การเดินทางไป ทะเลสาบอินเล ของฉันเริ่มต้นง่ายๆเพียงเท่านี้ อินเลเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐฉานของประเทศเมียนมาร์ พูดถึงรัฐฉาน หลายคนคงนึกถึงหนังสือเรื่องดัง “สิ้นแสงฉาน” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของรัฐฉานในเมียนมาร์ เราก็เป็นคนหนึ่งที่หลงรักรัฐฉานผ่านตัวหนังสือ จนสัญญากับตัวเองว่า ต้องมาเห็นกับตาให้ได้สักครั้งเคยได้ยินว่าอินเลเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในรัฐฉาน แต่จะแค่ไหนกันเชียว ก่อนเดินทางจึงหาข้อมูลไว้พอเป็นสังเขป ทะเลสาบ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเมียนมาร์ ชาวอินตา ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ผ้าใยบัว การพายเรือด้วยเท้า แปลงผักลอยน้ำ ฯลฯ เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้จัก ทะเลสาบอินเล อย่างคร่าวๆ ยิ่งหาข้อมูลหัวใจก็ยิ่งเต้นแรง ทะเลสาบอินเล ต้องมีอะไรดีมากกว่าที่ได้อ่านแน่ๆ
เรานั่งรถทัวร์จากแม่สอดไปถึงเมียวดี จากเมียวดีถึงเมืองพะอันซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างทางไปย่างกุ้ง โดยแชร์แท็กซี่กับคนท้องถิ่น ใช้เวลาประมาณครึ่งวัน นอนหนึ่งคืน ต่อรถเข้าสู่ย่างกุ้ง เที่ยวย่างกุ้ง ไปพุกาม แล้วต่อรถเข้าสู่จุดหมายปลายทางเมืองนองเชว ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ ทะเลสาบอินเล ” ตลอดการเดินทางด้วยรถทัวร์ เราจำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่น และเตรียมขอใบอนุญาต การเดินทางด้วยรถทัวร์ลำบากพอสมควร แต่ก็โชคดีได้รับน้ำใจจากที่เพื่อนร่วมทางชาวเมียนมาร์ตลอดเส้นทาง คนเมียนมาร์เฟรนลี่และใสมากๆ เราไม่รู้สึกว่าจะถูกเขาหลอกเลย เวลาไปซื้อของ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็จะใจดีแถมนั่นแถมนี่ให้ เราจะได้รับความเอ็นดู เขาจะมาคอยถามไถ่ ยิ่งรู้ว่ามาจากเมืองไทยด้วย ก็ยิ่งได้รับความเอ็นดูเป็นพิเศษ
ด้วยความที่เดินทางในช่วงเดือนเมษา อากาศร้อนถึงร้อนมาก (เลยอยากจะแนะนำให้เดินทางด้วยเครื่องบินและไปช่วงปลายฝนต้นหนาวน่าจะเหมาะกว่า) แต่ความร้อนหรือจะสู้ความเย็นสบายของน้ำใน ทะเลสาบอินเล พวกเราตื่นตะลึงกับภาพทะเลสาบกว้างใหญ่ไพศาลที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี บอกเลยว่า สวย เคลิ้ม มากค่ะ กับความเรียบง่ายของวิถีชีวิตของชาวอินตา คนพื้นถิ่นของทะเลสาบอินเล สูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า และพร้อมออกเดินทางไป เที่ยวพม่า รับความประทับใจที่ ทะเลสาบอินเล กำลังจะมอบให้
ด้วยความที่อยากเห็นทั้งตอนดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เราตกลงเหมาเรือเที่ยวรอบทะเลสาบทั้งวัน สนนราคาประมาณพันกว่าบาท คนเรือเป็นเด็กชาวอินตาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบอินเล น้องคนเรือสื่อสารภาษาอังกฤษได้ สบายเลยเราเด็กน้อยพาเราล่องไปตามหมู่บ้านในทะเลสาบ แต่ละหมู่บ้านมีสถาปัตยกรรมต่างกัน ที่แรกน้องคนเรือพาเราไปบ้านคนทำหัตถกรรมเครื่องเงิน จากนั้นไปเที่ยวบ้านคนทำมวนบุหรี่ ต่อด้วยบ้านที่ทำผ้าจากใยบัว ไปหาของกินในตลาดบนเกาะ ไปดูการปลูกผักบนน้ำ ระหว่างทางเรือเห็นชาวประมงกำลังจับปลา เรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่พึ่งพาตัวเองอย่างแท้จริง
การทำการเกษตรบนน้ำ หรือสวนลอยน้ำของอินเล เป็นเรื่องน่าทึ่งอีกอย่างหนึ่ง ทะเลสาบอินเล ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตมะเขือเทศที่สำคัญของประเทศเมียนมาร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมะเขือเทศที่หวานอร่อยสุดๆ เพราะภูมิประเทศที่เป็นที่สูงและอากาศที่เย็นสบายทั้งปีรวมถึงแร่ธาตุจากพืชน้ำที่ใช้ในการบ่มเพาะต้นมะเขือเทศ พูดแล้วก็อยากขึ้นมาเลยพอถามเด็กน้อยว่าอะไรคือสิ่งที่เขาชอบที่สุดในทะเลสาบอินเล เขานิ่งไปคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “งานประเพณีแห่พระธาตุบัวเข็มแห่งวัดพองดออู” วัดพองดออูแห่งทะเลสาบอินเล เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ต้องมาสักการะเมื่อมาเยือนเมียนมาร์ ประเพณีการแห่พระบัวเข็มจากวัดพองดออู ช่วงก่อนออกพรรษา เป็นประเพณีสำคัญของชาวอินตาแห่งทะเลสาบอินเล โดยการอัญเชิญพระบัวเข็มลงเรือการเวกไปประดิษฐานในวัดตามหมู่บ้านรอบๆทะเลสาบอินเลกว่า 30 หมู่บ้าน ใช้เวลากว่า 2 อาทิตย์ เชื่อกันว่าผู้ใดได้สักการะพระบัวเข็มจะทำให้ผู้นั้นอยู่เย็นเป็นสุข ชาวอินตาเลื่อมใสพระบัวเข็มมาช้านาน เป็นงานบุญใหญ่ที่ลูกหลานชาวอินตาที่ไปทำงานที่อื่นจะกลับบ้านเพื่อมาร่วมงาน ประเพณีการแห่พระบัวเข็มจึงเป็นงานบุญที่ยึดถือปฎิบัติต่อกันมาหลายร้อยปี ใครที่ได้ไปเยือนทะเลสาบอินเล ควรไปสักการะพระบัวเข็มเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
พระอาทิตย์อัสดงลาลับเหลี่ยมเขาที่ ทะเลสาบอินเล นั้นสวยงามเกินจะบรรยาย พอเรือเข้าฝั่ง พระจันทร์ก็ขึ้นแล้ว พวกเราบอกลาเด็กน้อยชาวเรือ แสงจันทร์ที่ทาทาบ ทะเลสาบอินเล ในคืนนี้ทำให้เราไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เพราะเป็นเราที่เต็มไปด้วยความสุข สุขที่ได้จากการเดินทางมายัง ทะเลสาบอินเล
เที่ยวพม่า ทะเลสาบอินเล ระดับความน่าไป : ☆☆☆☆☆
วิธีการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ลงเครื่องที่สนามบินย่างกุ้ง (มิงกะลาดง) จากนั้นต่อเครื่องบินของสายการบินแอร์บากันไปลงสนามบินเฮโฮ แล้วต่อแท็กซี่ไปเมืองนองเชว
แผนที่ :