ย่ำถิ่นเมืองมนตรา @ ลังกาวี แดนมะละกา พร้อมกับสัมผัสธรรมชาติสวยงาม บรรยากาศดี ริมทะเลบน เกาะหลีเป๊ะ..มัลดีฟเมืองไทย กับ “มัชรูม ทราเวล” 5 วัน 2 คืน เมือวันที่ 8-12 ธ.ค.2553 โดยรถโค้ช นับเป็นการสัมมนาที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง ของกองบริการทรัพยากรบุคคลประจำปีงบประมาณ54 ทั้ง 17 ท่าน จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขึ้น Langkawi Cable Car หรือ กระเช้าลอยฟ้า ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยิ่งใหญ่ตะการตา สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกระเช้าลอยฟ้านี้ได้มุ่งสู่ยอดเขา “กูนุง มะจิงจั้ง” ภูเขาทางด้านตะวันตก เฉียงใต้ของเกาะลังกาวี เพื่อไปชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลอันดามัน และหมู่เกาะน้อยใหญ่ของไทย มองเห็นไปได้ถึงพวกหมู่เกาะอาดังราวี และทิวทัศน์ของเกาะลังกาวีทั้งหมด ใช้เวลาเดินทางราว 15 – 20 นาทีจะถึงจุดสูงสุดเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะลังกาวีและบริเวณใกล้เคียง และแล้วมาถึง “เกาะลังกาวี” อันเป็นเกาะเล็กๆ โดยตั้งสงบนิ่งอยู่ทางฝั่งทะเลอันดามัน ทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซียเรียกอีกชื่อว่า “เกาะแห่งตำนาน” เนื่องมาจากมีนิทานปรัมปราเกี่ยวข้องกับการก่อตัวทางธรณีวิทยาโบราณของเกาะแห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนเหมาะที่สุด เพราะ ที่นี่..มีรีสอร์ทอยู่มากมาย ลักษณะของเกาะลังกาวีนั้น มีทั้งที่ราบ ชายทะเล และภูเขาสวยงาม โดยมีเนินเขาเขียวชอุ่ม หาดทรายขาวสะอาดโรแมนติก และน้ำทะเลที่ใสเหมือนกระจก พร้อมต้อนรับทุกท่านที่มาเยือน
สถานที่แรกที่มาเยือนเกาะลังกาวี คือ “สุสาน มสุรีย์” ได้เข้าไป ชมสุสาน พิพิธภัณฑ์ ที่มีเรื่องรวประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวมาเลย์ เพราะตำนานที่เล่าขานกันมา ถึงเจ้าหญิงชายารัชทายาท ซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อ 200 กว่าปีมาแล้วนามว่า “มัสซูรี” สุสานนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งห่างจากเมืองกัวห์ ประมาณ 12 กิโลเมตร สถานที่บูชาแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่หญิงสาวคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนเกาะลังกาวี เธอถูกกล่าวหาว่านอกใจสามี เลยถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยกริชที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ตามตำนานกล่าวว่า โลหิตของเธอที่ไหลออกมาเป็นสีขาวและก่อนสิ้นชีพ เธอได้สาบแช่งเกาะนี้ว่าขอให้ไม่เจริญมีแต่ความเสื่อมโทรมนาน 7 ชั่วโคตร อย่างไรก็ตาม เวลานั้นก็ได้ผ่านมาจนครบกำหนดกับคำสาบแช่งตามตำนาน ในวันนี้เกาะลังกาวีกำลังเจริญรุ่งเรือง จากการพัฒนาและผู้คนที่หลั่งไหลมาเยือนเกาะลังกาวีเป็นจำนวนมากขึ้นโดยมีความเชื่อว่าใครที่มาแล้วตั้งใจอธิษฐานก็จะสำเร็จสมดั่งใจทุกคน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เปิดให้ผู้ที่สนใจในเรื่องของตำนานความเป็นมาต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้ไปถ่ายรูปกับ “รูปปั้นนกอินทรีย์สีน้ำตาลแกมแดง” ที่แสดงท่ากำลังจะโผบินสู่ท้องฟ้าอย่างสง่างาม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สะพานยาวของเมืองกัวห์ เป็นจุดดึงดูดใจของจตุรัสนกอินทรีย์และ เป็นที่หมายที่เห็นง่ายสำหรับผู้ที่เดินทางมาทางทะเล ที่เกาะลังกาวี เราได้ไปพักลังกาวีเบลลาวิสต้า 1 คืน
วันรุ่งขึ้น เดินทางที่ไป ช้อปปิ้งแถวตลาดกั๊วะ…เป็นตลาดปลอดภาษีเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่นี่…เป็นศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยโรงแรมทันสมัย และอาคารตึกที่เป็นศูนย์การค้ากับธุรกิจผสมกัน แต่ไม่แน่นขนัดจนเกินไปดังเช่นเมืองที่ทันสมัยอื่นๆ เราได้แวะช้อป “ร้านวิลากาย่า” ที่ดูเหมือนว่าทุกท่าน พากันขนซื้อกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ เหล้า เครื่องกีฬา เครื่องประดับสุภาพสตรี ขนมช็อกโกแลต สุราและบุหรี่ น้ำหอม เครื่องสำอาง เครื่องหนัง เครื่องเงิน เครื่องครัว และอื่นๆ ในราคาถูกกว่าบ้านเรา เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมสินค้าปลอดภาษีนานาชนิด และจุดแวะของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วก็ยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งของชาวมาเลเซียที่มาเที่ยวเกาะลังกาวีด้วย
ก่อนกลับกรุงเทพฯ ได้แวะ เกาะหลีเป๊ะ ณ จังหวัดสตูล แม้จะเหนื่อยจากการนั่งรถโค้ชนานหลายชั่วโมง แต่เมื่อไปถึงเกาะสวรรค์แห่งนี้ ทุกท่านก็แทบหายเหนื่อยอย่างปลิดทิ้ง สมกับคำล่ำลือที่ว่าเป็น “มัลดีฟเมืองไทย” หลีเป๊ะ…เป็นเกาะเล็กๆ ของจังหวัดสตูล มีลักษณะแบนๆ คล้ายบูมเมอแรง มีความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าว หาดทรายละเอียดนิ่มเหมือนแป้ง ทุกท่านได้ตื่นตา ตื่นใจ กับทะเลใส เขียวมรกต ถือเป็นทริปยอดนิยมแบบวันเดียว ดำน้ำ เล่นน้ำ ชมปะการังและฝูงปลา อย่างมีความสุข พร้อมได้เที่ยวนั่งเรือชม “เกาะหินงาม” ที่มีหินเล็กใหญ่มากมายทั่วเกาะ เชื่อกันว่าต้องเรียงก้อนหินให้ได้ 12 ชั้น เพื่ออธิฐานขอพรให้สำเร็จ หรือพบเนื้อคู่ตามความประสงค์ แล้วคณะฯ ได้เดินทางไปพักที่ อันดามันรีสอร์ท 1 คืน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
สำหรับท่านที่ต้องการเที่ยวแบบส่วนตัว“มัชรูมทราเวล” รับจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพคเก็จทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ สนใจติดต่อได้ที่ แผนกทัวร์ โทร 027456168 หรือเยี่ยมชมเว็บไซด์ www.mushroomtravel.com