Mushroom Travel

ถึงมี รอย สัก ก็เข้าออนเซนที่ญี่ปุ่นได้แล้ว!

ประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่ดีงามมากมาย จะให้ลิสต์ทั้งหมดก็คงยาวเป็นหางว่าว แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่คนต่างชาติอยากทำในญี่ปุ่นให้ได้นั้นคิดว่า “ออนเซน” คงเป็นลิสต์แรกๆที่ถูกบรรจุอยู่ในกิจกรรมห้ามพลาดในการไปเที่ยวญี่ปุ่นแน่นอน ออนเซนเป็นสุดยอดแห่งกิจกกรมผ่อนคลายของชาวอาทิตย์อุทัยมาช้านาน ว่ากันว่าการน้ำอุ่นช่วยขจัดความเหนื่อยล้า น้ำแร่ที่ใช้ในออนเซนมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลากหลาย ออนเซนเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ถือว่าแปลกในสายตาคนต่างชาติ อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมการแต่งกายที่ปกปิดมิดชิดของคนญี่ปุ่น แต่เวลาแช่น้ำกลับเปิดหมดไม่ปกปิดสิ่งใดเลย จึงค่อนข้างจะขัดแย้งทางความรู้สึกกันอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับผมแล้วเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกครั้ง ผมจะต้องหาเวลาไปแช่ออนเซนอยู่เรื่อยไป ยิ่งวันสุดท้ายของทริปที่เดินหนักๆมาทุกวันแล้ว การได้แช่น้ำแร่ร้อนๆถือเป็นความสุขแบบสุโก้ยจริงๆ

สำหรับมารยาทในการใช้ออนเซนนั้นก็มีหลากหลายทั้งการชำระร่างกาย อาบน้ำสระผมให้สะอาดก่อนลงออนเซ็น ห้ามใส่ชุดว่ายน้ำลงออนเซน เพราะจะนำพาความสกปรกลงสู่ออนเซ็น แต่หนึ่งในข้อห้ามที่ทำให้หลายคนต้องปวดใจ และชวดโอกาสในการลงออนเซน นั่นก็คือ …“ห้ามคนที่มีรอยสักลงออนเซน”…

ที่มาสำหรับข้อห้ามนั้นมีอยู่ว่า คนญี่ปุ่นเชื่อว่า “รอยสัก” เป็นเครื่องหมายของ “ยากูซ่า” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่คนญี่ปุ่นทั่วไปไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยว เพราะกลัวว่าบุคคลเหล่านี้จะนำพามาซึ่งอันตราย อยู่ห่างๆไว้จะดีกว่า เวลาแขกคนอื่นเห็นคนที่มีรอยสักมาร่วมแช่ออนเซนก็จะรู้สึกไม่สะดวกใจ จนไม่กลับมาใช้บริการที่นี่อีก บางคนก็บอกว่าหมึกของรอยสักอาจจะละลายออกมาปนเปื้อนกับน้ำ ทำให้ความบริสุทธิ์ของน้ำลดลง ก็ว่ากันไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เจ้าของออนเซนก็เลยตัดปัญหา ห้ามคนที่มีรอยสักไม่ว่ากรณีใดๆเข้าใช้บริการ นั่นก็เพื่อทำให้ผู้ใช้บริการคนอื่นได้ใช้บริการอย่างสบายใจ โดยข้อกำหนดนี้ไม่ได้บัญญัติไว้เป็นกฎหมาย แต่เป็นข้อตกลงที่ทราบกันดีในหมู่คนญี่ปุ่นทั่วไป

แต่สำหรับคนต่างชาติแล้ว “รอยสัก” นั้นคงไม่ได้เป็นเครื่องหมายของยากูซ่าเป็นแน่ รอยสักเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับใครหลายคน เป็นความทรงจำ เป็นรางวัล เป็นความภูมิใจ หลากหลายความหมาย หลายล้านเหตุผล เป็นจารีตของบางชาติพันธุ์ ผมเชื่อว่าทุกรอยสักมีเรื่องราว แต่เหตุใดนักท่องเที่ยวเหล่านี้กลับถูกปฏิเสธไม่ให้ลงแช่ออนเซน
เมื่อยุคสมัยได้เปลี่ยนไป ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลก และออนเซนก็เป็นหนึ่งใน “To do lists” ที่ชาวต่างชาติตั้งหน้าตั้งตารอคอย เพื่อจะสัมผัสประสบการณ์นั้นให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่หลายต่อหลายคนกลับต้องถูกปฏิเสธการเข้าออนเซน เพียงเพราะว่า “รอยสัก” ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับยากุซ่าเลย ด้วยเหตุนี้กระทรวงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น จึงมีการรณรงค์ให้ออนเซนสาธารณะทั้งหลาย ยกเลิกข้อห้ามและปฏิเสธการลงแช่ออนเซนของคนที่มีรอยสัก เพื่อเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศในการเป็นเจ้าภาพ Tokyo Olympic ที่จะมีขึ้นในปี 2020 ที่จะถึงนั่นเอง

