@MushroomTravel
ใครเป็นสายเที่ยว เช็คอิน เที่ยวต่างประเทศ บ่อย เก็บประเทศฮิตๆ มาหมดแล้ว วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาออกนอกเส้นทางเดิมๆ ไปสัมผัสกับความแปลกใหม่กับ 7 ประเทศที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยไป หรือไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวนึกถึง แต่รับรองว่าสวยงาม บรรยากาศดี มีที่เที่ยวน่าสนใจ และมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ชวนให้ค้นหาแบบสุดๆ เห็นแล้วอยากเก็บกระเป๋าออกเดินทางวันนี้เลย !
1. คาซัคสถาน (Kazakhstan)
คาซัคสถาน เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบเอเชียกลาง คาบเกี่ยวระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ ทั้งจีน รัสเซีย อุซเบกิสถาน ฯลฯ จึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตผู้คน รวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่สวยงามแปลกตา ธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์มาก มีทั้งเทือกเขาสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ แคนยอน ทุ่งหญ้า ไปจนถึงทะเลทราย เรียกว่ามาครบทุกแนว วิวสวยอลังการเหมือน เที่ยวต่างประเทศ ในแถบยุโรปเลยค่ะ ที่สำคัญไม่ต้องขอวีซ่าด้วย
สภาพอากาศคาซัคสถาน
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ดอกไม้บานสะพรั่งสวยงาม ต้นฤดูอุณหภูมิติดลบ ประมาณ -13 ถึง -1 องศา ปลายฤดูจะอุ่นขึ้นอยู่ที่ 10 – 19 องศาเซลเซียส
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศเย็นสบายน่าเที่ยว ทุ่งหญ้าเขียวขจี อุณหภูมิประมาณ 12 – 27 องศาเซลเซียส เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคม
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ช่วงนี้จะได้เจอกับวิวใบไม้ใบเปลี่ยนสีที่สวยงาม อากาศค่อยๆ หนาวขึ้น ต้นฤดูอุณหภูมิ 6 – 18 องศาเซลเซียส ปลายฤดูจะหนาวจนอุณหภูมิติดลบ ประมาณ -10 องศา
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) หนาวจัด มีหิมะตก แต่ท้องฟ้าสดใส เหมะแก่การมาชมธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และเล่นสกี อุณหภูมิประมาณ -20 ถึง -9 องศาเซลเซียส บางพื้นที่อาจหนาวถึง -40 องศาเลย
ที่เที่ยวแนะนำ
1. ยอดเขาโกก โทเบ (Kok Tobe) จุดชมวิวเมืองอัลมาตีแบบพาโนรามา บนเขามีทั้งสวนสาธารณะ ชิงช้าสวรรค์ เครื่องเล่นต่างๆ และร้านอาหารมากมาย สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงได้
2. ชารีนแคนยอน (Charyn canyon) เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำ ทำให้หน้าผาและหุบเขามีรูปทรงแปลกตา เหมือนจำลองแกรนด์แคนยอนที่อเมริกามาเลย สามารถมาทำกิจกรรมอย่างการปีนเขา พายเรือแคนู ล่องแก่ง ตกปลาได้
3. สวนสาธารณะพานฟิลอฟ (Panfilov park) สวนสาธารณะเก่าแก่ใจกลางเมืองอัลมาตี ภายในมีมหาวิหารเซนคอฟ (Zenkov Cathedral) ที่สร้างด้วยไม้แต่ไม่ใช้ตะปูเลยสักตัว
2. แอฟริกาใต้ (South Africa)
แอฟริกาใต้ ก็สามารถไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเหมือนกันค่ะ เป็น ประเทศแปลกใหม่ ที่อยากแนะนำ เพราะหลายคนติดภาพว่าประเทศนี้มีแต่ทุ่งหญ้าและสัตว์ป่า ไม่กล้าไปเพราะไม่ใช่สายผจญภัย กลัวจะลำบาก แต่ความจริงแล้วตรงกันข้ามเลยค่ะ ถ้าเป็นในเมืองใหญ่อย่าง เคปทาว์น (Cape Town) รวมถึงเมืองที่อยู่รอบๆ เจริญมาก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะชมวิวบนภูเขา นั่งเล่นริมหาด ล่องเรือดูปลาวาฬและแมวน้ำฝูงใหญ่ หรือเที่ยวไร่องุ่นที่เป็นแหล่งปลูกไวน์ขึ้นชื่อ
