ถ้าพูดถึง เมืองนิกโก้ ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจจะเกาหัวแกรกๆ เพราะไม่คุ้นชื่อเมืองนี้เท่าไรนัก ซึ่งวันนี้ มัชรูมทราเวล จะพาคุณไป เที่ยวนิกโก้ ในฤดูหนาว ตะลุยหิมะกันแบบฟินๆ แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองนิกโก้นั้นก็น่าเที่ยวไม่แพ้เมืองอื่นๆ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว นั่งรถไฟแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางมาเที่ยวได้แบบไปเช้าเย็นกลับ One Day Trip จากโตเกียว
เมืองนิกโก้ (Nikko) ตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เนื่องจากในอดีตเมืองนิกโก้เคยเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินโต ทำให้มีศาลเจ้าและวัดหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติสวยงามทั้งภูเขาและทะเลสาบ โดยในฤดูหนาวที่เมืองนิกโก้จะมี เทศกาลหิมะประดับไฟที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ หนึ่งปีมีครั้งเท่านั้น และยังมีกิจกรรมในฤดูหนาวอีกเพียบ! ไม่ว่าจะเป็นเล่นสกี ชมหิมะ แช่ออนเซ็น ย้อนรอยซามูไร เรียกได้ว่าเที่ยวได้จัดเต็ม ว่าแล้วก็ตามมัชรูมทราเวลมาค่ะ ไป เที่ยวนิกโก้ กันเลยยยย
ชมเทศกาล Kamakura & Snow Festival
มาถึงหนึ่งในไฮไลท์ของการ เที่ยวนิกโก้ ฤดูหนาว นั่นก็คือเทศกาลหิมะน่ารักๆ ซึ่งจัดที่ Yunishigawa Onsen ซึ่งเดิมทีเมืองออนเซ็นแห่งนี้ยังไม่มีชื่อเสียงเท่าไหร่ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน ชาวบ้านได้ร่วมกันคิดวิธีที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวมากขึ้น จึงได้จัดงานเทศกาลบ้านหิมะขึ้นมาชื่อว่า Kamakura & Snow Festival (Kamakura แปลว่า กระท่อมน้ำแข็ง) ซึ่งทำให้ Yunishigawa Onsen กลายมาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น จนถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งยามค่ำคืนของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ภายในกระท่อมน้ำแข็งทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จะมีการจุดไฟไว้ข้างใน ซึ่งกระท่อมน้ำแข็งขนาดเล็กจะเปิดไฟเวลา 17.30 – 21.00 น. (หยุดทุกวันพุธและพฤหัส) โดยเรียงเป็นแนวยาวบริเวณทางเดินริมแม่น้ำ Yunishigawa Onsen ซึ่งในตอนกลางคืนจะสวยงามราวกับทางช้างเผือก ในส่วนของงานเทศกาลจะจัดขึ้นบริเวณ Yunishigawa mizu no sato Snow Park ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น. ซึ่งนอกจากคุณจะได้ถ่ายรูปบรรยากาศทั้งภายนอกภายในอย่างเพลิดเพลินแล้ว ในกระท่อมน้ำแข็งขนาดใหญ่บางหลัง คุณยังสามารถรับประทานอาหารภายในนั้นได้ด้วย โดยจะมีเชฟจากร้านต่างๆ รังสรรค์เมนูพร้อมเสิร์ฟถึงที่ ซึ่งในครั้งนี้เทศกาล Kamakura & Snow Festival จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม – 3 มีนาคม 2562
เมืองออนเซ็น Yunishigawa onsen
อากาศหนาวๆ ต้องไปแช่ออนเซ็นให้ผ่อนคลาย เริ่มต้นกันที่ Yunishigawa onsen เป็นเมืองออนเซ็นเล็กๆ แห่งหนึ่งท่ามกลางหุบเขาในเมืองนิกโก้ อยู่เหนือ Kinukawa onsen ไปไม่ไกล โดยที่นี่เป็นสถานที่จัดเทศกาลหิมะประดับไฟที่จะจัดขึ้นเพียงปีละครั้ง สำหรับฉายาที่เรียกว่าเมืองออนเซ็นนั่นก็เพราะว่าที่นี่เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา เวลาหิมะตกอากาศก็จะหนาวมาก ทำให้ชาวเมืองนิยมสร้างบ่อออนเซ็นไว้ทั่วเมืองเพื่อแช่คลายความหนาว ต่อมาได้มีการสร้างโรงแรม และเรียวกังต่างๆ ที่มีบ่อแช่ออนเซ็นไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสเทศกาลหิมะของที่นี่ ได้ผ่อนคลายความหนาวท่ามกลางบรรยากาศหิมะขาวโพลนของเมือง
