสดงรอบละประมาณ 5 นาที ถึงจะเป็นโชว์สั้นๆ แต่ก็จัดว่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว เพราะนอกจากแสงสีแล้วยังมีการพ่นควันดรายไอซ์ออกมาด้วยนะ

เวลาแสดง : วันจันทร์ – พฤหัสบดี 20.00 น. และ 21.00 น. / วันศุกร์ – อาทิตย์ 20.00 น., 21.00 น. และ 22.00 น.
การเดินทาง : อาคาร Jewel Changi Airport เชื่อมต่อกับทุกเทอมินอลของสนามบิน ทั้งอาคาร T1, T2, T3 และ T4
แผนที่ : https://goo.gl/maps/fxAc5qx5qS7AmbNc7


4. Fountain of Wealth Laser Show – Suntec City

Credit : pixabay.com

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่หลายคนอยากมาชม กับ น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง หรือ Fountain of Wealth น้ำพุขนาดใหญ่มหึมาที่ตั้งอยู่ในกลุ่มอาคารซันเทคซิตี้ (Suntec city) เป็นน้ำพุสุดยิ่งใหญ่ที่ได้รับการบันทึกใน Guinness World Records เมื่อปี 1998 ว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 13.8 เมตร สำหรับพื้นที่กลุ่มอาคารนี้ได้สร้างตามหลักฮวงจุ้ย ตึกสูงที่อยู่รอบๆ เหมือนเป็นนิ้วมือทั้งห้า และส่วนน้ำพุอยู่ที่บริเวณฝ่ามือ ทำให้บริเวณนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมพลังงานด้านบวก จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรที่น้ำพุให้มีความมั่งคั่งรุ่งเรือง

นอกจากความยิ่งใหญ่ของน้ำพุแล้ว ในทุกๆ คืน ที่น้ำพุก็จะมีการแสดง Fountain of Wealth Laser Show เป็นการแสดงเลเซอร์ประกอบเสียงเพลง ยิ่งทำให้บริเวณนี้ยิ่งดูสวยงามขึ้นไปอีก ใครชอบดูโชว์และชอบถ่ายรูป ถ้ามา ทัวร์สิงคโปร์ ก็อย่าลืมมาเดินเล่นกันนะคะ

เวลาแสดง : 20.00 น., 20.30 น. และ 21.00 น.
การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานี Promenade ทางออก C หรือ MRT สถานี Esplanade ทางออก A
แผนที่ : https://goo.gl/maps/5YYac8RLPqLAYT3HA


5. สะพานเฮลิกซ์ (Helix Bridge) – Marina Bay

Credit : pixabay.com

ในย่านมารีนาเบย์ยังมีอีกหนึ่งพิกัด ดูไฟ สิงคโปร์ ไปถ่ายรูปชิคๆ กันได้ที่ สะพานเฮลิกซ์ เป็นสะพานคนเดินที่เชื่อมต่อจากมารีน่าเซ็นเตอร์ (Marina Center) กับมารีน่าเซ้าธ์ (Marina South) มีจุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างของสะพาน ที่มีลักษณะเป็นเกลียวสแตนเลสบิดโค้งไปตามทาง ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากลักษณะของ DNA ดูมีเอกลักษณ์ แถมในตอนกลางคืนยังเปิดไฟเป็นสีสันสวยๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่ามาเดินเล่นถ่ายรูปในตอนกลางคืนมากๆ

Credit : pixabay.com

การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานี Promenade
แผนที่ : https://goo.gl/maps/ygvJzMSALcQQNQqn6


6. ย่านคลากคีย์ (Clarke Quay)

Credit : Chris Putnam / canva.com

ถ้าพูดถึงแหล่งเที่ยวกลางคืนในสิงคโปร์ก็ต้องนึกถึง ย่านคลากคีย์ ย่านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ ในอดีตเคยเป็นท่าเรือเก่าสำหรับเทียบท่าเรือขนส่งสินค้า ส่วนในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและผับบาร์มากมาย ถ้ามาเที่ยวในตอนกลางวันก็จะได้เห็นตึกแถวหลากสีสัน ส่วนในตอนกลางคืนบรรดาร้านต่างๆ ก็จะเปิดไฟสลับสี ทำให้ย่านนี้ดูมีชีวิตชีวาและคึกคักเป็นพิเศษ ใครอยากมาดูไฟแนะนำให้ยืนชมจากฝั่งห้าง Clarke Quay Central หรือถ้าอยากหาร้านนั่งชิลตอนกลางคืน ก็ข้ามสะพานไปที่ฝั่งคลากคีย์ได้เลย

การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานี Clarke Quay
แผนที่ : https://goo.gl/maps/YSLZYzM7KdHVMjJo7


7. ถนนเซรางกูน (Serangoon Road) – ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

Credit : aluxum / canva.com

ปิดท้ายไปชมไฟสวยๆ ใน ย่านลิตเติ้ลอินเดีย ซึ่งทุกๆ ปี เมื่อถึงช่วงเวลาของ เทศกาลดีปาวลี (Deepavali Festival) ตลอดถนนเซรางกูน (Serangoon Road) จะมีการประดับไฟหลากสีสัน ทำให้ย่านนี้สว่างไสวสวยงาม ซึ่งเทศกาลดีปาวลีเป็นเทศกาลแห่งแสงสว่าง เป็นงานเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรมที่สำคัญของคนฮินดูในสิงคโปร์ จะจัดขึ้นช่วงประมาณเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ตามปฏิทินจันทรคติ นอกจากการประดับไฟที่ถนนแล้ว ตามบ้านเรือนต่างๆ ของคนฮินดูก็จะตกแต่งด้วยตะเกียงและแสงไฟ มีตลาดนัดและร้านค้ามากมาย มาถ่ายรูปซุ้มไฟสวยๆ ที่ถนนเซรางกูนกันได้ค่ะ

การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานี Little India
แผนที่ : https://goo.gl/maps/4bSEka9nE7qsD12v5

เห็นแบบนี้ในสิงคโปร์ก็มีพิกัดดูไฟและดูโชว์สวยๆ ยามค่ำคืนหลายแห่งเลยนะคะ เป็นประเทศจิ๋วแต่แจ๋วที่เที่ยวได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ใครจะมา ทัวร์สิงคโปร์ ต้องไม่พลาด เพราะนอกจากจะสวยงามน่าประทับใจ แต่ละที่ก็ยังเดินทางสะดวกอีกด้วย รับรองว่ามีรูปติดไม้ติดมือกลับมาลงโซเชียลได้เพียบแน่นอน


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์สิงคโปร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

7 พิกัด ดูไฟ สิงคโปร์ 2024 และโชว์สุดอลัง ชมฟรี !! was last modified: December 26th, 2023 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version