อยากไปเที่ยวยุโรป แต่ไม่สะดวกและไม่มีเวลาขอวีซ่า ควรทำยังไงดี? คำตอบที่ง่ายที่สุดที่พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอแนะนำก็คือ เลือกไปเที่ยวในประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่ากันดีกว่าค่ะ ซึ่งประเทศในทวีปยุโรปที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ มีอยู่ 2 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย และตุรกี โดยสามารถพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน แหม…น่าสนใจจริงๆเลย และวันนี้พี่เห็ดก็จะพาไปเที่ยว 1 ใน 2 ประเทศในยุโรปที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า นั่นก็คือ ประเทศรัสเซีย มาดูซิว่า ประเทศขนาดใหญ่อย่างรัสเซียจะสวยงามน่าเที่ยวขนาดไหน เริ่มต้นไป ทัวร์รัสเซีย กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซีย ในเมืองหลวง มอสโค กันค่ะ
1. จัตุรัสแดง (Red Square)
สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซีย ที่แรกในเมืองหลวงอย่าง มอสโค ต้องที่นี่เลยค่ะ จัตุรัสแดง หรือ Red Square เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงมากที่สุดของมอสโค อีกทั้งยังเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดด้วยค่ะ โดยเป้าหมายของคนส่วนใหญ่ที่มาเยือนที่นี่ก็คือ การมาชมความงามของสถาปัตยกรรมรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง หรือจะเป็นโบสถ์วิหารต่างๆ ที่ตั้งอยู่รอบๆ นั่นเอง
ชื่อของ จัตุรัสแดง มีที่มาจากอาคารต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ส่วนใหญ่เป็นสีแดง มองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงๆทั้งนั้นเลย นอกจากนี้จัตุรัสแดงยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆของประเทศอีกด้วยค่ะ อย่างเช่น งานเทศกาลเคาท์ดาวน์ปีใหม่ก็จัดอยู่ที่นี่เช่นกัน
แผนที่:
2. มหาวิหารเซนต์เบซิล (St. Basil’s Cathedral)
สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซีย แห่งที่ 2 ในกรุงมอสโค ยังอยู่ในโซนจัตุรัสแดง นั่นก็คือ มหาวิหารเซนต์เบซิล (St. Basil’s Cathedral) สัญลักษณ์ของรัสเซียที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร และยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในจัตุรัสแดงอีกด้วยค่ะ
มองด้านนอกว่าสวยแล้ว แต่ด้านในมหาวิหารเซนต์เบซิลก็สวยงามอลังการไม่แพ้กันเลยค่ะ ด้านในจะพบกับพื้นที่ที่มีลักษณะเหมือนเขาวงกต ประกอบด้วยหอสวดมนต์ต่างๆ โดยสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์ก็คือหลังคาโดมที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อของ โดมหัวหอม ที่เต็มไปด้วยรูปแบบและสีสันสะดุดตา ทั้งลายทางสีแดงสลับขาว วงก้นหอยสีแดงสลับเหลือง และโดมสูงสีทองบนยอดค่ะ ถ้าได้ไปเยือนรัสเซียต้องไปชมความงดงามของมหาวิหารเซนต์เบซิลให้ได้นะคะ
แผนที่:
3. พระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace)
พระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace) เป็นพระราชวังที่สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นที่ทำการรัฐบาลในช่วงปฏิวัติเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ใหม่ๆ ส่วนตอนนี้ก็ได้กลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซีย ที่มีชื่อเสียงของมอสโค
ภายในพื้นที่เขตพระราชวังเครมลินประกอบไปด้วยอาคารต่างๆมากมาย ทั้งปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย โดยมีกำแพงสูงล้อมรอบความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร ที่สำคัญบนหอคอยในพระราชวังยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในมอสโคอีกด้วย
แผนที่:
4. วิหารอัสสัมชัญ (Dormition Cathedral)