เล่นสกีฟินๆ ที่ Nikko Yumoto Onsen Ski Resort
เที่ยวนิกโก้ ฤดูหนาว ก็ต้องได้ไปเล่นหิมะ เราขอแนะนำที่ Nikko Yumoto Onsen Ski Resort ที่มีลานสกีขนาดกว้างให้คุณเล่นได้อย่างจุใจ แถมยังมีบริเวณที่มีความลาดเอียงเล็กน้อยที่จัดไว้ให้เด็กเล็กอีกด้วย โดยสามารถเล่นหิมะ เลื่อนหิมะ หรือ Snow Board ได้อย่างสนุกสนาน จึงเป็นลานสกีที่เหมาะกับครอบครัวเป็นอย่างมาก หากไม่มีอุปกรณ์ในการเล่นสกีก็สามารถเช่าได้แบบครบเซ็ต เรียกว่ามาแบบตัวเปล่าก็สนุกไปกับการเล่นหิมะได้ทั้งครอบครัว
นอกจากนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ใกล้ๆ กันยังมีงาน เทศกาลหิมะ Oku-Nikko Yumoto Onsen ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปี โดยจะมี Yukiakari เป็นการจุดไฟใน Mini Kamakura และการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งซึ่งจะมีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วประเทศมาทำการแกะสลักน้ำแข็งเพื่อจัดแสดงใน Kamakura หรือ กระท่อมน้ำแข็ง รวมถึงเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นที่ทะเลสาบ Yuno และอีกมากมายเลยค่ะ
หมู่บ้าน Ouchi Juku
จากเมืองนิกโก้เราสามารถเดินทางต่อไปที่ Ouchi Juku หมู่บ้านโบราณเพื่อย้อนรอยซามูไร โดยนั่งรถไฟไปที่สถานี Yunokami onsen แล้วต่อรถบัสเพื่อไปยังหมู่บ้าน โดยที่บ้านโบราณเกือบทุกหลังจะมุงหลังคาด้วยฟาง เราสามารถเดินชมหมู่บ้านและเพลิดเพลินไปกับการซื้อของที่ระลึกท้องถิ่นอย่าง สาเก, ผ้าฝ้าย Aizu, เครื่องปั้นดินเผา และรับประทานอาหารท้องถิ่นอย่าง Negisoba หรือ บะหมี่สีเข้มทำจากบักวีต เสิร์ฟพร้อมต้นหอมยักษ์ที่ใช้แทนตะเกียบ หรือจะเป็นเมนูของหวานอย่าง Shingorou เค้กข้าวที่มีชื่อเสียง แล้วอย่าลืมเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวมุมสูงของหมู่บ้านด้วยนะ วิวสวยมากขอบอก
Tonohetsuri หน้าผาล้านปี
จากสถานี Yunokami onsen เราสามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวต่อได้ที่ Tonohetsuri หน้าผาล้านปี หากไปช่วงเดือนพฤศจิกายนเราจะได้เห็นทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีที่มีอยู่ทั่วทุกแห่ง สวยงามจับใจ โดยเราจะต้องเดินเท้าจากสถานีเข้าไปยังจุดชมวิว ประมาณ 500 เมตร เมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าผา คุณจะต้องตะลึงไปกับความงดงามของทิวทัศน์ ซึ่งหน้าผาหินล้านปีนี้ถูกแม่น้ำ Okawa กัดกร่อนเซาะจนเป็นรูปร่างหน้าตาคล้ายเจดีย์ จนเป็นที่มาของชื่อ To แปลว่าเจดีย์ และ Hetsuri แปลว่า หน้าผา รวมแล้ว Tonohetsuri จึงแปลว่าหน้าผาเจดีย์ โดยเบื้องล่างเป็นแม่น้ำสีเขียวมรกตสวยงามมาก รัวชัตเตอร์ได้ทุกมุม ถ้าไม่ได้มานี่ถือว่าพลาดจริงๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมี สะพานแขวนฟูจิมิบาชิ ที่สูงประมาณ 500 เมตรจากผืนน้ำ เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สามารถขึ้นได้เพียงครั้งละ 30 คนเท่านั้น เวลาเดินก็จะโยกเยกหน่อยๆ กล้าเดินมั้ยล่ะ?
