@MushroomTravelแบกเป้ กิน -เที่ยวมาเลย์ – สิงคโปร์ กันดีมั้ย…?!
วันนี้ขอเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวแบบแบกเป้ไปประเทศเพื่อนบ้านก่อน โดยมีแผนการคร่าวๆ ดังนี้
กรุงเทพฯ ->บัตเตอร์เวอร์ธ -> กัวลาลัมเปอร์ -> มะละกา -> ยะโฮร์ บารูห์ -> สิงคโปร์
เริ่มแรกขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ขบวนกรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ รถออกเวลา 14:45 น. วิ่งไปตามเส้นทางลงใต้จนถึงสถานีปาดังเบซาร์ ซึ่งต้องลงไปต่อคิวเข้าแถวผ่านด่าน ต.ม. เข้าประเทศมาเลเซีย จากนั้นจึงกลับไปขึ้นรถไฟขบวนเดิมเพื่อเดินทางต่อไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธที่มาเลเซีย เวลาประมาณ บ่าย 2 กว่า จากนั้นจึงข้ามฝั่งไปเที่ยวเกาะปีนังเดินดู street art ที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ และขึ้นรถทัวร์ไปกัวลาลัมเปอร์ออกจากสถานีขนส่ง ตอนเที่ยงคืน ถึงกัวลาลัมเปอร์ประมาณตี 5 กว่า เมื่อถึงที่พัก เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจึงออกไปเที่ยวที่ต่างๆ ยึดตามเส้นรถไฟฟ้าเป็นหลัก ที่เที่ยวที่แรกที่ห้ามพลาด คือ มัสยิดจาเมก ตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกันพอดี ซึ่งถือว่าเป็นจุดกำเนิดของนครกัวลาลัมเปอร์กันเลยทีเดียว สถานที่ต่อไปคือ ตึกแฝดปิโตรนาส ซึ่งเป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก ผู้ออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมศาสนาอิสลาม และมาต่อกันที่ KL Tower ที่เป็นหอคอยที่สูงติด 1 ใน 10 อันดับหอคอยที่สูงที่สุด ส่วนเรื่องอาหารการกินแนะนำให้ไปแถว China town จะมีศูนย์อาหารชื่อ Food Paradise ราคาไม่แพงและอาหารอร่อย หรือไปชิมอาหารริมถนนในย่าน Pudu ก็รสชาติดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว ส่วนของหวานขอแนะนำ Kaya Toast และ Teh Tarik เป็นของที่ถ้ามาถึงที่นี่ ต้องลองกินให้ได้
มะละกา
ต่อมาการเดินทางไปเมืองมะละกาเริ่มจากไปที่ KL Sentral แล้วเลือกซื้อตั๋วของ KTM Komuter ลงที่สถานี Bandar Tasik Selatan และต่อรถบัสไปยังเมืองมะละกา ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง มะละกานั้นได้จัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นมรดกโลก เพราะมะละกาเป็นเมืองที่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันแบบไม่ซ้ำใคร สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ของมะละกา คือ Christ Church Melaka หรือโบสถ์คริสต์ของมะละกา บริเวณด้านหน้ามีน้ำพุที่ทำมาจากหินอ่อนอยู่ด้วย สถานที่ต่อไปคือ Maritime Museum หรือพิพิธภัณฑ์เรือสำเภา มีการจำลองเรือสำเภาของชาวโปรตุเกสในสมัยที่มะละกาเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสนั้น และที่สุดท้ายคือ Sultanate Palace หรือพิพิธภัณฑ์พระราชวังสุลต่าน อาหารที่แนะนำคือ ข้าวมันไก่ Famosa chicken rice ball ที่มีการนำเอาข้าวไปทำให้เป็นก้อนและเสิร์ฟพร้อมกับไก่ และขนมหวานร้าน Jonker Dessert 88 เป็นขนมที่คล้ายกับน้ำแข็งไสแต่จะมีการใส่ลอดช่องแล้วตามด้วยน้ำแข็ง น้ำกะทิ แล้วราดด้วยน้ำเชื่อม
ยะโฮร์ บาห์รู
จากเมืองมะลาเดินทางไปเมือง Johor Baru หรือที่เราเรียกกันว่า ยะโฮร์ บาห์รู โดยรสบัสจาก Melaka Sentral ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึง เมืองยะโฮร์ บาห์รู เป็นเมืองเอกของรัฐยะโฮร์ ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมลายู สถานที่เที่ยวที่สำคัญและเป็นหนึ่งในจุดหมายนี้ก็คือ LEGO land นี่เอง LEGO Land อยู่ห่างจากตัวเมืองยะโฮร์ บาห์รูออกมา มีรถออกจากในเมืองทุกชั่วโมง ด้านในจะเป็นการจำลองสถานที่สำคัญๆ โดยใช้เลโก้มาต่อ เช่น ตึกแฝด มาเลเซีย พระราชวังต้องห้าม ที่ปักกิ่ง นครวัด กัมพูชา ทัชมาฮาล และวัดอรุณ ประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่เป็นเครื่องเล่นที่ทำให้วัสดุมีลักษณะเป็นเหมือนกับวัสดุเลโก้อีกด้วย การเดินเที่ยวในบริเวณทั้งหมดจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างมาก ถ้าใครต้องการเก็บให้ครบทุกเม็ดอาจจะต้องอยู่มากกว่า 1 วันขึ้นไป
สิงคโปร์
จากยะโฮร์ บาห์รู ไปสิงคโปร์สามารถนั่งรถบัสไปได้ โดยรถจะจอดที่ด่าน ต.ม. และหลังจากนั้นต้องขึ้นรถบัสคันเดิมไปลงที่สถานีบูกิส หรือจะเปลี่ยนรถเพื่อไปขึ้น MRT ก็ได้ (แต่อาจจะต้องเสียเงินค่าซื้อตั๋วใหม่) เกาะสิงคโปร์ เป็นเกาะเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมที่อยู่รวมกันอย่างลงตัว สถานที่เที่ยวที่เด่นที่สุดคือ Merlion ตรง Marina Bay ที่ว่ากันว่าใครไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์ถัดไปไม่ไกลเป็น Marina Bay Sands หรือตึกรูปเรือ Singapore Flyer หรือขิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ และ Garden by the Bay สวนขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณริมอ่าว มีทั้งเป็นโดมเรือนกระจกใหญ่ และแบบ Super Tree ส่วนวัดพระเขี้ยวแก้ว (Tooth Relic Buddha Temple) ตั้งอยู่บริเวณ China town และแน่นอนเกาะ Sentosa ที่ตั้งของ Universal Studio บริเวณ Habour front นั่นเอง การเดินทางที่สิงคโปร์นี้ค่อนข้างง่าย สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าหรือจะเป็นรถเมล์ก็ได้ สำหรับอาหารที่ สิงคโปร์ จะมีสวนอาหาร หรือ food court กระจายอยู่แทบทุกพื้นที่ แต่ขอแนะนำบักกุ๋ดเต๋ ที่มีการใส่เครื่องเทศที่เข้มข้น กลิ่นหอม ซดคล่องคอ และข้าวมันไก่เป็นแบบไก่ต้ม เนื้อหนานุ่ม กิน กับน้ำจิ้มอร่อย ก็อร่อยไปอีกแบบ นอกจากนี้ต้องลองชิมชาเย็นซึ่งมีทั้งแบบร้อนและแบบเย็นให้เลือกแล้วจะติดใจ
หวังว่ารายละเอียดจากการเดินทางครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนในการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวในปีนี้กันนะคะ