@MushroomTravel
กลับมาอีกครั้งสำหรับเรื่องเล่าดีๆ จากนักเดินทาง โดย Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้เป็น… คุณแม่ลูกสอง ที่เธอได้มาเล่าเรื่องราวของตัวเองระหว่างการเรียนอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เที่ยว และทำงาน กระทั่งจนตอนนี้เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างถาวรแล้ว ซึ่งภายในรีวิวนอกจากจะมีคำแนะนำเด็ดๆ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวนิวซ๊แลนด์แล้ว เธอยังมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้เราฟังอีกด้วยค่ะ
นิวซีแลนด์ ..ลุยเดี่ยว เรียน เที่ยว ทำงาน ตอนที่ 6 รักแท้แพ้ค่าโทรศัพท์
ถามว่าทําไมไม่ Skype หรือว่า line คุยกันล่ะคะ ??? เอ่อ….คือว่าสมัยตอนเราไปเรียนเนี่ย การติดต่อสื่อสารยังไม่ดีเท่าสมัยนี้ เรียกว่าโบราณก็ได้อ่ะ วิธีการติดต่อที่ดีที่สุดก็คือโทรศัพท์ แล้วค่าโทรศัพท์ก็ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น…การที่คุณตัดสินใจจากคนรักของคุณมาเรียนต่อนั้นนับเป็นความกล้าหาญอย่างมากมาย แต่ก็นับว่าเป็นการลองใจที่ดีด้วย ถ้าคู่ของคุณผ่านด่านนี้ได้ ก็นับว่าเป็นเจ๋งมาก มีหลายคู่มั่นคงในความรัก แต่ก็มีอีกหลายๆ คู่ที่ล้มเหลว เพราะว่าสู้ระยะทางและค่าโทรศัพท์ไม่ไหว เช่น
มินจัง สาวมั่นจากเกาหลีที่มุ่งมั่นในความรักกับแฟนหนุ่มชาติเดียวกัน คบมาหลายปี อยู่ๆ สาวเจ้าก็ตัดสินใจมาเรียนต่อ แรกๆ ก็เห็นบ่นตลอดว่า I miss my boyfriend ..I really miss him คิดถึงแฟน คิดถึงมาก คิดถึงที่ซู๊ด เปิดรูปในกระเป๋าดูวันนึงไม่รู้กี่รูอบ
ตัวเองดูไม่พอยังมาให้เราดู ถามเราว่า “หล่อไหม หล่อเนอะ “… ไม่เว้นจังหวะให้กรูตอบเลย
นางว่างไม่ได้เป็นต้องโทรศัพท์ทุกครั้ง แล้วคุยครั้งนึงไม่ใช่แป๊บเดียวนะ ชั่วโมงกว่าทุกครั้ง จากที่นั่งคุยบนโต๊ะอยู่ดีๆ ก็เริ่มลงมานั่งกับพื้น ม้วนไปม้วนมา คริคริ เอิ๊กๆ พอหันไปดูอีกที นางลงไปนอนคุยซะแล้ว
คุยไปเขินไป มือก็ม้วนสายโทรศัพท์ไปด้วย กว่าจะคุยเสร็จสายโทรศัพท์ก็ม้วนเป็นกระจุก เดือดร้อนชั้นต้องไปตามแกะ เป็นแบบนี้อยู่ประมาณสองเดือน จากที่โทรทุกวันก็ค่อยๆ ลดลง เหลืออาทิตย์ละครั้ง เห็นบ่นว่าค่าโทรศัพท์แพง ทางนู้นก็ไม่โทรมา ทางนี้ก็ไม่โทรไป ในที่สุดก็แทบจะโทรหากันเดือนละครั้ง ทะเลาะกันเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก เมื่อความห่างเหินเข้ามาเยือน ความสัมพันธ์ใหม่ๆ ก็เข้ามาแทนที่ มินจังได้พบรักกับหนุ่มญี่ปุ่นหน้าตาดีอย่างแรง เราก็สงสัยว่าเอ๊ะ ทําไมสองคนนี้ถึงไปไหนมาไหนด้วยกันวะ พอถามนาง นางก็บอกว่า ไม่มีอะไร๊ nothing !!! อยากจะบอกว่า หราาาาา ชั้นดูออกนะเฟ้ย จากหน้าที่บึ้งตึง ร้องไห้ ชีวิตรักแสนเศร้า นางก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งยิ้มใจลอยทั้งวัน นางลั๊ลลามากอ่ะ บอกเลย เฮ้อ !!! หัวใจคนเรานี่มันก็เปลี่ยนง่ายเหมือนกันเนอะ
