“คุณผู้อ่านในที่นี่มีใครที่ชอบไปเที่ยวตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ บ้างไหมครับ?”
ผมไม่รู้นะว่าใครที่ชอบบ้าง แต่คุณรู้ไหมว่าผมนี่แหละครับคือคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑ์มากๆ จะเรียกว่าบ้าหรือหลงใหลเลยก็ได้ครับ ซึ่งจุดเริ่มต้นของผมนั้นมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วหลังจากที่ผมดูภาพยนตร์เรื่อง Night at the Museum ภาคแรกซึ่ง Ben Stiller รับบบทเป็น รปภ. ที่มีหน้าที่คอยดูแลพิพิธภัณฑ์ในกะดึก จนได้พบกับเรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์ในเวลาต่อมานั่นแหละครับ และมันก็ทำให้ผมอยากลองไปเยือน American Museum of Natural History พิพิธภัณฑ์ที่เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำหนังเรื่อนี้ที่นิวยอร์คสักครั้ง จนต้องดิ้นรนทำงานเก็บเงินและสามารถดั้นด้นไปเห็นกับตาในที่สุด รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่วอชิงตัน ดีซี อย่าง Smithsonian Institution ที่ภายในจะแบ่งออกเป็นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ถึง 19 แห่ง
แต่ความปรารถนาของผมมันกลับไม่จบเพียงเท่านั้นสิครับ เพราะหลังจากนั้นผมก็รู้สึกอยากออกเดินทางเพื่อไปตามหาสุดยอดพิพิธภัณฑ์เจ๋งๆ ในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งตอนนี้เป้าหมายต่อไปของผมนั้นอยู่ที่ฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดในสเปนเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในชื่อ Museo Atlantico นี่แหละครับ
ปกติเวลาผมไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ การแต่งตัวของผมก็ค่อนข้างจะง่ายๆ สบายๆ แต่เน้นความสุภาพครับ อย่างกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืด และที่ขาดไม่ได้ก็คือรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะต้องเดินครับ ส่วนข้าวของก็ไม่มีอะไรมาก ผมจะมีเป้ที่สะพายไว้ข้างหน้า ข้างในก็จะมีกล้องถ่ายรูป (พิพิธภัณฑ์บางแห่งก็ห้ามถ่ายรูปนะครับ ต้องสังเกตด้วยว่ามีป้ายห้ามหรือเปล่า) นอกจากนั้นก็จะมีกระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต แผนที่ ขวดน้ำ สมุดพกเล่มเล็กๆ กับปากกาเผื่อไว้จดข้อมูลแค่นี้ล่ะครับ เพราะบางแห่งต้องรอคิวนาน หอบข้าวของไปเยอะจะหนักและเหนื่อยเปล่าๆ
แต่ทว่าที่ Museo Atlantico กลับแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ตรงที่เราต้องเปลี่ยนจากการใส่กางเกง เสื้อยืด และรองเท้าผ้าใบ เป็นชุดประดาน้ำกับตีนกบแทน ส่วนอุปกรณ์ที่พกติดตัวก็มีเพียงถังออกซิเจนเพียงอย่างเดียว หรือหากคุณต้องการถ่ายรูป ก็เก็บ DSLR เอาไว้ แล้วหันมาใช้กล้องถ่ายใต้น้ำแทน ทำไมน่ะเหรอครับ นั่นก็เพราะว่า… Museo Atlantico คือ
พิพิธภัณฑ์ใต้น้ำ ที่อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติก
พิพิธภัณฑ์ Atlantico ตั้งอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติกถึง14 เมตร ในบริเวณพื้นที่ของเกาะลันซาโรเต ประเทศสเปน และถือเป็นพิพิธภัณฑ์ประติมากรรมใต้น้ำแห่งแรกของทวีปยุโรปและมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยครับ โดยก่อนหน้านี้ก็จะมีคล้ายๆ กันที่เม็กซิโก และบาฮามาส โดยทั้งหมดเป็นผลงานการสร้างของ Jason deCaires Taylor ศิลปินชาวอังกฤษวัย 42 ปี
สำหรับพิพิธภัณฑ์ Atlantico แห่งนี้ประกอบไปด้วยผลงานประติมากรรมจำนวน 400 ชิ้น ซึ่งผลงานบางส่วนนั้นเขาได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานภาพวาดของจิตรกรชาวฝรั่งเศส Théodore Géricault ในชุด The Raft of the Medusa โดย Taylor กล่าวว่า มันเป็นภาพวาดซึ่งแสดงถึงความเดือดร้อนของกะลาสีและการเอาตัวรอดหลังจากที่เรืออัปปาง และวิกฤตผู้ลี้ภัยในปัจจุบัน
และอีกหนึ่งผลงานที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ The Rubicon ที่เป็นหุ่นมนุษย์จำนวน 35 คน ที่ถูกแช่แข็งขณะกำลังเดินอยู่ใต้คลื่น ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยรูปปั้นทั้งหมดนี้สร้างขึ้นจากซีเมนต์ที่มีค่า pH เป็นกลางกับน้ำทะเล นั่นหมายความว่ารูปปั้นของ Taylor จะหมายถึงการเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ เนื่องจากรูปปั้นพวกนี้จะช่วยดึงดูดสัตว์ทะเลที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของปะการังให้เข้ามารวมกันภายในพื้นที่บริเวณนี้ เพื่อช่วยพลิกฟื้นชีวิตของปะการังนั่นเอง
ทั้งนี้จุดประสงค์ของการสร้างสวนประติมากรรมใต้น้ำ และพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำในทุกๆ แห่งของ Jason deCaires Taylor นั้น จริงๆ แล้วก็เพื่อพัฒนาให้เป็นแนวปะการังเทียม โดยการใช้งานศิลปะและธรรมชาติในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั่นเอง เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์ Atlantico ที่โครงการนี้ล้วนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นของลันซาโรเตในทุกขั้นตอน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.bbc.com