“มัชรูมทราเวล” ได้รับความไว้วางใจจากมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ให้จัดทริปเพื่อนำคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่ จำนวน 25 ท่าน ไปศึกษาดูงาน ณ มหาวิทยาลัยฮานอย เทรด ยูเนี่ยน ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน 2556
สำหรับวันแรก เราได้นัดหมายให้คณะทัวร์ทุกท่านพร้อมกันที่อาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และออกเดินทางสู่กรุงฮานอย โดยสายการบินแห่งชาติเวียดนาม เที่ยวบินที่ VN 610 ในเวลา 15.55 น. และเดินทางถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย ในเวลา 13.45 น. และมุ่งตรงสู่อ่าวฮาลองโดยทันที ก่อนจะรับประทานอาหารค่ำ และเข้าพักที่โรงแรม BLUE SKY HOTEL
วันที่ 2 เราเดินทางไปยังท่าเรืออ่าวฮาลองแต่เช้า เพื่อล่องเรือเยี่ยมชมความงามตามธรรมชาติของอ่าวแห่งนี้ ที่สมบูรณ์แบบราวภาพวาดจากจิตกรเอก โดยอ่าวฮาลองประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนมากมายกว่า 1,900 เกาะ และยังได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย จากนั้นเราจึงได้เข้าไปชมในถ้ำสวรรค์ ที่มีหินงอกหินย้อยมากมาย ที่ทำให้เราประทับใจจนแทบไม่อยากกลับ ทราบมาว่าถ้ำแห่งนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นจึงได้มีการประดับแสงสีตามผนังและมุมต่าง ๆ ในถ้ำ ซึ่งก็ให้บรรยากาศที่แปลกไปอีกอย่าง เพราะนอกจากเราจะได้ชมความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นแล้ว เรายังได้ชมความสวยงามที่ถูกเติมแต่งจากฝีมือมนุษย์อีกด้วย ซึ่งภายในก็จะถูกตกแต่งด้วยแสงสีให้เกิดเป็นรูปร่างต่าง ๆ มากมาย ทั้งรูปมังกร รูปปีกนกอินทรี รูปนางฟ้า เป็นต้น จากนั้นเราจึงได้เดินทางกลับไปที่ท่าเรือ โดยระหว่างทางเราก็รับประทานอาหารกลางวันบนเรือไปด้วย
ช่วงบ่ายเราเดินทางกลับสู่กรุงฮานอย ซึ่งระหว่างทางเราก็ได้แวะชมศูนย์หัตกรรมของคนพิการ เพื่อเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก และสินค้าพื้นเมืองที่มีอยู่มากมาย และพอถึงกรุงฮานอย เราก็ขอไปช้อปปิ้งกันต่อที่ใจกลางเมือง ย่านถนน 36 สายเก่า ซึ่งที่นี่ก็เป็นแหล่งขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ อีกทั้งเรายังได้ชมความงามรอบๆ ทะเลสาบคืนดาบ ซึ่งเป็นทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอยที่มีตำนานที่น่าสนใจในสมัยที่เวียดนามทำสงครามสู้รบกับประเทศ จากนั้นพวกเราจึงข้ามสะพานแสงอาทิตย์เพื่อไปยังกลางทะเลสาบเพื่อชมวัดหงอกเซิน หรือวัดเนินหยก ที่มีศาลเจ้าโบราณ และเต่าสต๊าฟขนาดใหญ่ภายใน ซึ่งเชื่อว่าเต่าตัวนี้คือเต่าศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 2 ตัวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาเป็นเวลาช้านานนั่นเอง จากนั้นช่วงเย็นเราจึงไปชมการแสดงระบำตุ๊กตาหุ่นกระบอกน้ำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของเวียดนาม ก่อนจะเข้าพักที่ THIEN THAI HOTEL
วันที่ 3 วันนี้ถึงคราวที่เรามีโอกาสชมเมืองฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามอย่างจริงจัง ซึ่งเมืองนี้ถือเป็นเมืองเก่าที่มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี และยังคงรักษาความเป็นเมืองเก่าได้อย่างดี สังเกตจากสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส จากตัวตึก และอาคารที่สำคัญต่างๆ หลังจากชมเดินชมเมืองจนหนำใจแล้ว พวกเราจึงได้เคลื่อนขบวนเพื่อไปชมสุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ วีรบุรุษของชาวเวียดนาม ผู้ซึ่งรวมเวียดนามให้เป็นประเทศ และประกาศเอกราชให้กับประเทศอีกด้วย รวมทั้งเข้าชมทำเนียบประธานาธิบดีที่ทางรัฐบาลเวียดนามสร้างให้โฮจิมินห์ แต่ท่านก็เลือกที่จะอยู่บ้านไม้หลังเล็กซึ่งอยู่หลังทำเนียบแทน ดังนั้นทำเนียบแห่งนี้ จึงกลายเป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง หลังจากนั้นเราจึงเดินทางไปที่วัดเจดีย์เสาเดียว วัดรูปทรงดอกบัวที่ตั้งอยู่กลางสระบัว ซึ่งวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้แก่เจ้าแม่กวนอิม และวัดเฉินก๊วก ซึ่งเป็นวัดจีนที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญกับชาวเวียดนามเป็นอย่างมาก โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและบริเวณทะเลสาบตะวันตก ทะเลสาบที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในเมืองฮานอย อีกทั้งภายในวัดยังมีต้นมหาโพธิ์ที่นำมาจากประเทศอินเดียปลูกเอาไว้ด้วย จากนั้นในช่วงสายๆ ก็ถึงเวลาของการศึกษาดูงานที่ HANOI TRADE UNION UNIVERSITY ซึ่งเป็นสาระสำคัญของทริปนี้ จากนั้นในเวลาเที่ยงตรงเราก็ได้มีโอกาสได้รับประทานเฝอต้นตำรับแท้ๆ ของเวียดนาม และเดินทางไปชมวัดแห่งวรรณกรรม ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานนับร้อยปี และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกรวมทั้งเป็นสถานที่ใช้สอบจอหงวน ในสมัยโบราณ เพื่อเป็นการย่อยอาหารมื้อเที่ยง ก่อนที่เราจะเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเวียดนาม เที่ยวบินที่ VN 613 ในเวลา 16.15 น.
สำหรับทริปนี้สิ่งที่ทำให้ทุกคนประทับใจที่สุดก็คือไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์สำหรับการให้บริการที่ดีเยี่ยม รวมถึงการอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เป็นไปอย่างราบรื่นและเรียบร้อย รวมทั้งการจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับลูกทัวร์ 2 ท่าน ณ ร้านอาหารในช่วงอาหารมื้อค่ำ รวมทั้งการได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากทางมหาวิทยาลัย HANOI TRADE UNION UNIVERSITY ที่ท่านรองอธิการบดีให้การต้อนรับด้วยตัวเอง