“มัชรูมทราเวล” จัดทริปพาลูกทัวร์ตะลุยแดนโสมขาวในช่วงวันหยุดจักรี 5-9 เมษายน 2556 เป็นเวลา 5 วัน 3 คืน จำนวน 16 ท่าน โดยวันที่ 5 เมษายน เวลา 20.00 น. คณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งครั้งนี้เราเดินทางโดยสายการบิน EASTAR JET เที่ยวบินที่ ZE512ในเวลา 22.20 น.
วันที่ 2 เราเดินทางถึงสนามบินอินชอนช่วงเช้าตรู่ และก่อนที่เราจะออกไปสัมผัสลมหนาวก็ขออาหารอุ่นๆ รองเท้ากันสักนิด จากนั้นจึงเดินทางโดยรถโค้ชเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองชุนชอน โดยจุดมุ่งหมายของเราก็คือการนั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะนามิ ที่เราคุ้นเคยจากซีรีย์เกาหลีหลายๆ เรื่อง ซึ่งเกาะแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่โรแมนติกมากที่สุด รวมทั้งยังมีธรรมชาติที่ความอุดมสมบูรณ์อย่างเต็มที่ จนเราอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเสียรอบเกาะกันเลยทีเดียว และสำหรับมื้อเที่ยงมื้อแรก ณ ประเทศเกาหลี เราได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารยอมนิยมของคนเกาหลี นั่นก็คือทักคาลบี้ ซึ่งเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของไก่ และผักต่างๆ ผัดร่วมกับซอสบาร์บีคิวเกาหลีในกระทะแบน โดยทานคู่กับผักกาดแก้วเกาหลี
ช่วงบ่ายเราเดินทางโดยรถโค้ชสู่เพื่อมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเมาท์โซรัค ผ่านหน้าผา และหุบเขาต่างๆ เพื่อไปยังโซรัคซาน ที่มีแนวเขาที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี โดยตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาแทแบคซึ่งทอดยาวไปถึงเขาคึมคัง อีกทั้งที่นี่ยังป่าไม้ หุบเขา สายน้ำ ทะเลสาบ หินรูปต่างๆ ที่สวยงามซึ่งเกิดจากธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่ง จากนั้นเราจึงแวะนมัสการพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ณ วัดชินฮันซา วัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยอาณาจักรชิลล่า ก่อนที่เราจะไปชมสถานที่น่ารักๆ อย่าง Teddy Bear Museum ที่เป็นบ้านที่มีตุ๊กตาหมีทุกขนาดและมีลักษณะที่ไม่ซ้ำกัน ที่สำคัญคือตุ๊กตาเหล่านี้เป็นงานแฮนด์เมดทั้งนั้น และทานอาหารเย็นที่เป็นอีกหนึ่งอาหารยอดนิยมของขาวเกาหลี ซึ่งก็คือพุลโกกิ หรือก็คือเนื้อวัว หรือเนื้อหมู ที่นำไปหมักกับเครื่องเทศน์ต่างๆ อย่างดีก่อนจะนำไปย่าง และเข้าพักผ่อนที่โรงแรม Seorak I Pak Hotel
วันที่ 3 เช้านี้หลังอาหารมื้อเช้าเรามุ่งหน้าสู่กิมจิแลนด์ เพื่อชิมและชมวิธีการทำกิมจิ อาหารประจำชาติของชาวเกาหลี ที่เราเพิ่งทราบว่าการทำกิมจินั้นมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยโชซอน อีกทั้งกิมจิยังมีเป็นร้อยชนิด ซึ่งเราสามารถนำไปทำอาหารได้ทุกชนิด ไม่เว้นแม้กระทั่งอาหารตะวันตกอย่างพิซซ่า ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้เราทานคาลบี้ อาหารเกาหลีแบบปิ้งย่างที่มีชื่อเสียงอย่างมากของเกาหลี ก่อนที่เราจะไปตื่นเต้นกันต่อที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ สวนสนุกกลางหุบเขา ที่มีเครื่องเล่นละลานตา รวมทั้งบรรดาสัตว์ต่างๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกลับไปอย่างเต็มที่ จากนั้นในช่วงเย็น ก็เป็นเวลาของการชมโชว์ DRUM CAT SHOW ซึ่งเป็นการโชว์ตีกลองและเล่นเครื่องดนตรีสากลจากสาวๆ ที่พวกเธอเคยกวาดรางวัลชนะเลิศมาแล้วมากมายทั้งในและนอกประเทศ จากนั้นเราจึงแวะทานชาบู ชาบูแบบเกาหลีก่อนที่เข้าพักผ่อนที่ YOIDO HOTEL เป็นอันจบกิจกรรมสำหรับวันนี้
