นามะฮะเงะ เทศกาลเทพเจ้าปีศาจ แห่ง เมืองโอกะ จังหวัด อะกิตะ
พูดถึงปีศาจใครจะไม่กลัว…แต่นามะฮะเงะตนนี้ไม่ได้เป็นปีศาจเฉยๆนะ เป็นเทพเจ้าแห่ง เมืองโอกะด้วย! ไม่ว่าจะที่ไหน เมืองไหน หรือประเทศไหน ต่างก็มีตำนานความเชื่อไว้หลอกเด็กๆ อย่างเราให้ได้กลัวกันอยู่เสมอ และที่เมืองโอกะ จังหวัดอากิตะ ภูมิภาคโทโฮกุของญี่ปุ่นนี่ก็เช่นกัน แต่ที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ นามะฮะเงะ ตำนานความเชื่อตนนี้ กลับเป็นการรวมทั้งเทพเจ้าและปีศาจไว้ในร่างเดียวกัน งานนี้เห็นหน้านามะฮะเงะปุ๊บ ไม่รู้ว่าจะเคารพหรือหวาดกลัวก่อนดีกันเลยทีเดียว…ชวนสับสนแท้!
จริงๆ แล้ว นามะฮะเงะ (Namahage) คือ ตัวแทนแห่งเทพเจ้าปีศาจที่จะออกมาจับเด็กที่ขี้เกียจหรือนิสัยไม่ดี โดยเทศกาลนามะฮะเงะจะมีขึ้นในวันสิ้นปี (Oomisoka) ส่วนผู้ที่แต่งเป็นนามะฮะเงะมักจะเป็นคนในท้องถิ่นที่แต่งตัวออกมาด้วยชุดฟางอันรุ่มร่ามและใส่หน้ากากยักษ์สีแดงหรือสีน้ำเงิน (สีแดง หมายถึง ปีศาจผู้ชาย และ สีน้ำเงิน คือ ปีศาจผู้หญิง) และถือมีดมาด้วยท่าทางขึงขัง เดินออกมาฝ่ากลางหิมะอันหนาวเหน็บไปตามบ้านต่างๆ และเคาะประตูเพื่อถามว่า มีเด็กคนไหนร้องไห้โยเยไหม? มีเด็กคนไหนงอแงไหม? มีเด็กคนไหนขี้เกียจไหม? มีเด็กคนไหนนิสัยไม่ดีไหม? ฯลฯ
หลังจากนั้นหัวหน้าครอบครัวต้องออกมาต้อนรับนามะฮะเงะอย่างดี (ทั้งๆ ที่จะมาเอาลูกไปเนี่ยนะ…!) ด้วยขนมโมจิ ซึ่งถือเป็นขนมที่ทำกันตามประเพณีวันปีใหม่และสาเก ขอนามะฮะเงะว่าอย่าเอาตัวลูกไปเลย พร้อมตอบว่าครอบครัวนี้ไม่มีเด็กขี้เกียจหรืออาจะร้องขอว่าอย่าเอาตัวลูกไปเลย เมื่อนามะฮะเงะได้รับการตอบรับอย่างดีจนเป็นที่พอใจแล้ว เทพเจ้าปีศาจก็จะเดินจากมาพร้อมคำอวยพรให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ร่ำรวยมั่งคั่ง ในเทศกาลปีใหม่ ทั้งยังสัญญาว่าปีหน้าจะกลับมาใหม่ จะว่าไปก็เหมาะกับสมญานามเทพเจ้าปีศาจดีนะ เพราะมาอย่างน่ากลัว แต่จากไปอย่างน่ารัก แต่ยังไม่วายมีแอบขู่อีกแหนะ แต่อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วถือว่าเป็นปีศาจที่มีชื่อเสียงในด้านดี จึงมีคนบูชาในฐานะเทพเจ้าปีศาจ
ซึ่งเทพเจ้าปีศาจนามะฮะเงะ คนเฒ่าคนแก่ของญี่ปุ่นถือว่ามาเพื่อดัดนิสัยที่ไม่ดีของเด็กขี้เกียจ เพราะสมัยโบราณเมื่อถึงหน้าหนาว จะมีอากาศที่หนาวเย็นมาก เด็กๆ ที่ขี้เกียจก็จะเอาแต่นั่งผิงไฟในห้อง จนทำให้มือมีผิวหนังที่ด้าน ดังนั้นเมื่อปีศาจตนนี้ปรากฎตัวจะออกมาลอกผิวหนังของเด็กเหล่านี้อกอจนแดง โดยคำว่า นามะฮะเงะ มาจาก นามะ แปลว่า สดๆ ส่วน ฮาเกะ ลอกออกมา ซึ่งรวมได้ความว่า ปีศาจที่ชอบลอกหนังคน
เทศกาลนามะฮะเงะนี้มีขึ้นเพื่อตักเตือนสั่งสอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดีตั้งแต่วัยเด็ก และถือว่าเป็นการปัดเป่าเคราะห์ก่อนสิ้นปีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเทศกาลในลักษณะที่ไม่ต่างกันแพร่กระจายไปอีกหลายๆ พื้นที่ที่มีอากาศหนาวและหิมะตกโปรยปรายอีกหลายแห่ง เช่น จังหวัดอะโอะโมริ จังหวัดอิวาเตะ จังหวัดนิงะตะ และจังหวัดอิชิกาว่า เป็นต้น แต่ที่โด่งดังมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น เทศกาลนามะฮะเงะ ในจังหวัดอากิตะแห่งนี้นี่เอง
นอกจากนี้ นามะฮะเงะ ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองโอกะเลยก็ว่าได้ เพราะภายในเมืองโอกะยังมีพิพิธภัณฑ์นามะฮะเงะโดยเฉพาะ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์มีวีดีโอแสดงเรื่องเล่า ตำนานของเทพเจ้าปีศาจนามะฮะเงะ มีการจัดแสดงเครื่องแต่งกาย ชุดฟาง รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น มีดปลอม ไม้กระบอง เป็นต้น และที่ขาดไม่ได้คงเป็น หน้ากากยักษ์นามะฮะเงะ อันหลากสีสัน รวมถึงหน้ากากแบบอื่นๆ จากอีกหลายชนชาติทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เทศกาลเหล่านี้เป็นเหมือนความเชื่อโบร่ำโบราณที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของหมูบ้านต่างๆ ที่มีลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกันไป และกุศโลบายของคนสมัยก่อน ที่งัดสารพัดสารวิธีมาเล่าเรื่องให้เด็กรุ่นต่อๆไปได้รู้จักผิดชอบชั่วดีและเกรงกลัวต่อการกระทำหรือมีนิสัยที่ไม่ดีนั่นเอง แหมแนบเนียนสมจริง แถมยังจริงจังจนเป็นประเพณีดังได้ขนาดนี้ต้องขอซูฮกความช่างคิดของคนญี่ปุ่นจริงๆ ว่าแต่มีใครสนใจจะไปกินโมจิต้องรับนามะฮะเงะกับเราบ้างมั้ยน้อ?