@MushroomTravel“มัชรูมทราเวล” จัดทริปโปรแกรมเกาหลีเที่ยววันพ่อ “Cool…Ski Resort in Korea” ระหว่างวันที่ 3-7 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา จำนวน 30 ท่าน บินกับ 8B ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน 5 วัน 3 คืน
วันที่ 4 ธันวาคม 2554
พวกเราก็เดินทางถึงเกาหลีช่วงเช้า และมุ่งหน้าไปเที่ยวเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสบนแผ่นดินเกาหลีที่ หมู่บ้านฝรั่งเศส La’Provance สัมผัส บรรยากาศสไตล์ฝรั่งเศส มีตึกเป็นสีต่างๆ สดใส มีเอกลักษณ์เหมือนเมืองโพรวองซ์ ของฝรั่งเศส ตกแต่งด้วยดอกไม้มากมาย นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าขายของที่ระลึก และขนมพื้นเมืองต่างๆ การ เดินทางมาเที่ยวเกาหลีใต้ ช่วงธันวาคมนี้ อากาศค่อนข้างหนาวเย็น เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูย่างเข้าฤดูหนาว อุณหภูมิ ประมาณ 0 องศา ทำให้พวกเราได้ใส่ชุดเมืองหนาว ขนสัตวร์สวยๆ หยิบมาใส่ เนื่องจากบ้านเราไม่มีโอกาศใส่เลย มีทั้งผ้าพันคอ ถุงมือ รองเท้าบูต แต่งตัวกันความหนาว เราได้เดินเที่ยวชมรอบๆ หมู่บ้านสีลูกกวาดๆนี้ พร้อมถ่ายรูปเก็บภาพน่ารักๆ
เที่ยง เราไปทานอาหารเมนูที่ชื่อว่า “ทัคคาลบี” หรือ ไก่บาร์บีคิวผัดซอสเกาหลี เป็นอาหารเลื่องชื่อแห่งเมืองซุนซอน โดยเขานำไก่บาร์บีคิว ข้าวเหนียว มันหวาน ผักต่างๆ ลงผัดรวมกับซอสแบบเกาหลี แล้วนำผักกาดเขียวมาห่อรับประทานเป็นคำๆ ทานกับกิมจิ
บ่าย นั่งเรือ Ferry เที่ยวชม “เกาะนามิ” ที่ มีรูปร่างเหมือนใบไม้ที่ลอยอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้าฮัน ทั่วทั้งเกาะใบไม้เป็นสีเหลืองและแดง สวยงามมากมองเห็นวิวทิวทัศน์บนยอดเขา ดุจดั่งภาพวาดเกินที่จะบรรยาย อันเป็นไฮไลท์ของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คนกวาดถนนเขาจะกวาดใบไม้ร่วงเป็นรูปหัวใจด้วย ช่างโรแมนติกจัง ที่นี่ มีฟาร์มนกกระจอกเทศให้เที่ยวชม หรือ ปั่นจักรยานหรือมอเตอร์ไบท์เที่ยวรอบเกาะได้
เย็น เราแวะไป ร้านเช่าชุดเล่นสกี ก่อนไปทานอาหารเย็น เพราะพรุ่งนี้ พวกเราจะไปเล่นสกีกัน ที่ร้านมีเสื้อผ้า เสื้อ กางเกง ถุงมือเล่นสกี ให้เช่าชุดละ 30,000 วอน หรือ 900 บาท โดยพวกเราต้องไปวัดตัว แล้วทางร้านจัดเตรียมชุดให้ เตรียมใส่เล่น สกีที่ OAK Valley Ski แล้วจึงเดินทางไปพักผ่อนที่ โรงแรม 5 ดาว OAK Valley Ski Resort เป็นรีสอร์ทสวย ท่ามกลางภูเขา และมีลานสกีอยู่ใกล้ๆ บรรยากาศหนาวเย็นดีจัง รับลมหนาวของ Winter seaon ช่วงเดือนธันวาคมของเกาหลี
