Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้ เป็นหญิงไทยใจงาม ซึ่งเธอได้ให้นิยามเรื่องการท่องเที่ยวกับเราเอาไว้ว่า “ทุกเรื่องราวระหว่างการท่องเที่ยว สร้างรอยยิ้มให้กับเราเสมอ” ดังนั้นวันนี้เธอจึงอาสามาสร้างรอยยิ้มให้เราด้วยการพาไปแต่งชุดไทยสวยๆ แล้วพาไปเที่ยวที่ เมืองมัลลิกา สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดกาญจนบุรีที่กำลังอินเทรนด์สุดๆ ในขณะนี้ ด้วยธีมที่พาเราย้อนกลับไปในสมัย ร.ศ. 124 รวมไปถึง ปราสาทเมืองสิงห์ โลเคชั่นที่ใช้ถ่ายทำละครชื่อดังอย่าง รื่อง นาคี นั่นเองค่ะ
ทริปวุ่นวายทรมานกายา เมืองมัลลิกา และ ปราสาทเมืองสิงห์
หากคุณกำลังมองหาความลำบาก ความไร้ยางอาย และความวุ่นวายแล้วล่ะก็ เชิญค่ะ! เชิญทางนี้! คุณมาถูกที่ถูกรีวิวแล้ว เพราะความถดถอยของเงินในกระเป๋า ส่งผลให้สภาพการเงินเริ่มฝืดเคือง จึงเป็นเหตุให้เกิดทริปวุ่นวายที่พวกเรากำลังจะพาทุกท่านไปเผชิญด้วยกัน… ไปค่ะ ไปโล้ดดดดดดดดดด
ความลำบาก
07.50 น. สวัสดี สวัสดี สวัสดี ตอนนี้พวกเราวุ่นวายทริปซึ่งมีสมาชิกกันอยู่ 6 คน ก็มาอยู่ที่สถานีรถไฟธนบุรี เขตบางกอกน้อย เนื่องจากตกลงปลงใจกันแล้วว่าจะนั่งรถไฟฟรีขบวนที่ 257 ธนบุรี (07.50น.) – ท่ากิเลน (11.30น.) ตรวจสอบตารางรถไฟเพิ่มเติมได้ที่ www.railway.co.th
เหตุผลที่เราลงสถานีรถไฟท่ากิเลนก็เพราะว่า สถานีนี้ใกล้ปราสาทเมืองสิงห์และเมืองมัลลิกามากที่สุด โดยอ้างอิงจาก Google Map ในมือถือของเราเอง (เห็นบ้าๆ บอๆ แบบนี้ก็มีติ่งความฉลาดนะจ๊ะ 5555)
นั่งๆ นอนๆ อยู่บนรถไฟพอปวดเมื่อยเกือบ 4 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็มาถึงสถานีรถไฟท่ากิเลน ยืนงงกันอยู่แป๊บนึงก็เดินมาสุมหัวว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อดี เพราะไม่ค่อยมีรถผ่านไปผ่านมาสักเท่าไหร่
หลังจากพูดคุยและสอบถามราคารถท้องถิ่นแถวนั้นกันสักพัก ในที่สุดก็ได้รถประจำตำแหน่งที่คู่ควรและราคาย่อมเยา เหมาะแก่การพาพวกเราไปถึงจุดหมายที่ปราสาทเมืองสิงห์อย่างปลอดภัย หรือเปล่า??? (ราคาจ้าง 100 บาท / 5 คน ตกคนละ 20 บาทเองนะเออ)
ลุยเลยลวกเพ่
ถึงกันแล้ว! อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวนี้เราไม่เสียค่าเข้ากันนะจ๊ะ เนื่องจากทางอุทยานจะยกให้เป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร
ป่ะๆ เข้ามาดูด้านในกัน ปราสาทเมืองสิงห์ : มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร มีแนวศิลาแลง และคูเมืองล้อมรอบทุกทิศ สร้างขึ้นมาในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของอาณาจักรกัมพูชาโบราณ (อาณาจักรขอม) เป็นหัวเมืองชั้นนอก คอยควบคุมดูแลเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างอินเดียกับสุวรรณภูมิ หลังจากที่อาณาจักรขอมล่มสลายในศตวรรษที่ 19 ที่นี่ก็ถูกทิ้งร้างผุพังจนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ปราสาทเมืองสิงห์ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนาคีด้วยนะเธอ (ฉันเป็นแฟนละครเรื่องนี้ด้วยแหละ)
ความไร้ยางอาย
