@MushroomTravel
Love Hotel ในโตเกียว เตรีมเปลี่ยนโฉมรับโอลิมปิก 2020
อย่างที่หลายคนทราบดีว่า ที่ดินในประเทศญี่ปุ่นนั้นสุดแสนจะแพง เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะที่มีพื้นที่จำกัด แต่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น จนทำให้การเป็นเจ้าของที่ดินนั้นยากแสนยาก คนมีเงินเท่านั้นถึงจะมีบ้าน และถ้าตัดสินใจซื้อบ้านพร้อมที่ดินล่ะก็ เตรียมเป็นหนี้ก้อนโตไปจนเกษียณได้เลย
สิ่งที่อยากจะนำมาเชื่อมโยงก็คือ ด้วยความที่ที่ดินและที่อยู่อาศัยมีมูลค่ามาก ภาคธุรกิจก็จำเป็นต้องทำให้ที่ดินนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการขยายพื้นที่ในแนวดิ่ง ในญี่ปุ่น เรามักจะเห็นอาคารเล็กๆที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่จอดรถโดยเฉพาะ เห็นเล็กๆเตี้ยๆอย่างนี้ แต่กลับมากลไกนำรถลงไปเก็บไว้ใต้ดินได้หลายชั้น สำหรับบ้านที่มีรถหลายคันหรือ Apartment เราจะสังเกตเห็นโรงจอดรถที่เป็นสายพานอัตโนมัติ หมุนสลับกันได้ ทำให้ที่จอดรถที่ตามปกติจอดได้ 3 คัน จอดได้ถึงแปดคัน เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นยังไงอย่างงั้น
ออกนอกเรื่องไปซะไกล กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า เนื่องจากโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2020 นั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งโอลิมปิกถือเป็นงานกีฬาระดับโลกที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ นอกจากจะเป็นความฝันอันสูงสุดของนักกีฬาอาชีพทุกคนแล้ว โอลิมปิกยังเป็นความฝันอันสูงสุดของประเทศต่างๆ ในการจะได้เป็นเจ้าภาพด้วย
เพราะการได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของประเทศใดประเทศหนึ่งนั้น นำมาซึ่งประโยชน์ต่อประเทศนั้นอย่างมากมายมหาศาล ทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ การจัดงานโอลิมปิกเป็นการกระตุ้นการลงทุน เพิ่มการจ้างงาน สร้างความเชื่อมั่น และเป็นจะดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลก โอลิมปิกจึงเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศเจ้าภาพ และถือเป็นงานประชาสัมพันธ์ประเทศที่ยิ่งใหญ่และได้ผลที่สุด ดังนั้นประเทศที่เป็นเจ้าภาพ นอกจากจะต้องเตรียมจัดงานและพื้นที่ในการแข่งขันกีฬาแล้ว ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าบ้านเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมหาศาลที่กำลังจะมาเยือนญี่ปุ่นพร้อมกับกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ด้วย
ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2020 ญี่ปุ่นได้เตรียมการหลายด้าน ทั้งความพร้อมในด้านภาษา (ที่คนต่างชาติบอกว่าเป็นอุปสรรคที่สุด) ความพร้อมด้านวัฒนธรรม เช่น มีการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวที่มีรอยสักร่วมใช้ออนเซ็นได้ รวมไปถึงความพร้อมในด้าน ”ที่พัก” ที่พักในญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมายหลายแบบ ตั้งแต่เรียวกังแบบญี่ปุ่น โรงแรมสุดหรู โรงแรมสำหรับนักธุรกิจ ไปจนถึงโฮสเทล ส่วนนักท่องเที่ยวธรรมดาอย่างเราๆ เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น เราก็มักจะมองหาโรงแรมและที่พักที่พออยู่ได้ ที่สำคัญคือราคาถูก ซึ่งก็นั่นแหละ ยิ่งถูกเท่าไหร่ ก็แปลว่ายิ่งไกลจากตัวเมืองมากขึ้นเท่านั้น ความห่างไกลจากตัวเมือง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ตามมา ทั้งค่าเดินทาง และค่าอาหารที่แพงขึ้นมากเท่านั้น ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วอาจจะแพงกว่าพักโรงแรมในเมืองซะอีก