วันที่ 4 ก่อนที่เราจะไปตะลุยช้อปปิ้งละลายทรัพย์ในกระเป๋า แน่นอนว่าเข้านี้เราต้องแวะไปที่สถานที่สุดฮิตของกรุงโซลเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้นอาจเรียกว่ามาไม่ถึงเกาหลีก็ว่าได้ ซึ่งที่นั่นถือเป็นสถานที่ยอดนิยมของหนุ่มสาวที่มักไปคล้องกุญแจคู่รัก เพราะเชื่อว่าจะทำให้ความรักของพวกเขาทั้งคู่ราบรื่นนั่นเอง โดยหอคอยกรุงโซล N Tower บนเนินเขานัมซาน ก็คือสถานที่ที่เรากล่าวถึง ซึ่งนอกจากการได้มาคล้องกุญแจแล้ว ที่นี่ Teddy Bear Shop ให้เลือกซื้อกลับบ้านมากมายจนลายตา จากนั้นพวกเราจึงแวะไปซื้อโสมที่ศูนย์โสม สถานที่ที่มีโสมคุณภาพดีที่สุด อีกทั้งยังมีราคาถูกอีกด้วย รวมทั้งแวะซื้อพลอยสีม่วงที่โรงงานอเมทิส โดยชาวเกาหลีเชื่อว่า ถ้ามีพลอยชนิดนี้ติดตัวเอาไว้จะทำให้มีโชคลาภและสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิต จากนั้นเราจึงเดินทางต่อไปที่ถนนยออิโดะ ที่มีต้นซากุระกว่า 1,400 ต้น ที่สำคัญซากุระเหล่านี้กำลังบานสะพรั่งกวักมือเรียกเราให้ต้องชักภาพเพื่อไปอวดเคนที่บ้านให้อิจฉาเล่น ช่วงบ่ายหลังจากที่เราทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาของการช้อปปิ้งแบบเต็มสตรีมเสียที ซึ่งสถานที่แรกที่เราไปตะลุยช้อปก็คือฮงอิก วอล์กกิ้งสตรีท แถบมหาวิทยาลัยฮงอิก โดยสินค้าที่นำมาวางขายส่วนใหญ่ก็มาจากนักศึกษาของมหาวัยลัยแห่งนี้นั่นเอง จากนั้นจึงแวะที่ Hello Kitty Caf? เพื่อชื่นชมของตกแต่งที่เป็น Kitty ที่มีอยู่มากมาย รวมทั้งรองเท้าด้วยขนมเค้กและเครื่องดื่มหอมกรุ่น เพราะจากนี้เราจะต้องไปช้อปปิ้งกันต่อที่เมียงดงและตลาดทงแดมุนนั่นเอง และแล้วคืนสุดท้ายของเกาหลีพวกเราก็หลับเป็นตายด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินตะลุยช้อปปิ้งมาทั้งวันที่ YOIDO HOTEL
วันที่ 5 วันสุดท้ายของการใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ เช้านี้เราเริ่มต้นกิจกรรมทัวร์ด้วยการไปเดินกินลมชมวิว พร้อมกับถ่ายภาพสวยๆ ที่คลองชองเกชอน ซึ่งเป็นคลองโบราณในสมัยราชวงศ์โชซอน ที่มีอายุกว่า 600 ปี โดยคลองแห่งนี้มีความยาวผ่านย่านใจกลางกรุงโซลและสถานที่สำคัญต่างๆ ถือว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงโซลก็ว่าได้ จากนั้นเราจึงไปต่อที่ร้านสมุนไพรเพื่อเลือกซื้อสมุนไพรคุณภาพดีติดไม้ติดมือกลับบ้าน ก่อนจะแวะรับประทานอาหารกลางวันอย่าง Samgyetang หรือไก่ตุ๋นโสม ซึ่งเป็นอาหารชาววัง โดยเขาจะตุ๋นไก่ทั้งตัวจนเปื่อยยุ่ย โดยข้างในตัวไก่ก็จะถูกยัดไส้ด้วยข้าวเหนียว รากโสม พุทราแดง รวมทั้งเครื่องเทศน์ต่างๆ อีกมากมาย และก่อนจะเดินทางกลับเราก็ขอแวะช้อปปิ้งหาซื้อของฝากที่ดิวตี้ฟรี และ Supermarket อีกสักนิด ก่อนจะเดินทางกลับสู่ประเทศไทยในช่วงเย็น โดยสายการบินEASTAR JET เที่ยวบินที่ ZE6511
สำหรับทริปนี้ก็จบลงด้วยความสุขและสนุกสนาน ที่สำคัญเรายังได้สัมผัสกับหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งทำให้เราเคลิบเคลิ้มกับความโรแมนติก จนเกือบเผลอคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกนางเอกซีรีย์เกาหลียังไงยังงั้น