เมื่อยุคแห่งการท่องเที่ยวและโซเชียลมารวมกัน จะเที่ยวแบบธรรมดาก็คงไม่ชิคเท่าไหร่ จะเป็นอย่างไรหากเราจะบอกว่า เรามีเคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับการเที่ยวหรู แต่อยู่ในงบประมาณมาฝากกัน !! ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเที่ยว แต่ยังต้องกระเบียดกระเสียร (ศัพท์แก่มาก!) เงินแบ่งจ่ายในการท่องเที่ยวแต่ละที่แต่ละอย่าง คงเป็นเรื่องที่ไม่สนุกเลย และมันคงจะดีกว่าถ้าได้เที่ยวแบบไฮโซในงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด
1. วางแผนการเดินทาง คือจริงๆ แล้ว ไอ้การวางแผนการเดินทางและการท่องเที่ยวเนี่ย ต่อให้มีงบประมาณล้นเหลือแต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรกเลย จะไปที่ไหน ไปอย่างไร ไปกี่วัน แวะเที่ยวไหนบ้าง เฮ๊ย! จะไปเที่ยวนะเธอ เรื่องพวกนี้จะไม่รู้ไม่ได้ หากเราวางแผนการเดินทางดีๆ จะทำให้เหลือเงินเที่ยวหรูอีกโขเลย
2. เดินทางแบบ business class ด้วยราคา economy ถ้าบังเอิญเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน ต้องเช็คราคาตั๋วให้เป็น มีแอพฯ มากมายให้เลือก หัดเข้าหลายๆ แอพฯ เช็คราคาบ่อยๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบราคาดู เสียเวลาหน่อย แต่เดินทางถูกชัวร์ แถมเลือกดีๆ อาจได้ไฟล์ทที่ประหยัดเวลา หรือได้แวะเปลี่ยนเครื่องและยังมีเวลาให้ check-in ช้อปปิ้งอีกต่างหาก เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เผลอๆ อาจเจอไฟล์ทหรูในราคาเบาๆอีกด้วย
3. จุดหมายปลายทางก็สำคัญไม่แพ้กัน มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ จะไปไหนมาไหนแบบไกลๆ สักที คงต้องรอวันหยุดยาวๆ แถมวันหยุดยาวก็ต้องแย่งกันกินแย่งกันใช้อีก ถ้าอย่างนั้นลองแพลนสถานที่ดีๆ แต่ใกล้ๆ สักที่ การเดินทางไม่ไกลบ้าน เป็นตัวช่วยในการประหยัดค่าเดินทางและระยะเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี หรือลองเลือกเที่ยวแบบช่วงเลี่ยงเทศกาลสักหน่อย ค่าเดินทางและที่พักจะได้ถูกขึ้น ทีนี้เมื่อถึงสถานที่แล้วจะเที่ยวหรูแค่ไหนงบก็เหลือเฟือ
4. การเลือกที่พัก หากการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของคุณ ไม่ได้เป็นแค่การเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ แน่นอนว่าประเด็นเรื่องการนอนค้างอ้างแรมต่างถิ่นย่อมเกิดขึ้น หากจะเลือกพักในที่ดีๆ ราคาคงต้องแพงหน่อย แต่มันก็แลกมาด้วยสะดวกสบายใช่ย่อยเลยใช่ไหมล่ะ? เราขอให้คุณยอมรับเถอะว่าที่พักนั้นเป็นที่ที่เอาไว้นอนและอาบน้ำเท่านั้น ข้อนี้ขอโนคอมเม้นท์กับสถานที่และราคานะ เลือกเอาที่เราชอบและสบายใจเลย แต่ที่ต้องวางแผนไว้ก่อนก็เพื่อที่จะได้รู้ว่างบในการกิน ดื่ม เที่ยวของเราเหลืออีกเท่าไหร่ ส่วนคำแนะนำของเราก็คือให้ลองหลบไปพักที่ไกลเมืองนิด ห่างนักท่องเที่ยวสักหน่อย อาจต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มอีกหน่อย แต่ก็คิดซะว่าได้สัมผัสกับสถานที่ ผู้คน และการเดินทางที่แปลกใหม่ เผลอๆ อาจได้เซลฟี่กับคนท้องถิ่นแบบส่วนตัวด้วยนะ ได้อัพสเตตัสเพิ่มไปอีก ดีป่ะหล่ะ!!
5. เลือกสถานที่เที่ยวในงบประมาณเราเอื้อมถึง หากเที่ยวในประเทศก็ลองเลือกจังหวัดที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมดูบ้าง ประเทศไทยเราสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมีแอบซ่อนอยู่ทุกจังหวัดอยู่แล้ว สถานที่ไหนที่ยังไม่บูม แน่นอนว่าราคาก็ยังไม่อัพเว่อร์ซะจนน้ำตาไหล หรือหากอยากไปต่างประเทศก็เลือกประเทศที่ค่าครองชีพถูกๆ อย่าง เนปาล, เปรู, อินโดนีเซีย, คอสตาริกา, อินเดีย, และตุรกี เป็นต้น นอกจากนี้การเช็คค่าเงินก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ มีทั้งธนาคารและแหล่งแลกเงินอยู่ตามตัวเมืองตั้งมากมายลองไปเดินๆ เช็คดู อีกอย่างค่าเงินผันแปรหมุนเวียนทุกวัน หัดติดตามข่าวเศรษฐกิจซะบ้าง เพราะค่าเงินมีแนวโน้มขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา
6. อดอีกอย่างเพื่อได้อีกอย่าง ต้องยอมรับว่า เมื่องบประมาณในการท่องเที่ยวมีอยู่อย่างจำกัด จะให้กิน เที่ยว พักอย่างหรูทุกอย่างทุกมื้อน่ะมันเป็นไปไม่ได้ หากคุณอยากจะมีดินเนอร์อันหรูหรา คุณก็ควรหาที่พักแบบแถมมื้อเช้า หรือหากคุณอยากชมโรงละครหรือ Opera แบบเก๋ๆ คุณก็ลองเดินเท้า โดยสารรถเมล์มากกว่าการเรียกแท็กซี่ซะบ้าง หรืออยากเช่ารถหรูๆ ไว้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่แพลนไว้ ก็พกขนมขบเคี้ยวระหว่างทางดีกว่าจะแวะจอดร้านอาหารทุกมื้อ แค่ถ่ายรูปรถเท่ๆ กับฉากหลังวิวสวยๆ แค่นี้ก็น่าอิจฉาอย่าบอกใครแล้ว
คนส่วนใหญ่มักใช้ข้ออ้างว่า “ไม่มีเงิน” มาเป็นอุปสรรคสำหรับการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ลองคิดในทางกลับกันหากหลายๆ อย่างผ่านการวางแผนมาบ้างแล้ว คำว่า “เที่ยวแบบหรูๆ” และ “งบประมาณ” มันก็คงมาอยู่รวมกันได้ไม่ยากเลย