สภาพอากาศแอฟริกาใต้
– ฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิประมาณ 15 – 28 องศาเซลเซียส ธรรมชาติสดชื่น มีชีวิตชีวา มีฝนตกน้อย ถ้าใครอยากดูปลาวาฬต้องมาช่วงนี้
– ฤดูร้อน (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ชายหาดสวย แต่อากาศค่อนข้างร้อน กลางวันแดดจัด อุณหภูมิ 20 – 30 องศาเซลเซียส
– ฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศเย็นลง แต่ยังสดใสและมีแดดจัด อุณหภูมิประมาณ 19 – 28 องศาเซลเซียส
– ฤดูหนาว (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศไม่หนาวมาก มีแดดในช่วงกลางวัน อุณหภูมิประมาณ 9 – 23 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการส่องสัตว์
ที่เที่ยวแนะนำ
1. เคปทาวน์ (Cape Town) เมืองตากอากาศ สวยติดอันดับโลก จุดหมายยอดนิยมในการมาแอฟริกาใต้
2. ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติ (New 7 Wonders of Nature) เป็นภูเขาที่มียอดเรียบตรงเหมือนโต๊ะ วิวด้านบนสวยมาก เห็นทั้งเมืองไปจนถึงทะเลที่กว้างสุดขอบฟ้า
3. พิพิธภัณฑ์วูร์เทรคเกอร์ (Voortrekker Monument & Museum) อนุสาวรีย์สูง 40 เมตร สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและมุ่งมั่นของ Voortrekker หรือกลุ่มผู้บุกเบิกชาวดัตช์ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่เป็นแอฟริกาใต้ในปัจจุบัน
3. โมร็อกโก (Morocco)
โมร็อกโก ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา เป็นประเทศที่มีภูมิประเทศหลากหลาย ตั้งแต่เทือกเขาหิมะ ไปจนถึงทะเลทรายขนาดใหญ่ และยังมีความร่ำรวยทางศิลปวัฒนธรรม บรรยากาศมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เพราะผสมผสานทั้งยุโรป แอฟริกา และอาหรับ บ้านเมืองน่ารักมีสีสัน สิ่งปลูกสร้างสไตล์โมร็อกสวยปังสุดๆ ใครที่เวลา เที่ยวต่างประเทศ ชอบไปเดินชมเมือง ชมสถาปัตยกรรม แนะนำเลยว่าต้องมา
สภาพอากาศโมร็อกโก
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศเย็นแต่จะค่อยๆ อุ่นขึ้น อุณหภูมิประมาณ 11 – 20 องศาเซลเซียส ต้นเดือนพฤษภาคมดอกไม้จะบานสะพรั่ง ธรรมชาติสวยงามเขียวชอุ่ม
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) ร้อนและแห้ง เหมาะสำหรับเที่ยวทะเล อุณหภูมิประมาณ 18 – 27 องศาเซลเซียส
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเย็นสบาย บรรยากาศคึกคัก นักท่องเที่ยวเยอะ อุณหภูมิประมาณ 15 – 24 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การมาเที่ยวชมทะเลทราย
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) หนาว ชื้น ฝนตกค่อนข้างบ่อย อุณหภูมิประมาณ 8 – 17 องศาเซลเซียส
ที่เที่ยวแนะนำ
1. พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุด ประดับด้วยงานศิลปะหลายแขนง ทั้งปูนปั้น การต่อไม้ วาดลวดลายบนไม้ ฯลฯ
2. ทะเลทรายซาฮาร่า (Sahara Desert) ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถขี่อูฐไปชมพระอาทิตย์ตกบนเนินเขากลางทะเลทราย รวมทั้งนอนกางเต็นท์ ตั้งแคมป์ และนอนดูดาวตอนกลางคืนได้
3. หมู่บ้านสีฟ้า (Chefchaouen) เมืองเก่าอายุ 550 ปี ที่มีแต่อาคารสีฟ้าขาวทั้งเมือง เหมาะแก่การมาถ่ายรูปและซื้อของฝาก
4. อาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan)
อาเซอร์ไบจาน เป็นหนึ่งใน ประเทศแปลกใหม่ ที่คนไม่ค่อยไปเที่ยวกัน แต่เชื่อเถอะว่าคุ้มค่ามากที่จะไปสักครั้งในชีวิต เพราะเป็นประเทศที่มีทัศนียภาพสวยงาม ธรรมชาติหลากหลาย และความร่ำรวยจากการส่งออกน้ำมัน ยังทำให้เมืองนี้มีความทันสมัย เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างดีไซน์ล้ำๆ สวยแปลกตาชนิดที่เห็นแล้วต้องทึ่ง ในขณะเดียวกันส่วนที่เป็นเมืองเก่าก็ยังอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างยุโรปและตะวันออกกลาง มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาอิสลามซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ อีกทั้งที่พักและอาหารก็ราคาไม่แพงมากอีกด้วย
สภาพอากาศอาเซอร์ไบจาน
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิประมาณ 9 – 20 องศาเซลเซียส หิมะบนภูเขาเริ่มละลาย ดอกไม้ป่าผลิบาน
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศร้อนและแห้ง อุณหภูมิประมาณ 22 – 32 องศาเซลเซียส บางครั้งอาจร้อนถึง 35 องศาเซลเซียส บริเวณชายฝั่งจะเย็นกว่าเล็กน้อย
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเย็นสบาย อบอุ่น ทิวทัศน์สวยงามเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการมาเที่ยว อุณหภูมิประมาณ 13 – 26 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนตุลาคมและพฤจิกายนอาจมีฝนตกบ้าง
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิประมาณ 1 – 10 องศาเซลเซียส มีหิมะตก สกีรีสอร์ตเปิดให้บริการ เดือนที่หนาวที่สุดคือเดือนมกราคม
ที่เที่ยวแนะนำ
1. เมืองบากู (Baku City) เมืองหลวงของประเทศ มีย่านเมืองเก่าที่มีมรดกโลกถึง 2 อย่าง คือ ปราสาทเชอร์วานชาห์ส (Palace of the Shirvanshahs) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในไข่มุกแห่งสถาปัตยกรรมของอาเซอร์ไบจาน และหอคอยไมเด็น (Maiden Tower) ซึ่งไม่เคยถูกทำลายตั้งแต่เริ่มก่อสร้างมา
2. เมืองโกบัสตาน (Gobustan) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพราะมีภูเขาโคลนมากกว่า 400 ลูก ภาพวาดหินโบราณ และภูเขาที่แกะสลักเป็นรูปต่างๆ รวมหลายพันชิ้น
3. เฮย์ดาร์ อาลิเยฟ เซ็นเตอร์ (Heydar Aliyev Center) สถาปัตยกรรมสุดเก๋ที่ออกแบบให้อาคารดูพลิ้วไหวโดยใช้เส้นโค้งเข้ามาช่วย
5. อียิปต์ (Egypt)
ใครหลงใหลในเรื่องราวของพีระมิด มัมมี่ ฟาโรห์ สฟิงซ์ หรืออารยธรรมโบราณ ต้องมา เที่ยวต่างประเทศ ที่ อียิปต์ เลยค่ะ เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี บรรยากาศเต็มไปด้วยมนต์ขลัง และเรื่องราวเร้นลับที่ชวนให้สำรวจ มีสถาปัตยกรรมโบราณสุดยิ่งใหญ่มากมายให้เที่ยวชมและถ่ายรูปแบบจุใจ แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นทะเลทราย แต่ก็ไม่ได้แห้งแล้ง เพราะมีทั้งแม่น้ำไนล์ที่เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม รวมถึงทะเลแดงที่ขึ้นชื่อเรื่องการดำน้ำดูปะการัง
สภาพอากาศอียิปต์
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศไม่ร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 15 – 27 องศาเซลเซียส ช่วงที่ถือศีลอดสถานที่บางแห่งอาจปิดเร็ว และกลางคืนจะคึกคักกว่ากลางวัน