วันที่ 5 ธันวาคม 2554
หลังจากที่พวกเรารับประทานอาหารเช้าแบบบุเฟ่ต์ ที่โรงแรม OAK Valley Ski Resort แล้ว พวกเราไปวัดขนาดเท้า เพื่อเช่ารองเท้า ใบสกี แล้วแต่งชุด ก่อนไป เล่นสกีกัน ที่ ลานสกี OAK Valley ของโรงแรม บริการเล่นสกีเทียมที่นี่ หากไม่ใช่หน้าหนาว ลานสกี OAK Valley จัด เป็นลานหลุมกอฟล์ เขามีคนสอนการแบกสกี ฝึกวิธีเล่นสกี แล้วพวกเราก็ปฎิบัติการเล่นสกี ประมาณ 1.5 ช.ม. ประทับใจสุดๆ ล้มลุกคลุกคลานกับเจ้าสกี ซึ่งเราต้องสวมใส่ทั้งรองเท้า และใบสกี หนักเหมือนกันนะ บางคนล้มแล้วลุกไม่ไหวทรงตัวไม่ได้ก็มี ต้องไปช่วยพยุงขึ้นมาเล่นต่อ ทุกคนโพสท่าถ่ายรูปกันยกใหญ่ ก็มีบางคนขี้เกียจเล่นสกี ไปเช่าเฉพาะรองเท้าสกี แล้วเดินเล่นถ่ายรูป สวยดีจ้า เพลิดเพลินใจ สนุกมากๆ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับมีปีก ก้อต้องเดินทางไปเที่ยวต่อแล้ว
สถานที่เที่ยวถัดไปคือ ฟาร์มสตอรเบอรี่ ซึ่งให้เข้าไปชม ไร่สตอร์เบอร์รี่ เป็น เต้นกางมุ้งปลูกสตอร์เบอร์รี่ แบบปลอดสารพิษ ธรรมชาติล้วนๆ แล้วแจกสตอร์เบอร์รี่ให้ชิมกันคนละลูก หวานฉ่ำมาก ลูกใหญ่ๆ สีแดงๆ และมีให้ซื้อกลับด้วย เขาขายเป็นลัง ใน 1 ลัง มี 4 แพ็ค ราคาประมาณ 45,000 วอน หรือ 1,350 บาท อดไม่ได้เลยต้องซื้อซักลังไปฝากคนที่บ้านจ้า จากนั้น เราก็ไปตลดทงแดมุน รถขับแวะผ่านชม “ป้อมฮวาซอง” เป็นป้อมปราการอายุกว่า 200 ปี โดยกษัตริย์ซองโจ สร้างป้อมนี้เพื่อย้ายหลุมพระศพของพระบิดา Sado Seja จากภูเขา Beabongson ไปยังฮวาซอง เพื่อเสริมดวงฮ้วยจุ๋ยให้เป็นสิริมงคล
แล้วก็ถึง ตลาดทงแดมุน เหมือนตลาดประตูน้ำบ้านเราเลย เป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ 3 ตึก แต่ใหญ่กว่าห้างที่ประตูน้ำ มีเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งนั้นแตกต่างกันไป และร้านเครื่องสำอางเกาหลี เราช้อปๆๆ สักพัก ก็ไปเที่ยวชมวิวต่อที่ โซลทาวเวอร์ เป็นหอคอยเมืองสูงที่สุดในโลก สูงถึง 480 เมตร เหนือระดับนํ้าทะเล ณ เขานัมซานใจกลางเมืองหลวง โซลทาวเวอร์ นี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซล มีจุดชมวิวพาโนรามาของกรุงโซลบนสุดของหอคอย เห็นทัศนียภาพทั้งหมดของกรุงโซลและชานเมืองแบบรอบทิศ 360 องศา สวยจัง แล้วเราก็ทานอาหารที่นี่กัน ก่อนเดินทางไปพักโรงแรม 4 ดาว ชื่อ Sheung Hotel เป็นโรงแรมใหญ่ที่สุดในเมืองซูวอน สไตล์ชลบทๆ ก็น่ารักดี