แต่นี่เป็นเพียงการรณรงค์เพื่อขอความร่วมมือเท่านั้น เพราะจากผลการสำรวจผู้ให้บริการออนเซนทั่วประเทศกว่า 3,800 แห่งของกระทรวงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น พบว่าผู้ให้บริการที่ยังไม่ยอมรับการยกเลิกข้อห้ามนี้ยังมีอยู่ถึง 56% เนื่องด้วยวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในใจ และฝังรากลึกในญี่ปุ่น จึงอาจจะต้องใช้เวลาและถกกันอีกนาน
แม้ว่าออนเซนหลายแห่งจะยังคงมีข้อห้าม แต่สำหรับเพื่อนๆที่มีรอยสักก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะตอนนี้ญี่ปุ่นเขามีตัวช่วยเป็น “แผ่นปิดรอยสัก” ที่มีลักษณะเป็นสติกเกอร์สีเนื้อ(มีหลายเฉดสีผิวให้เลือกสรร) ช่วยปกปิดรอยสักขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางได้อย่างแนบเนียน แผ่นปิดรอยสักนี้มีขายตามออนเซนใหญ่ๆหลายแห่ง หรือหากใครอยากซื้อเตรียมไว้ก่อนได้ ก็หาได้ตามเว็บไซต์ www.alae-japan.com (ค่าส่ง EMS ในเอเชีย 800 เยน

สำหรับผู้มีรอยสักแต่รักการแช่ออนเซนโดยเฉพาะ เค้าก็มีเว็บไซต์ที่ชื่อว่า www.tattoo-spot.jp ที่สามารถเสริชหาข้อมูลของออนเซนในภูมิภาคต่างๆของญี่ปุ่น โดยในนั้นก็จะระบุระดับความรุนแรงของการห้ามลงออนเซนสำหรับคนที่มีรอยสัก โดยแบ่งระดับจากหนึ่งดาวไปจนถึงห้าดาว หนึ่งดาวคือ ห้ามคนที่มีรอยสักเข้าเด็ดขาด สามดาวคืออนุญาตเป็นบางกรณี จนถึงห้าดาวคือไม่มีข้อห้ามเรื่องรอยสัก เป็นต้น ออนเซนนั้นสามารถรักษาโรคได้มากมายโดยเฉพาะโรคผิวหนังชนิดต่างๆ เช่น ช่วยให้ผิวพรรณสดใส คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อคลายจากความเมื่อยล้า ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น และกระตุ้นระบบย่อยอาหาร เป็นต้น

ชาวญี่ปุ่นสมัยโบราณเชื่อว่าการแช่ออนเซนสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้หลายอย่าง ออนเซนแต่ละที่มีสรรพคุณแตกต่างกันไป ทริปแช่ออนเซนจึงเป็นทริปที่ได้รับความนิยมมากๆในหมู่คนญี่ปุ่น แพคเกจทัวร์ของญี่ปุ่นแท้ๆเกือบทุกแพคเกจ ไม่ว่าจะปีนเขา สกี ดำน้ำ ก็ล้วนต้องจบทริปด้วยการลงแช่ให้ผ่อนคลายที่ออนเซนทั้งสิ้น
สำหรับญี่ปุ่นแล้วการลงออนเซนไม่ใช่เพื่อความผ่อนคลายเท่านั้น แต่ในบางโอกาสออนเซนยังเป็นสถานที่สำหรับการเจรจาทางธุรกิจ เพราะการคุยในกันบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ก็ทำให้การเจรจาตกลงทำได้ง่ายขึ้น หรือแม้แต่การไปออนเซนกับคนในบริษัทนั้น ก็ทำเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะถือเป็นการคุยกันอย่างไม่มีอะไรปกปิด เหมือนร่างกายที่เปลือยเปล่าระหว่างแช่ออนเซนนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : kashiwaya.org, cnn.co.jp และ mlit.go.jp

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

ถึงมี รอย สัก ก็เข้าออนเซนที่ญี่ปุ่นได้แล้ว! was last modified: May 24th, 2022 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version