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศร้อนจัด แดดแรง อุณหภูมิประมาณ 21 – 43 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนที่อยากมาดำนำ เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศกำลังสบาย เป็นช่วงที่คนนิยมมาเที่ยวมากที่สุด อุณหภูมิประมาณ 17 – 32 องศาเซลเซียส
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) เย็นสบาย ลมแรง มีแดดในตอนกลางวัน ช่วงกลางคืนอากาศเย็น อุณหภูมิประมาณ 8 – 20 องศาเซลเซียส ในทะเลทรายอุณหภูมิอาจลดลงถึง 0 องศาเซลเซียส
ที่เที่ยวแนะนำ
1. เมืองโบราณซัคคารา (Saqqara) เป็นแหล่งโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นที่ตั้งของพีระมิดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
2. พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ (National Museum of Egyptian Civilization) พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่จัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 50,000 ชิ้น ทั้งยังมีห้องโถงจัดแสดงมัมมี่ให้ได้ชม
3. มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา (Mosque of Muhammad Ali Pasha) มัสยิดที่มีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในกรุงไคโร สร้างเลียนแบบมัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
6. ปากีสถานตอนเหนือ (Northern Pakistan)
สายธรรมชาติคนไหนกำลังมองหาที่ เที่ยวต่างประเทศ แปลกใหม่ แนะนำ ปากีสถานตอนเหนือ เลยค่ะ เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ชื่อว่ามีภูมิทัศน์สวยงามอีกแห่งหนึ่งของโลก จะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาหิมาลัยและคาราโครัม อีกทั้งยังมีธารน้ำแข็ง ทะเลสาบใสสีเทอร์ควอยซ์ ป่าไม้ผลัดใบที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล และดินแดนกลางหุบเขาที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายรูปออกมาสวยสุดๆ สนุก ตื่นตาตื่นใจตลอดทริปเลย
สภาพอากาศปากีสถานตอนเหนือ
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศอบอุ่นขึ้น อุณหภูมิประมาณ 10 – 21 องศาเซลเซียส ช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายนจะเจอกับดอกซากุระที่กำลังผลิบาน
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติเขียวขจี ให้ความรู้สึกสดชื่น อุณหภูมิประมาณ 15 – 28 องศาเซลเซียส มีฝนตกหนักในช่วงเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวช่วงนี้มากที่สุด
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ต้นฤดูยังมีมรสุม แต่จะลดลงหลังเดือนตุลาคม อุณหภูมิประมาณ 3 – 20 องศาเซลเซียส เห็นบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะสวยที่สุดช่วงปลายเดือนตุลาคม
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อากาศหนาวจัด หิมะตกเยอะ อุณหภูมิประมาณ -4 ถึง 8 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การไปเที่ยวชมเทอกเขาหิมะ และเล่นกีฬาในฤดูหนาว
ที่เที่ยวแนะนำ
1. เมืองกากูช (Gahkuch) เป็นเมืองหลวงของเขตหุบเขากีซ่า มีทำเลที่ตั้งอันสวยงามริมแม่น้ำกิลกิต ซึ่งไหลผ่านใจกลางเมือง ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย
2. ทะเลสาบคัลติ (Khalti Lake) ทะเลสาบสีฟ้าใสที่ถูกโอบล้อมด้วยเขาสูง สะท้อนลงไปที่ผืนน้ำ ทิวทัศน์สวยงามราวกับภาพวาดทุกฤดู และยังเป็นแหล่งผลิตปลาเทราต์ชื่อดังอีกด้วย
3. ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) ทะเลสาบสีสวยกลางหุบเขาฮุนซ่า วิวรอบข้างสวยจนลืมหายใจ สามารถล่องเรือชมวิว ขี่เจ็ตสกี ตกปลา ฯลฯ ได้ด้วย
7. มองโกเลีย (Mongolia)
ปิดท้ายด้วย มองโกเลีย อีกหนึ่ง ประเทศแปลกใหม่ ที่คนไทยไปเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ประเทศนี้เป็นแลนด์ล็อก (Landlocked) ไม่มีพรมแดนติดทะเลเลย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ที่ราบสูง และทุ่งหญ้า ประชากรก็ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของพื้นที่ บรรยากาศจึงเงียบสงบ ได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าที่สวยงาม ความอลังการของสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ผู้คนน่ารัก เป็นมิตรมากๆ ถือว่าปลอดภัยสำหรับการมาเที่ยวเลยค่ะ
สภาพอากาศมองโกเลีย
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ต้นฤดูอุณหภูมิติดลบ ปลายฤดูจะอุ่นขึ้น อุณหภูมิประมาณ 3 – 17 องศาเซลเซียส มีลมแรงและอาจมีพายุเป็นครั้งคราว
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากที่สุด เป็นช่วงที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี อุณหภูมิประมาณ 10 – 27 องศาเซลเซียส ในทะเลทรายโกบีอาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียส เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคม
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม) ทุ่งหญ้ากลายเป็นสีเหลือง ต้นฤดูอุณหภูมิประมาณ 2 – 16 องศาเซลเซียส ปลายฤดูอุณหภูมิเริ่มติดลบ
– ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) หนาวจัด อุณหภูมิ -16 ถึง -26 องศาเซลเซียส และอาจลดลงถึง -30 องศาเซลเซียส หิมะเริ่มตกช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
ที่เที่ยวแนะนำ
1. เมืองอูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสถานที่เที่ยวมากมาย เช่น วัดกานดาน (Gandan Monastery) วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดของมองโกเลีย ผู้คนนิยมมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และพระราชวังฤดูหนาวบอกด์ ข่าน (Bodh khan winter) ที่เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์
2. อนุสาวรีย์เจงกีสข่าน (Genghis Khan Equestrian Statue) อนุสาวรีย์คนขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างจากสแตนเลส สูง 40 เมตร เทียบเท่าตึก 12 ชั้น หนัก 250 ตัน
3. อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์ (Gorkhi Terelj National Park) เป็นอุทยานที่สวยและสมบูรณ์มาก มีภูเขาหินรูปร่างแปลกตามากมาย พร้อมด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น เดินป่า ขี่ม้า ล่องแพ นั่งสุนัขลากเลื่อน สัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าเร่ร่อน หรือจะเช่าเกอร์ ที่พักแบบกระโจมนอนค้างคืนในอุทยานก็ได้
ใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แบบนี้ แต่ยังกังวลเรื่องการเดินทาง กลัวจะเที่ยวไม่เป็น ไปไหนไม่ถูก สื่อสารไม่ได้ สามารถจองทัวร์ไปกับ มัชรูมทราเวล ได้เลยค่ะ พี่เห็ดมีทริปดีๆ หลายเส้นทาง พร้อมพาทุกคนไปเปิดหูเปิดตา สัมผัสมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบเจอ เตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วออกไปลุยกันเลย !