@MushroomTravel
“มัชรูมทราเวล” ได้รับความไว้วางใจจาก “บริษัท ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด” จัดทริปพิเศษ ทัวร์เชียงราย 3 วัน 2 คืน ช่วงปีใหม่ ระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2555 จำนวน 20 ท่าน เพื่อเดินทางไปพักผ่อนและเสริมสร้างกิจกรรมความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่คณะ เน้นความสนุกสนาน สัมผัสธรรมชาติของป่าไม้สวยงาม และธรรมชาติของเมืองเหนือที่แท้จริง ไม่ใช่คอนกรีตในในเมืองที่พบเห็นอยู่ทุกวัน รับอากาศบริสุทธิ์ เหนือสุดแดนสยาม
วันที่ 1
วันนี้ พวกเราตื่นแต่เช้า พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 7.30 น. เพื่อเดินทางสู่ จ.เชียงราย โดยสายการบินนกแอร์ และเดินทางถึงสนามบินเชียงรายประมาณ 11.00 น. เพราะเครื่องบินดีเลย์ประมาณ 30 นาที แล้วมีไกด์ท้องถิ่นและรถตู้ปรับอากาศ VIP 9 ที่นั่ง 3 คัน มารอรับที่สนามบินเชียงราย เพื่อเดินทางมุ่งหน้าสู่ ดอยแม่สลอน หรือ ดอยสันติคีรี เดิมชื่อ “บ้านแม่สลอง” เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวจีนแถบมณฑลยูนนาน อพยพเข้ามาอยู่บนดอยแม่สลองตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 ที่นี่ จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบชาวจีนแถบมณฑลยูนนาน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตลอด 2 ข้างทางที่พวกเราขึ้นดอย เห็นต้นนางพญาเสือโคร่ง อวดดอกสีชมพูสวยเต็มต้นได้ตามริมทาง ในช่วงฤดูหนาวเดิอน ธ.ค.-ก.พ ของทุกปี ที่นี่ มีดอกไม้อวดโฉม เบ่งบาน ดูราวกับดอกซากุระของญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นถนนสายซากุระบนดอยแม่สลองทีเดียว ตลอดเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านสันติคีรี ทั้งด้านกิ่วสะไตและบ้านอีก้อสามแยก เป็นระยะทางกว่า 4 กม ท่ามกลางทิวทัศน์งดงาม อากาศเย็นสบาย
เที่ยง ทานอาหารเมนูเด็ด คือ ขาหมูต้นตำหรับจีนมณฑลยูนนาน ที่ ร้านแม่สะลองวิลล่า แล้วเดินเล่นชมไร่ชา โดยปลูกชาและพืชผักเมืองหนาวตามไหล่เขา เป็นทิวเขาเขียวลดหลั่นตามไหล่เขา บ่ายๆ เราเดินทางกลับสู่ จ.เชียงราย เพื่อไป โรงแรมลาวี อองโรส ซึ่ง เป็นโรงแรมบูติคชั้นนำ หรูหรา 4 ดาว ออกแบบทันสมัย ภายใต้กลิ่นอายของล้านนา ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของจิตรกรรมฝาผนังรูปช้าง สัญลักษณ์ของราชวงศ์ เป็นลัญลักษณ์ประจำจังหวัดเชียงราย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านตกกอง แล้ว เดินเล่นที่ต่อ ณ เชียงรายไนล์พล่าซ่า มีสินค้าพื้นเมืองของลานนามากมาย เดินๆๆ ช้อปๆๆ จนเหนื่อย แล้วกลับไปโรงแรม หลับสนิทคืนนี้เลยจ้า
วันที่ 2
หลังจากรับประทานอาหาร ที่โรงแรมแล้ว เราก็เดินทางสู่ “พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง” อารยะ นครอายุกว่า 700 ปี ที่มีมนต์เสน่ห์ล้ำลึกของวัฒนธรรมล้านนา กลมกลืนกันอยู่ในโอบล้อมของผืนป่า ที่เริ่มคืนความเขียวชะอุ่ม หลังจากเกิดโครงการพัฒนาดอยตุง เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า ออกแบบผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับบ้านพื้นเมืองสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนไร่แม่ฟ้าหลวง หรือ สวนดอยตุง ก็เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวบนพื้นที่ 25 ไร่ อยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม พวกเราได้เดินสำรวจ พร้อมถ่ายรูปเก็บภาพดอกไม้สวยๆ เป็นที่ระลึก บรรยากาศดีมาก