วิหารอัสสัมชัญ (Dormition Cathedral หรือ Cathedral of the Assumption) เป็นอีกหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซีย ที่ตั้งอยู่ภายพระราชวังเครมลิน เป็นวิหารที่เก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด และสำคัญที่สุดในเครมลิน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าซาร์อิวานที่ 3 ด้วยการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงจากอิตาลี่ชื่อ อริสโตเติล ฟิโอราวานติ ภายในวิหารตกแต่งด้วยรายละเอียดต่างๆ ทั้งผนังด้านทิศตะวันตกจะมีภาพเขียนรูปพระสาวกและพระสังฆราชในสมัยต่างๆ ส่วนผนังด้านทิศเหนือ ใต้ และตะวันตกจะเรียงรายไปด้วยหีบศพของพระสังฆราช ประมุขของศริสต์ศาสนานิกายรัสเซียนออร์โธดอกซ์ และอีกด้านที่สำคัญที่สุดก็คือ ผนังด้านทิศตะวันออกจะเป็นภาพพระเยซูที่ถูกเขียนลงบนโลหะ ซึ่งเป็นรูปเคารพที่เขียนขึ้นจากจินตนาการที่พระผู้เป็นเจ้าดลใจให้เขียนขึ้นมา
แผนที่:
5. พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ (Armoury Chamber)
มา ทัวร์รัสเซีย กันต่อที่ พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ (Armoury Chamber) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในรัสเซีย ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมลิน เป็นสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่าของรัสเซียกว่า 4,000 ชิ้น โดยส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยศาสตราวุธ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่องเงิน ทอง เพชรพลอย เครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่า ซึ่งหาดูได้ยาก พื้นที่ด้านในแบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็นชั้นต่างๆ คือ ชั้นหนึ่ง ห้องที่ 1 – 15 จัดแสดงเครื่องเงิน เครื่องทอง อาวุธ เสื้อเกราะ หมวก ดาบ ปืน หอก งาช้าง เครื่องกระเบื้อง ของขวัญจากทูตต่างๆ ส่วนชั้นใต้ดิน ห้องที่ 6 – 9 จัดแสดงเครื่องทรงของพระเจ้าซาร์ พระราชินีซาร์รีน่า เครื่องกกุฏราชภัณฑ์ ราชบัลลังค์ ราชรถและลากเลื่อนน้ำแข็ง
แผนที่:
6. สวนอเล็กซานเดอร์ (Alexandrovsky Garden)
สวนอเล็กซานเดอร์ (Alexandrovsky Garden) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมอสโค ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 1821 แล้วค่ะ โดยเป็นสวนที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือกองทัพนโปเลียน ในปี 1812 ใครอยากหามุมธรรมชาติท่ามกลางเมืองหลวงอย่างมอสโคก็แวะมาผ่อนคลายไปกับต้นไม้ใบหญ้าได้ที่นี่ จุดเด่นของสวนแห่งนี้ก็คือ สนามหญ้าเขียวขจี มีรูปปั้นประติมากรรมและน้ำพุประดับอยู่เป็นจุดๆ นอกจากนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างก็คือ การตกแต่งสวนด้วยเศษซากที่เหลือจากอาคารซึ่งถูกกองทัพนโปเลียนทำลายนั่นเอง
แผนที่:
7. โคโลเมนสโกเย (Kolomenskoye)
โคโลเมนสโกเย (Kolomenskoye) คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และเขตอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำ Moskva ได้อย่างชัดเจน โดยที่นี่เคยเป็นที่พักตากอากาศในชนบทสำหรับเหล่าราชวงศ์มาก่อนด้วยค่ะ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไปแล้ว ภายในบริเวณยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมหลายแห่ง นับตั้งแต่โบสถ์ Church of Ascension ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมไม้อันทรงคุณค่า ท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งบนสนามหญ้าอันเขียวขจี เป็นสถานที่รวมความสวยงามต่างๆเอาไว้ด้วยกัน
แผนที่:
8. มหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย (Cathedral of Christ the Saviour)