ปราสาท Tsuruga Castle
Tsuruga Castle หรือ ปราสาทนกกระเรียน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1384 มีความเป็นมาเกี่ยวกับชาวซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่นได้ปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้จากการทำสงครามกลางเมืองไอสุ จนกลายเป็นตำนานแห่งศักดิ์ศรีครั้งสุดท้ายของชาวซามูไร ในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนจากยุคเอโดะ (Edo Era) มาเป็นยุคเมจิ (Meiji Era)
นอกจากเรื่องราวที่เป็นตำนานแล้วปราสาทนกกระเรียนหลังนี้ ยังเต็มไปด้วยมนต์ขลังและข้อมูลที่น่าสนใจซึ่งถูกเก็บรวบรวมไว้ในตัวปราสาท แม้ตัวปราสาทเดิมจะถูกทำลายในสมัยเมจิ ปีค.ศ.1874 แต่ภายหลังก็มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1965 โดยยังคงไว้ซึ่งรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบดั้งเดิม รวมถึงหลังคาสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ สวยงามมีเอกลักษณ์โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมปราสาท จะยิ่งสวยงามเกินคำบรรยาย
ไม่ไกลจากตัวปราสาทยังมีสถานที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอีกมากมาย อาทิ สวนของปราสาทนกกะเรียน มีเรือนน้ำชารินคะคุ (Rinkaku Tea House) ที่แวดล้อมไปด้วยสวนหย่อมเล็กๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถแวะมาชิมชาจากที่นี่ได้ นอกจากเรือนน้ำชายังมีพิพิธภัณฑ์สาเก The Aizu Sake Museum หรือจะแวะไปหาซื้อของฝาก ของที่ระลึก รวมถึงแวะทานอาหารท้องถิ่นของที่นี่ได้ที่ Tsurugajo-kaikan
ศาลเจ้าโทโชกุ Toshogu Shrine
เที่ยวนิกโก้ กันต่อที่ ศาลเจ้าโทโชกุ หนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองนิกโก้ที่ไม่ควรพลาด ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างเพื่อเป็นสุสานที่อุทิศให้แก่ โชกุนโทะคุงะวะ อิเอะยะซึ ซึ่งเป็นโชกุนยุคแรกของยุคเอโดะ บริเวณทางเข้ามีแผ่นหินจารึกตัวอักษรว่าโทโชกุและโทริอิหินขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ เป็นจุดรับพลังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 400 ปี ภายในมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปอยู่หลายจุด เริ่มตั้งแต่เจดีย์ 5 ชั้นสีแดงบริเวณทางเข้าหลังผ่านโทริอิหินมาแล้ว อาคารไม้โบราณที่มีรูปแกะสลักลิง 3 ตัวอันโด่งดัง ประติมากรรมรูปสัตว์ต่างๆ ที่ประดับศาลเจ้า แต่ที่เห็นจะมุ้งมิ้งจะเป็นประติมากรรมรูปแมวนอนหลับ ลองไปเดินหากันดูว่าอยู่ตรงไหนนะคะ
เห็นไหมคะว่าเมืองนิกโก้ มีเสน่ห์ซ่อนอยู่มากมายให้เราได้ไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติอันงดงาม หรือเทศกาลอันน่าหลงใหล ซึ่งฤดูหนาวที่นิกโก้นั้นสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นของญี่ปุ่นเลยค่ะ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหารก็ไม่แพงอีกด้วย ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเมืองนิกโก้ เมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้กันเยอะๆ นะคะ 🙂