อีกตัวอย่างหนึ่ง หนุ่มเกาหลีพบรักกับสาวไทยระหว่างเรียนภาษา รักกันม๊ากมาก ตอนแรกสาวเจ้าก็อยู่โฮมสเตย์ รักกันไปรักกันมาก็หอบข้าวหอบของไปอยู่บ้านหนุ่ม ตามความคาดหมายของใครหลายๆ คน คู่รักคู่นี้สวีทกันมากๆ เป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป หนุ่มเกาหลีผู้มุ่งมั่นในความรักบอกว่า จะหาโอกาสมาเมืองไทยเพื่อขอสาวเจ้าแต่งงาน สุดยอดจริงๆๆ
พอถึงเวลาที่สาวเจ้าจะต้องกลับไทย หนุ่มเกาหลีก็ hurtสุดๆ ข้าวปลาไม่ยอมกิน นอนกอดตุ๊กตาที่สาวซื้อให้ ร้องห่มร้องไห้ จนคนรอบข้างแทบจะร้องไห้ตามเพราะความสงสาร แต่ก็ไม่รู้ว่าสาวไทยนั้นจะยังคิดถึงหนุ่มเกาหลีอยู่หรือป่าว หนุ่มของเราก็ยังคงมุ่งมั่นโทรไปหาสาวเจ้าแทบทุกวัน ยอมสู้ค่าโทรศัพท์ แต่บางทีก็สู้ไม่ไหว
หลังๆ ก็เลยเปลี่ยนเป็นนานๆ โทรทีนึง จากทีคุยกันครั้งละนานเหมือนเมื่อก่อน สาวเจ้าก็เริ่มไม่ว่างที่จะคุยแล้ว บอกว่าเรียนหนักอย่างนั้นอย่างนี้ แต่มีสายสืบ CNN ที่ไทยบอกว่าสาวเจ้านั้นมีแฟนใหม่ซะแล้ว หนุ่มเกาหลีได้ฟังก็รีบโทรไป สาวก็บอกว่าไม่ต้องโทรมาแล้ว
โอ๊ย มันปวดหัวใจ ทีนี้พ่อคุณก็กินเหล้าแทนกินข้าวมันซะเลย hurt อยู่นานเลยกว่าจะดีขึ้น เวลาผ่านไปหลายปีตอนนี้หนุ่มเกาหลีคนนี้ได้แต่งงานกับสาวเกาหลี สร้างครอบครัวน้อยๆ ที่อบอุ่น มีความสุขมากๆ นะเพื่อน
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายๆ คู่ที่ต้องลงเอยความรักด้วยความเศร้า แต่ก็ไม่ทุกคู่นะ คู่ที่มีรักแท้ก็มี ไม่ว่าจะห่างกันแค่ไหนก็ยังมั่นคงต่อกันอยู่ มีคำศัพท์คำนึงเหมาะกับเรื่องแบบนี้มาก
Out of sight.. Out of mind (นอกสายตา..นอกหัวใจ) ไกลกันเมื่อไหร่ก็เตรียมใจไว้บ้าง
แต่ก็อย่าลืมนะว่าเราไปเรียน กอบโกยความรู้มาให้ได้มากที่สุด ให้คุ้มกับความตั้งใจ และเงินที่เสียไป ที่สำคัญคิดถึงพ่อแม่ให้มากๆ นะ
นิวซีแลนด์ ..ลุยเดี่ยว เรียน เที่ยว ทำงาน ตอนที่ 7 สองศรีพี่น้อง
ที่ปลานำมาเล่าสู่กันฟังนี่ไม่ได้ตัดสินนะคะว่าสิ่งที่พวกนางทำนั้นผิดหรือถูก แค่เอามาเล่าให้สู่กันฟังเฉยๆ
สมมุติว่าชื่อเอ กับบีก็แล้วกัน เอ กับ บี พี่น้องคนละแม่หน้าตาดีทั้งคู่ ที่บ้านมีกิจการส่วนตัวอยู่ที่นี่ สองคนนี้จีงอยู่เมืองนอกมานาน ความมั่นใจ และพฤติกรรมจึงเกินเลยสาวไทยไปมาก ตอนที่ไปนิวซีแลนด์ใหม่ๆ ก็เคยเจอพวกนางบ้างแบบผ่านๆ รู้สึกว่าสองคนนี้มั่นใจในตัวเองมาก …มากไปไหมอ่ะ
เอเรียนอยู่ห้อง IELTS ตอนปลาเข้าไปโรงเรียนแรกในห้องกินข้าวก็จะมีทีวีอยู่เครื่องนึง สงสัยเอาไว้ดูนู่นนี่เวลากินข้าว แต่ที่เห็นในทีวีบ่อยมากกว่ารายการในทีวี ก็คือเจ๊เอนี่แหละ นางพูดภาษาอังกฤษแนะนําตัวแล้วก็แสดงความคิดเห็นอย่างงั้นอย่างี้ โดยมีนางยืนยิ้มอย่างภูมิใจข้างๆ ทีวี ชายตาไปมา ประมาณว่าพร้อมรับคําชม ชมกรูสิคะ เร็วเร๊ว
ตอนแรกเพื่อนๆ ก็ดูนะ แล้วก็ชื่นชมว่าเอเก่งเนอะ แต่พอมันบ่อยเข้าก็เริ่มจะมองหน้ากัน นี่กรูต้องดูอีกแล้วเหรอเนี่ย สําเนียงกรูจะเหมือนมันอยู่แล้ว อยากดูคนอื่นบ้างไรบ้าง