มาถึง สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซีย ที่มีการสร้างใหม่กันบ้าง นั่นก็คือ มหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย (Cathedral of Christ the Saviour) หรือมหาวิหารโดมทอง ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2000 นี่เอง เนื่องจากเป็นสร้างขึ้นเพื่อทดแทนมหาวิหารเดิมที่เคยถูกทำลายไป สำหรับมหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย หลังเก่า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงความกตัญญูแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1990 สตาลิน ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น ได้สั่งให้ทุบโบสถ์ทิ้งเพื่อดัดแปลงเป็นสระว่ายนํ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต่อมาปี ค.ศ.1994 ประธานาธิบดี บอริส เยลซิน ได้อนุมัติให้มีการก่อสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ด้วยเงินบริจาคของคนทั้งประเทศ ซึ่งการก่อสร้างใหม่นี้ได้จำลองของเดิมได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยสร้างเสร็จสมบูรณ์ และทำพิธีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.2000 ปัจจุบันเป็นวิหารที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย
จุดเด่นของวิหารแห่งนี้ก็คือ โดมยักษ์สีทองบนยอดอาคารสีขาวสะอาดตา อีกทั้งยังมีจุดชมวิวกรุงมอสโก ที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงชมวิวที่ความสูงถึง 40 เมตรอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ภายในอาคารยังมีการเก็บวัตถุที่หลงเหลือจากวิหารเดิมเอาไว้ แต่ก็มีเหลือแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเองค่ะ
แผนที่:
9. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (State Historical Museum)
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (State Historical Museum) แห่งนี้จัดแสดงสิ่งของจำนวนมากตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของรัสเซีย โดยของทั้งหมดจะจัดเรียงตามระยะเวลา มีตั้งแต่ของใช้ในบ้านเรือนไปจนถึงอาวุธและงานศิลปะต่างๆ นอกจากจะเป็นที่รวมสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แล้ว ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ยังสวยงามและโดดเด่นไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซียอื่นๆเลยค่ะ ด้วยการออกแบบในสไตล์กอธิก มียอดสูง 2 ด้าน กับสีแดงเข้มของตัวอาคาร เป็นหนึ่งในอาคารที่ตั้งอยู่รอบๆจัสตุรัสแดงอีกด้วยค่ะ
แผนที่:
10. สวนกอร์กี้ (Gorky Central Park of Culture and Leisure)
ที่เที่ยวในมอสโคที่สุดท้ายคือ สวนกอร์กี้ หรือ Gorky Central Park of Culture and Leisure เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในช่วงหน้าหนาวอย่างการเล่นสเก็ตบนบ่อที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง ส่วนในช่วงหน้าร้อน นักท่องเที่ยวก็จะนิยมมานั่งปกินิกทานอาหารบนสนามหญ้าเขียวขจี เพลิดเพลินกับบรรยากาศในหน้าร้อนแสนสดใสของรัสเซีย
สวนกอร์กี้เปิดทำการริมฝั่งแม่น้ำ Moskva ในปีค.ศ. 1928 และกลายเป็นต้นแบบสำหรับสวนสนุกสไตล์โซเวียต นอกจากนี้ภายในสวนยังมีสะพานและอาคารเก่าแก่สวยงาม รวมถึงบ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวรัสเซีย ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งมอสโคที่น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนๆเลยค่ะ
แผนที่:
นอกจาก 10 ที่เที่ยวในมอสโค ที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากแล้ว ประเทศรัสเซียยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย รวมถึงในเมืองอื่นๆด้วยค่ะ ใครสนใจอยากเที่ยวยุโรปแบบสบายๆ ไม่ต้องง้อวีซ่า จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปด้วยก็ได้ ก็จัด ทัวร์รัสเซีย ไปเลยค่าาา รับรองว่าแฮปปี้แน่นอน