วันที่ 6 ธันวาคม 2554
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว พวกเราไป โรงเรียนสอนทำกิมจิ เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับการทำกิมจิ พร้อมทั้งสนุกสนานกับการลองสวมชุด “ฮันบก” เป็นชุดประจำชาติของเกาหลี ถ่ายรูปกันสนุกสนาน แล้วเราก็ได้แวะถ่ายรูปต่อกันที่ อนุสาวรีย์รูปนกฟินิกซ์เหยียบโลก ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง คนเกาหลีเชื่อว่า นกฟินิกซ์ คือ อำนาจ พลัง และ ความเป็นนิรันดร์ จึงถือสัญลักษณ์ความเป็นอมตะ พร้อมชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขารูปหัวมังกร และวงเวียนน้ำพุซึ่งถือว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดของกรุงโซล อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ Blue Houser (บ้านประธานาธิบดีเกาหลี) จึงมีตำรวจรักษาการบริเวณนี้ค่อนข้างมาก
ต่อด้วยเที่ยวชม ศูนย์โสม เพื่อฟังสรรพคุณของโสม ที่ถูกนำใช้เพื่อสุขภาพเป็นเวลานานากว่า 2,000 ปี ต่อ ซึ่งโสมเกาหลีถือเป็นสมุนไพรที่คนเกาหลีเขานิยมกันนักหนา เพราะเชื่อว่าโสมสามารถรักษาโรคได้สารพัดโรค โสมที่นี่อายุถึง 6 ปี เป็นโสมของแท้ คุณภาพดี มีคุณค่าทางอาหารสูง จะไม่แพ้ ไม่ร้อน ที่สำคัญช่วยปรับความสมดุลย์ของร่างกาย และไปชม “ฮ็อกเกตนามู“ เป็น ศูนย์สมุนไพรบำรุงตับ เมล็ดของพันธุ์ฮ๊อตเกตนี้ ชาวเกาหลีนิยมนำมารับประทานเพื่อช่วยดูแลตับให้สะอาดแข็งแรง ป้องกันโรคตับแข็ง ไม่ถูกทำลายจาการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ บุหรี่ สารตกค้างจากอาหารและยา
เที่ยง ทานอาหารกลางวันเมนู ไก่พะโล้ ชามใหญ่ๆ มีชุปสาหร่ายสดๆ หลังจากอิ่มอร่อย ก็พากันไปเดินย่อยชม ช๊อป แถวๆนั้น ซื้อเครื่องสำอางนิดหน่อย ก็ของเขาดีนิ ใครจะอดใจไหว บ่าย ไปช้อปปิ้งต่ออีกที่ Duty Free Midam เป็นร้านเครื่องสำอาง Cosmetic Outlet ที่ดาราเกาหลีนิยมใช้ มีหลายแบนด์ เช่น Rojukiss, Dr. MJ เป็นต้น
แล้วพวกเราก็ไปแวะ สตาร์ เอเวนิว เป็นสถานบันเทิงเปิดใหม่สำหรับผู้ชื่นชอบนักร้อง/ดาราเกาลี ถ่ายรูปกับหุ่นดาราที่ชื่นชอบ ก่อนไปสนุกย้อนวัยที่ สวนสนุกล้อตเต้เวิลด์ เป็น สวนสนุกในร่มที่ใหญ่สุดของเกาหลี มีเครื่องเล่นมากมายทั้งในร่มและกลางแจ้ง ถ้าเครื่งเล่นฮอตฮิตมากๆ เราต้องต่อคิวอย่างน้อย 1/2 ช.ม. เช่น รถไฟเหาะตีลังกา เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1.5 ช.ม.