โตเกียวโอลิมปิก 2020 นั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มีการคาดการณ์ว่า ในช่วงโอลิมปิกจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนญี่ปุ่นกว่า 40 ล้านคน แต่ห้องพักในญี่ปุ่นยังคงขาดแคลน รัฐบาลจึงทำการรณรงค์ให้ห้องพักค้างคืนแบบLoveHotelหรือโรงแรมสำหรับคู่รัก ให้ทำการรีโนเวทห้องพักและปรับให้เป็นโรงแรมธรรมดา เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้หลากหลายยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบันโรงแรมสำหรับคู่รักในญี่ปุ่นอยู่ภายใต้กฎหมายสถานบันเทิง ที่ห้ามไม่ให้ผู้มีอายุไม่ถึง 18 ปีเข้าใช้บริการ นั่นก็เหมือนการตัดโอกาสการเข้าพักสำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่เดินทางพร้อมเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไปโดยปริยาย แถมในวันธรรมดาปริมาณการเข้าพักของลูกค้าโรงแรมประเภทนี้ ยังอยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งรัฐบาลก็ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการให้บริการที่พักที่ยังสามารถเพิ่มได้อีก (และจากที่เล่าให้ฟังในตอนต้นว่าที่ดินอันแพงมหาโหดของญี่ปุ่น ยังไงก็ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ในส่วนข้อจำกัดอายุของผู้เข้าพัก รัฐบาลญี่ปุ่นก็ทำการผ่อนปรนกฎระเบียบนี้สำหรับโรงแรมที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว
ถ้าพูดถึงโรงแรม Love Hotelอาจจะฟังดูสยิวสักหน่อย บางคนอาจคิดถึงแต่เตียงน้ำ พร้อมโซ่ แส้ กุญแจมือ แต่ขอบอกเลยว่า Love Hotelของญี่ปุ่นนั้นไปไกลกว่านั้นมากแล้ว เพราะโรงแรมประเภทนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่แพ้โรงแรมธรรมดา แต่ราคาไม่แพงเท่าโรงแรมธรรมดา อีกทั้งยังสามารถเลือกพักรายชั่วโมงได้ (Rest program) บางทีมาถึงก็ดึกแล้ว เช้าก็ต้องรีบไปต่อ นอนแค่ 3 ชั่วโมง ก็จ่ายแค่ 3 ชั่วโมง แบบนี้ก็มีด้วย ถือเป็นโรงแรมที่ Flexible สุดๆไปเลย แถมส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้าที่มีผู้คนพลุกพล่าน มีร้านค้าให้ช็อปปิ้ง มีร้านอาหารให้เลือกหลายระดับราคา และยังเดินทางสะดวกสุดๆ ทำให้ Love Hotel เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากสัมผัสประสบการณ์ห้องพักแบบ Love Hotel สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ www.loveinnjapan.comซึ่งเป็นที่รวบรวม Love Hotelในประเทศญี่ปุ่น พร้อมวิดีโอแนะนำการเข้าพักเป็นภาษาอังกฤษ (เพราะ Love Hotel ส่วนใหญ่ใช้ระบบอัตโนมัติ ตั้งแต่การเลือกห้อง เช็คอิน จ่ายเงินและเช็คเอาท์) เริ่มเปิดให้จองผ่านทางเว็บไซต์นี้ได้ในปี 2017 นี่ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ Love Hotel จะขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภทและชาวต่างชาติมากขึ้นจากเว็บไซต์ www.loveinnjapan.com เราขอเลือกตัวอย่าง Love Hotelในโตเกียวมาให้ดูให้ชมกัน ซึ่งLove Hotelที่เราเลือกมาแนะนำในวันนี้มีราคาไม่เกิน 10,000 เยน ซึ่งถ้าเทียบสิ่งอำนวยความสะดวกและทำเลที่ตั้งแล้ว ถือว่าคุ้มแสนคุ้ม
TWO-WAY
Area : Tokyo, Shibuya
Overnight : from 5,800 JPY
Rest : from 3,000 JPY
Hotel Colore
Area : Tokyo, Sumida
Overnight : from 6,800 JPY
Rest : from 4,000 JPY
Designer’s Hotel & Spa PASHA Resort
Area : Tokyo, Shinjuku
Overnight : from 9,800 JPY
Rest : from 5,300 JPY
ขอบคุณข้อมูลจาก : Japantimes