“มัชรูมทราเวล” จัดทริปเอาใจผู้ที่ต้องการสัมผัสกับความหนาวสุดขั้วท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนในบรรยากาศโรแมนติกในช่วงวาเลนไทน์ 12-16 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา โดยการเดินทางในทริปนี้เรามีเพื่อนร่วมทางจำนวน 16 ท่าน ซึ่งเป็นคณะของเทิดพงษ์ทัวร์ จ.นครราชสีมา ก่อนการเดินทาง พวกเราทุกคนนัดรวมพลกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรอขึ้นเครื่องของสายการบิน Eastar Jet
วันที่ 2 เช้าแรกในเกาหลี เราเซย์ Good morning เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ จากนั้นจึงออกสำรวจความงดงามของกรุงโซลที่พระราชวังเคียงบ๊อก ที่เรามักจะเห็นบ่อยๆ ในละครเกาหลี ซึ่งจากสภาพที่เราเห็นทำให้แทบไม่น่าเชื่อว่าพระราชวังแห่งนี้มีอายุกว่า 600 ปีแล้ว จากนั้นเราจึงไปดูวิถีชีวิตแบบโบราณของคนเกาหลีที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน รวมทั้งแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตรงด้านหน้าบลูเฮ้าส์อีกพักใหญ่ก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดี จากนั้นในช่วงบ่ายพวกจึงเร่งรีบขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อไปสัมผัสความโรแมนติกของเกาะนามิอันขึ้นชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะถ่ายรูปสวยๆ ของทิวต้นสนที่เป็นไฮไลต์ของเกาะแห่งนี้ จากนั้นก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินทางไปที่ลานสกี ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควร แต่วิวทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางก็ทำให้เราภาวนาให้รถวิ่งช้าลงอีกสักนิด เพื่อให้เราได้สัมผัสความงดงามที่ไม่ได้หาชมได้ง่ายๆ ได้นานกว่านี้
วันที่ 3 เราเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยงานหนักของปากและท้อง เพราะนอกจากอาหารเช้าแสนอร่อยที่ทางโรงแรมจัดให้แล้ว เรายังแวะไปชิมสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ลูกโตๆ จนพุงแทบแตกที่ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งสตรอว์เบอร์รี่ที่นี่มีมีราคาถูกมากๆ จนเราแทบอยากจะเหมาซื้อทั้งไร่กลับบ้านกันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น เรายังแวะไปชิมอาหารประจำชาติของคนเกาหลีกันต่อที่กิมจิแลนด์ และที่นี่ทำให้เรารู้ว่ากิมจิที่เราเคยเห็นตามร้านอาหารเกาหลีนั้น แท้จริงแล้วมีเป็นร้อยๆ ชนิดเลยแหละ ที่สำคัญงานนี้เรายังแอบจำสูตรวิธีการทำกลับไปด้วย ส่วนในช่วงบ่ายนั้น เป็นความคิดที่ดีมากๆ หากเราจะขอย่อยอาหารที่ทานเข้าไปตลอดช่วงเช้าด้วยการหากิจกรรมหวาดเสียวทำที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ก่อนจะหลับเป็นตายด้วยความเหนื่อยเหน็ดตลอดทั้งวันที่ Jewelry Hotel
วันที่ 4 รถโค้ชคู่ใจคันเดิมพาเราห้อตะลุยขึ้นเขานัมซานตั้งแต่ไก่โห่ เพื่อไปชมความงดงามของกรุงโซลในมุมสูงที่หอคอย N Tower ถือเป็นการมาเยือนเกาหลีใต้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราก็ไม่ลืมที่จะทำกิจกรรมยอดฮิตอย่างการคล้องกุญแจคู่รัก และแวะทักทายตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ ก่อนที่เราจะเคลื่อนขบวนไปละลายเงินวอนที่ศูนย์โสม และโรงงานอเมทิส ส่วนช่วงบ่ายนั้นเรายังมีโปรแกรมเสียเงินกันต่อที่ย่านเมียงดงแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเกาหลี ซึ่งสาวๆ ดูจะชื่นชอบที่นี่เป็นพิเศษ เพราะมีร้านขายเครื่องสำอางให้เลือกซื้อมากมายหลายยี่ห้อ หนำซ้ำยังราคาถูกกว่าบ้านเราเป็นเท่าตัว จากนั้นพวกเรายังไปช้อปกันต่อที่ตลาดทงแดมุน ซึ่งที่นี่ก็มีข้าวของที่หลากหลายให้เลือกซื้อ อีกทั้งยังราคายังไม่แพงเสียด้วย
วันที่ 5 เราไปเดินออกกำลังกายกันแต่เช้าที่คลองชองเกชอน คลองโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของโซล ซึ่งหลังจากเรียกเหงื่อจนได้ที่แล้ว เป็นการดีหากเราจะหาของมาบำรุงร่างกายสักหน่อยที่ ร้านสมุนไพร (Korea Herb)ที่เป็นร้านแห่งใหม่ของโซลที่มีการจดลิขสิทธิ์เรียบร้อย และช่วงบ่ายก่อนที่เราจะบินกลับกรุงเทพฯ โชคดีที่เกาหลีมีแหล่งให้ซื้อของฝากกลับบ้านหลายที่ที่มีราคาไม่แพงมากนัก ซึ่งดิวตี้ฟรี (Duty Free Shop) และ Supermarket คือแหล่งหาซื้อของฝากชั้นดีที่เราแวะระหว่างทางก่อนถึงสนามบินแห่งชาติอินชอน
สำหรับทริปนี้ บรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติกในช่วงฤดูหนาวของเกาหลีที่ราวกับภาพฝัน รวมทั้งการทำหน้าที่และการบริการของหัวหน้าทัวร์ จึงทำให้ทริปนี้จบลงอย่างสมบูรณ์และมากด้วยความประทับใจ