ตกเย็น ทานอาหาร บิบิมบับ หรือ ข้าวยำเกาหลี มี หมูสไลด์ ซุป พร้อม อาหารจานร้อน เป็นอาหารดิบ สุก แล้วนำมาคุกเคล้ากัน เสริฟร้อนๆ รสชาติอร่อยดี ข้างหน้าร้านอาหาร มีร้านขายของที่ระลึก อดไม่ได้ต้องไปดู เช่น พวก ตะเกียบ ช้อนทำจากเหล็ก กรรไกรตัดเล็บ น่ารักๆ ทั้งนั้น
ค่ำๆ เดินเล่นช้อปปิ้ง ตลาดเมียงดง เหมือนกับสยามแสคว์บ้านเราเลย มีสินค้าแบรน์เนมต่างๆ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้า ลานตามากมาย ตลาดเมียงดง เป็น ตลาดยักษ์ใหญ่ ถือเป็นย่านธุรกิจที่ใหญ่สุดของกรุงโซลและยอดฮิตที่สุด ร้านรวง และห้างสรรพสินค้า ที่นี่ มีมากมายหลากหลาย เรียกว่าเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าทุกชนิด แต่รู้สึกว่าพวกเราชอบเครื่องสำอาง อี ทูดี้, สกินฟู๊ด, ตุ๊กตาหมี เท็ดดี้แบร์ และของที่ระลึก เลยต้องซื้อไปฝากเพื่อนๆ คนที่บ้านซะหน่อย เดินๆๆ ช้อปๆๆ จนดึก 3 ทุ่ม แล้วไปกลับ ช้อปสนุก อาหารก็อร่อย คืนนี้นอนหลับเป็นตายเลย เหนื่อยจัง แต่สนุกมากจ้า พักโรงแรมในกรุงโซล ชื่อ โรงแรม Coop Hotel
วันที่ 7 ธันวาคม 2554
วันนี้ เป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวเกาหลี หลังจากที่เก็บสัมภาระขึ้นรถและรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว สถานที่แรกซึ่งเราไปเยือน คือ โรงงานเจียระไนพลอยอเมทิส มี พลอยสีม่วงสุขภาพนำโชค เป็นเครื่องประดับยอดนิยมของคนเกาหลี มีให้เลือกซื้อ ชม มากมาย เช่น จี๋ สร้อย ต่างหู แล้วเราก็ไปช้อปปิ้งต่อที่ Duty Free ร้านชื่อ Dongwha ขายเครื่องสำอางผลิตภัณฑ์แบรนด์เนม โดยเฉพาะน้ำหอม ช้อตโกเล็ต ขนม และของที่ระลึก ลดถึง 15-30% อย่างนี้ใครอดใจไหวไม่ช็อปได้จ๊ะ
เที่ยง ทานอาหาร ซัมเคทัง หรือ ไก่ตุ๋นโสมเกาหลี เมนู เปิปพิสดาร ต้นตำหรับชาววังประเทศเกาหลี เชื่อกันว่าไก่ตุ๋นโสมบำรุงและเสริมสุขภาพ เสิร์ฟท่านละ 1 ตัว ในหม้อดินร้อน ภายในตัวไก่จะยัดไส้ด้วยข้าว และของบำรุงต่างๆ อาทิ เม็ดพุทราแห้ง รากโสม เก๋ากี้ ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ และเกลือ รับประทานพร้อมเครื่องเคียงที่เรียกว่า กักตุกี (ทำจากหัวไชเท้าดอง) และเส้นขนมจีนหนานุ่มแบบเกาหลี เสิร์ฟพร้อมกับ อินซัมจู หรือ เหล้าดอง ขอยกนิ้วให้ รสชาติดีจัง หอมเครื่องเทศมาก อากาศหนาวๆ อย่างนี้ ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ ค่อยสดชื่น อบอุ่นดี
บ่าย ไปละลายเงินวอนที่ Supermarket ร้าน ใหญ่ 3 ชั้น มีของสาระพัด ตั้งแต่ของตกแต่งบ้าน ตุ๊กตา ลูกอม ม่าม่า ตะเกียบ สาระพัดสาระพัน เขาแพคใส่ถุง เขียนชื่อ ทัวร์ ให้เราเสร็จสรรพ บริการดีจังเลย แล้วบ่ายๆ 14.30 น. เราก็เดินทางไปสนามบิน และเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 20.30 น.
ทริ ปนี้บริการดี ประทับใจ ช้อปปิ้งสินค้าเกาหลี พวกเครื่องสำอาง ของใช้ต่างๆ น่ารักๆ โดยเฉพาะ ของแถมครีมพอกหน้าเหมือกหอยทากเกาหลี และกระเป๋าของ Etude แล้วยังได้ถ่ายรูปแต่งชุดเมืองหนาว แอ๊คไปหลายท่า เอาไปอวดเพื่อนๆ กัน ทริปนี้อากาศหนาวดีจัง แต่ชอบมากๆ คงเป็นการได้เล่นสกีเทียม ฝึกหัดการใส่ชุด ล้มลุกคลุกคลาน สนุกมากๆ หากคุณได้ไปเกาหลีใต้ช่วงต้นเดือนธันวาคมหรือฤดูหนาวของเขา ขอบอกจ้า…