ทาน อาหารกลางวัน ที่ ร้านอาหารเรือนสุโขทัย แล้วก็เดินทางต่อไป “อำเภอแม่สาย” เป็นอำเภอเหนือสุดของ จ.เชียงราย และเหนือสุดของประเทศไทย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 61 ก.ม. ที่นี่ มีตลาดริมชายแดนให้ช้อปปิ้งแบบไม่ต้องข้ามไปฝั่งพม่า อำเภอแม่สาย มีพรมแดนติดกับจังหวัดท่าขี้เหล็กของประเทศพม่า โดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดน และมีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วย มีด่านสำหรับคนไทยและพม่าได้ไปมาหาสู่กัน นอกจากนี้ ที่นี่ยังขายสินค้าพื้นเมือง สุรา สมุนไพร ผลไม้ และสินค้านานาชนิด ราคาถูก
บ่ายๆ เราเดินทางกลับสู่ โรงแรมลาวี อองโรส เพื่ออาบน้ำ อาบท่า แล้วไปทานอาหารเย็น ที่ ร้านอาหารลีลาวดี คืนนี้ ฉลองปาร์ตี้ ปีใหม่ ร้องคาราโอเกะที่นี่ อย่างสนุก ก่อนไปเดินเล่นท่องราตรีเชียงราย หนุ่มๆ ก็ไปเที่ยวผับ ดริ้ง สาวๆ บางคนไปเดินเล่นที่ เชียงรายไนล์พล่าซ่า ช้อปปิ้งกันอีกครั้งก่อนอำลาเมืองเชียงใหม่จ้า แล้วก็แยกย้ายกลับโรงแรม-ที่พัก
วันที่ 3
หลังจากรับประทานอาหารเช้า และเช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้ว เราก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ “วัดร่องขุ่น” เป็นพระอุโบสถสวยงาม โดยตกแต่งลวดลาย ปูนปั้นสีขาว แต่งแต้มสวยงาม ออกแบบและสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินมีชื่อเสียงของไทย สร้างขึ้นด้วยแรงปณิธานที่มุ่งมั่น รังสรรค์งานศิลปะงดงามแปลกตา ผสานวัฒนะธรรมล้านนาอย่างกลมกลืน ทำให้เราอดไม่ได้ที่เก็บภาพไปอวดเพื่อนๆ งดงามมาก ราวกับว่า พวกเราเป็นมนุษย์และมีโอกาสสัมผัสเมืองสวรรค์ทีนี่
แล้วเราก็ไป นั่งเรือล่องแม่น้ำกก ชมทัศนียภาพตามป่าเขาแบบธรรมชาติสุดๆ ตลอดสองฟากฝั่ง ระหว่างทางเรายังได้แวะชม หมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น อีก้อ ลีซอ กะเหรี่ยง ด้วย ทำให้พวกเรามีความสุข สนุกกับทริปนี้มาก จนไม่อยากกลับไปทำงานเลย เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านบัวตอง
บ่าย แวะชม “เสาสะดือหลักเมือง” หรือ “เสาหลักเมืองเชียงราย” อันถือเป็นสัญญลักษณ์ของการก่อตั้งชุมชนและเมือง เป็นรูปแบบศิลปะขอมแบบพนมบาแกง สร้างขึ้นโดยยึดตามรูปแบบเสาใจกลางบ้านของชาวไทลื้อ ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขต อ.เทิง อ.เชียงของ อ.พาน จ.เชียงราย โดยปกติเสาใจกลางบ้านของชาวไทลื้อนี้สร้างด้วยไม้ แต่เสาสะดือเมืองเชียงรายเป็นเสาหิน ที่สร้างจากหินชั้นดี ณ จ.ตาก ทั้งนี้เพื่อความคงทนถาวร ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่าพญามังราย
แล้วเดินทางต่อไป “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปิน ล้านนาเชียงราย ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ศิลปินแห่งชาติปี 2554 สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ลักษณะเป็นบ้านล้านนาทาด้วยสีดำ บนอาณาจักร อันกว้างขวาง บนพื้นที่ 39 ไร่ ห้อมล้อมเต็มไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศร่มเย็นสบาย บ้านแต่ละหลังประดับประดาด้วยไม้แกะสลัก ที่มีลวดลายงดงามวิจิตรตระการตา อักทั้ง ประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง กระดูกช้างและซากสัตว์นานาชนิด และเก็บผลงานภาพวาดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สวยงาม ดูดีมาก
เวลา ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวมีปีก พวกเราก็ต้องเดินทางไปสนามบินเชียงราย เพื่อกลับกรุงเทพฯ และถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 18.20 น. ทริปนี้ ขอบอกว่า ชอบมากๆ ก็โรงแรม-ที่พัก หรู สวย, ไกด์ท้องถิ่น ซึ่งให้ข้อมูลท่องเที่ยวครบครัน พร้อมด้วยอาหารอร่อย และรถตู้ VIP ใหม่ สะอาด แอร์เย็น ขับดี แล้วกลับมาใช้บริการของ “มัชรูมทราเวล” ใหม่นะจ๊ะ