เอาล่ะ…ถึงเวลาที่จะนำชุดไทยที่ขโมยมา อะจึ๋ย! เช่ามาเซ่ ฉันเช่ามาจริงๆ นะในราคา 250 บาท ไหนๆ ก็เอามาละขอถ่ายให้คุ้มค่าชุดกันหน่อย (ถึงแม้ว่าผู้คนที่ท่องเที่ยวอยู่ด้านในจะมองว่าเราประหลาด 555 หาได้แคร์ค่ะ พกปูนมาโบกหน้าเต็มร้อยซะขนาดนี้) เอาเซ่สวยให้ 5 มั่นหน้าให้ 10
หมู่ไปล่ะขอแบบจ่าบ้าง ถรุย! แบบเดี่ยวค่ะ (เอากันให้ตายไปข้างนึง)
จะจริงจังไปใหน….เปิดโหมดร่าเริงบ้างงงง
โพสต์ท่าจนหมดท่าจะโพสต์แล้ว พวกเราก็เดินออกมาโดยตั้งใจไว้ว่าจะไปโบกรถด้านหน้าอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เหมือนฟ้ามีตาสวรรค์เป็นใจ พวกเราได้พบกับพี่ๆ ที่เค้ากำลังบูรณะอุทยานอยู่ น้องบีม (สไบชมพู สวยๆ ขาโตๆ) จึงใช้หน้าตาเข้าข่มขู่ ไม่ใช่สิ!~ เข้าออดอ้อนให้พี่เค้าช่วยไปส่งที่เมืองมัลลิกา แล้วนางก็ทำสำเร็จด้วยนะ (เออเว้ยเห้ย ของนางดีจริง)
โฉมหน้าพี่ชายใจดีที่พาเรามาส่งถึงเมืองมัลลิกาเลยจ้าาาาา
เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ที่ อ.ไทรโยคน้อย จ.กาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 32 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ใกล้ปากทางเข้าไปอุทยานประวิติศาสตร์เมืองสิงห์ (เมืองมัลลิกากับปราสาทเมืองสิงห์ ห่างกันราว 7.2 กิโลเมตร) เปิดทำการ 09.00น.-20.00 น.
การเดินทาง
- รถบัสหรือรถตู้ กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี มาลงที่ตัวเมืองกาญจน์ แล้วต่อด้วยรถประจำทางสีแดง กาญจนบุรี-สังขละบุรี มาลงที่หน้าเมืองมัลลิกาได้เลยจ้า
- รถไฟ ให้มาลงที่สถานีท่ากิเลน หรือหรือถ้ำกระแซก็ได้ (หากอยากผ่านจุดโค้งมรณะให้มาลงที่ถ้ำกระแซ) แล้วต่อด้วยรถจ้างท้องถิ่นมาที่เมืองมัลลิกาก็ได้นะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ www.facebook.com/MalikaR.E.124โทร. 034-540884-6
ที่นี่เค้าคิดค่าเข้าชม 150 บาท (ถึงแค่สิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากนั้นค่าเข้าชมผู้ใหญ่จะเป็น 300 บาท เด็กความสูงต่ำกว่า 80 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 80-120 ซม. ราคาเด็ก 150 บาท / สูงเกิน 120 ซม. ราคาผู้ใหญ่) อ้าวๆ ยืนงงอยู่ได้ควักตังค์ออกมาเลยค่ะ
ส่วนเงินที่ใช้จ่ายในเมืองจะมีลักษณะเป็นเหรียญเจาะรูตามภาพ (เกร๋มั๊ยล่ะะะะ) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 5 บาท ต่อ 1 สตางค์ มีมากก็แลกมาก แต่เราเบี้ยน้อยหอยน้อยขอแลกแค่ 200 บาทล่ะกานนน
ยัง! ยังเข้าเมืองไม่ได้ค่ะ หนุ่มๆ ผู้ร่วมทริปของเรายังไม่ได้ทำการเปลี่ยนชุดเลย อัตราค่าเช่าชุดของที่นี่ ผู้หญิง 200 บาท/ ผู้ชาย 100 บาท/เด็ก50 บาท ผู้หญิงรวมชุดสไบหรือผ้าแถบกับโจงกระเบน (เลือกสีได้) และเครื่องประดับ+ร่ม (มีจำกัด) ของผู้ชายมีเสื้อ โจงกระเบน และผ้าคาดเอว แต่!แต่!แต่! ชุดที่ให้เช่าหมดแล้วจ้าาาา (วันเสาร์ที่เราไปคนเยอะมากบวกกับที่เราไปช้า) ส่งผลให้เพื่อนชาวต่างชาติของเราหน้าเริ่มหักลงมาทันที (555 พี่เข้าใจๆ) จึงทำการขอร้องพร้อมทั้งวิงวอนพี่เจ้าหน้าที่ให้หาให้นางใส่ทีเถอะ จนได้ชุดที่ออกมาประมาณนี้ (ยิ้มออกล่ะนะเธอ)
อันนี้ชุดปกติที่เช่าที่เมืองมัลลิกา
ได้เวลาเข้าเมืองสักที เย้! เย้!