ส่วนบีเรียน high school อายุน่าจะซัก 15-16 ภาษาอังกฤษนางเป๊ะ เวลาพูดนี่เยอะกว่าฝรั่งอีก แต่บีก็จะมาวนเวียนอยู่ในโรงเรียนภาษาอยู่เสมอ เพราะว่านางแอบชอบผู้ชายอยู่คนนึง ตอนนั้นรู้สึกว่าจะเป็นหนุ่มจีนหน้าหล่อ
เวลาบีมาเสียงแหลมๆ จะนำมาก่อนเลย “ พี่ขาาาา สวัสดีค่ะ วันนี้ไปบี ไปเที่ยวมาสนุกมากเลยค่ะ ได้เจอฝรั่งคนนึงน่ารักม๊ากกมาก ผมสีทอง ตาสีนํ้าตาลอ่อน หุ่นก็ดี๊ดี แต่บีก็ไม่สนหรอก ค่ะ เพราะไม่ใช่สเปค ” แล้วจะเล่าเพื่อ?? แล้วนางก็พูดอะไรอีกก็ไม่รู้ยาวมาก งั้นงู้นงี้ เราพยักหน้าไปแบบงง งง ไม่คิดจะหยุดหายใจซักสองวิ ให้กรูได้ตอบบ้างเหรอคะ
ยังไม่ทันได้สวัสดีตอบด้วยซ้ำ ปากนางก็คุยกับเรา แต่สายตานางก็มองหาเป้าหมาย เจอแล้ว!!! นางก็จะพุ่งไปหาเป้าหมายทันที แล้วก็ใส่อีกชุดใหญ่ อยากจะให้เห็นหน้าหนุ่มจีนตอนนั้นมากๆ ทำหน้าแบบเอ๋อๆ แล้วก็มองคนนู้นที คนนี้ที ประมาณว่าช่วยกรูด้วย ใครก็ได้พากูออกไปจากจากตรงนี้ที
แต่ก็ไม่มีใครสามารถฝ่าวงล้อมเธอไปได้ และถึงแม้ว่าน้องบีเธอจะมาไม่ได้ แต่เธอก็ยังฝากอาหารกลางวันมากับเอทุกวัน เพื่อให้หนุ่มจีนกิน กะว่าจะเอาเสน่ห์ปลายจวักมัดว่างั้นเหอะ หนุ่มจีนมันก็กินสิคะ ของฟรีใครๆ ก็ชอบ
คุณสมบัติอีกอย่างนึงของบีคือ ขี้วีน มีครั้งหนึ่งเคยเจอบีกับแฟนหนุ่มฝรั่งที่ผับ แล้วแฟนหนุ่มทำโทรศัพท์มือถือของเธอหาย เท่านั้นแหละคนทั้งผับก็ได้ยินเสียงเธอวีนแฟนหนุ่ม ดังมากๆๆ อายแทน เรายังตกใจเลยไม่คิดว่าเธอจะกล้า ทุกคนหันมามองเธอและแฟนกันหมด แฟนหนุ่มหน้าหดลงเหลือสองนิ้ว พากันออกไปข้างนอก เธอก็ไม่ยอมหยุด แว๊ด แว๊ด แว๊ด เห็นแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ สงสัยหนุ่มฝรั่งคนนี้จะเข็ดหญิงไทยไปอีกนาน
ในเมื่อน้องก้าวหน้าขนาดนี้ มีหรือที่พี่สาวจะยอมแพ้ เอเก่งมากเรื่องบริหารเสน่ห์ มีหนุ่มเล็ก หนุ่มใหญ่ ทั้งฝรั่ง ทั้งเอเชีย มาติดพัน เคยไปเจอนางที่ผับหลายครั้ง เอจะไม่อยู่นิ่งกับที่ นางจะเดินไปรอบๆ ผับ เต้นไปด้วยนิดๆ ชายตาจิกผู้ชายไปด้วยเพื่อเช็ค rating
เพื่อนเกาหลีเจ๊มินจังคนเดิม นางถามว่า ทําไมเวลาเค้าเต้นทําไมต้องจิกตาไปมาแบบนั้นด้วย ไม่เมื่อยเหรอไง ว่าแล้วมินจังก็เลียนแบบท่าของเอให้ดู ก๊อบซะเหมือนเลย ฮ่าๆๆ
และก็ไม่แปลกที่บางครั้งสองคนนี้จะเล็งเป้าหมายเดียวกัน แย่งกันทําคะแนน ทำให้เกิดความหมั่นไส้กันเอง แล้วพี่ก็เอาน้องมาเม้าท์ น้องก็เอาพี่มาเม้าท์ จนพวกเราเซ็งไปตามๆ กัน และสุดท้ายก็กลายเป็นพวกเราเม้าท์สองคนนี้…
ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวกันค่า ช่วงนี้หน้าหนาวแล้ว เอารูปของปีก่อนมาฝากค่า ปีนี้หิมะยังไม่มาเลย
และสุดท้ายควาใฝ่ฝันที่อยากลองมานาน หิมะนํ้าแข็งใส
ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
เครดิต: www.facebook.com/plaifahgallery