เมืองมัลลิกาจะจำลองสถานที่เหมือนว่าเราอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 รัตนโกสินทร์ศก 124 (พ.ศ. 2488) นะเจ้าคะ (พูดเจ้าคะให้เข้ากับบรรยากาศหน่อย 555 )
มาดูวิถีชาวบ้านและอาหารการกินของพวกเค้าหน่อยนะ (ขอบอกว่าแหล่มเลยยย)
และแล้วเวลาแห่งความปั่นป่วนวุ่นวายก็มาถึง พวกเราลุย เฮ้เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
เข้าไปในเมืองไม่เท่าไหร่ก็มีท่านหญิงมาขอถ่ายรูปร่วมกับพวกเราซะละ (เขิลจุง)
ใครเป็นหลวงเป็นน้อยดูจากความแก่นะเจ้าคะ แก่สุดคือเมียหลวง กร๊ากกกกก (ทำไมเสียงหัวเราะไม่เป็นกุลสตรีเลย)
ใส่ชุดไทยก็ต้องสวยๆ หวานๆ ค่ะ ลงจากบันไดต้องเรียบร้อย
โพสต์ต้องสวย
กิริยามารยาทต้องอ่อนหวาน
ที่สำคัญต้องรักเด็ก
แต่มันไม่ใช่ตัวตนของพวกเราาาาาา นี่! พวกเราต้องแบบนี้ ขูดมะพร้าวแบบเซะซี่ มั้ง!!!
ใช้แรงงานแบบนี้ของชอบ
จู๋จี๋กับผู้ชายริมสระ (เอิลลลล)
หรือจะแอบไปพลอดรักข้างกองฟาง (ฟินไปอีก)
บั้นปลายชีวิตพวกเราต้องมีความสุขแน่นอน 55555 จุดจบสายแข็ง
18.45 สถานที่ท่องเที่ยวและถ่ายรูปในเมืองมัลลิกามันมีมากมายจนเราหยิบมาถ่ายทอดในครั้งเดียวคงไม่หมด (เพื่อนๆลองหาเวลาว่างมาสัมผัสบรรยากาศให้มากกว่าเรานะ) ก็สมควรแก่เวลาที่จะพวกเราจะกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว แต่! แต่อีกแล้ว ก็พวกเราเล่นเที่ยวกันซะมืดค่ำ รถประจำทางกลับตัวเมืองกาญจน์หมดแล้วจ้า ทำไงดีล่ะทีนี้ 555 ไม่เป็นไรนะเพื่อนๆเพราะเราได้เตรียมกระดาษ A4 กับปากกาเคมีมาแว้วววว ขีดๆ เขียน ๆ(ไม่รู้จะมีใครอ่านออกมั๊ย ToT) โบกจ้าโบกรถเข้าเมืองกาญจน์
ในที่สุดก็มีพี่ใจดีจอดรับพวกเราเราจากที่โบกรถจนตะคริวกินข้อมือ ขณะที่พวกเราขึ้นรถก็มีน้องผู้หญิงวิ่งข้ามถนนมาด้วยความเร็วแสงขอเกาะล้อไปกับพวกเราด้วย 555 มามาน้อง นี่ๆ โฉมหน้าเพื่อนใหม่ (ที่เราแอบจิกรูปน้องเค้ามาลงในรีวิวด้วย)
19.20 น. มาถึงท่ารถตู้ที่ตัวเมืองกาญจน์แล้ว ทันรถเที่ยวสุดท้ายพอดี (แฮ่กๆ นึกว่าจะไม่มีรถกลับซะแล้ว) รถจะออกเวลา20.00 น. ราคาค่าเสียหายอยู่ที่คนละ 120 บาท โดยเลือกลงได้ 2 ที่ คือสายใต้ใหม่กับหมอชิต 2 พวกเราทั้ง 8 ชีวิตเลือกลงที่หมอชิต 2 จ้า
ส่งท้าย
และแล้วก็ถึงเวลาต้องจากกันสักที เราหวังว่ารีวิวนี้จะเพิ่มอรรถรสในการหาข้อมูลเชิงท่องเที่ยวให้กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย ซึ่งอย่างน้อยที่สุดเราอยากให้เพื่อนๆ ที่อ่านรีวิวนี้ได้กลับไป คือรอยยิ้ม เหมือนกับที่เรื่องราวระหว่างการเดินทางในทุกครั้งมอบรอยยิ้มให้กับเรา พบกันใหม่ทริปหน้าน๊าาาาาา
ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง
ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/
——————-