@MushroomTravel
ถือเป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีจริง ๆ ค่ะ สำหรับประเทศญี่ปุ่น เพราะอากาศดี มีที่เที่ยวหลากหลาย โดยนอกจากโตเกียวแล้ว อีกหนึ่งในจังหวัดที่ฮอตฮิตนั่นก็คือ “โอซาก้า (Osaka)” เมืองแห่งสีสัน ที่มีที่เที่ยวครบครัน ตอบโจทย์ทั้งสายชิล สายกิน สายช้อป สายถ่ายรูป สายกิจกรรม ใครที่มีแพลนจะมา ทัวร์โอซาก้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี พี่เห็ดได้รวบรวม 15 ที่เที่ยวโอซาก้า น่าเช็กอิน 2024 มาไว้ให้แล้ว จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเล้ยยย!
1. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
มาเริ่ม ทัวร์โอซาก้า กันที่จุดเช็กอินแรกกันเลยดีกว่าค่ะ กับ ย่านโดทงโบริ แลนด์มาร์คยอดฮิตที่ไม่ว่าใครที่มาถึงโอซาก้าก็ต้องแวะเที่ยว ที่นี่เป็นย่านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า มีป้ายไฟนีออนขนาดใหญ่ตกแต่งอยู่ทั่วทั้งบริเวณ เติมความสดใสให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีร้านอาหาร คลับ บาร์ ของขึ้นชื่อของท้องถิ่น ให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งและกินดื่มกันอย่างเต็มที่ อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงย่านนี้ก็คือการไปถ่ายรูปกับ “กูลิโกะแมน” ป้ายไฟขนาดยักษ์รูปผู้ชายกางแขนอยู่บนลู่วิ่ง จุดเช็กอินสุดฮิตที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ไปแล้ว
2. ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine)
ถัดมาไม่ไกลจากย่านโดทงโบริ เอาใจสายมูกันบ้าง กับ ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่เมืองโอซาก้า มีจุดเด่นคือหัวสิงโตยักษ์อ้าปากกว้างตั้งอยู่ด้านหน้า มีความเชื่อว่าปากของสิงโตที่อ้ากว้างอยู่นั้นจะกลืนกินสิ่งไม่ดีต่าง ๆ และนำความโชคดีมาให้ ผู้คนจึงนิยมไปขอพรทั้งเรื่องการงาน การเรียน ความรัก ซึ่งนอกจากเรื่องความเชื่อต่าง ๆ แล้ว ด้านสถาปัตยกรรมก็ถือว่ามีความสวยงาม เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเช่นกัน
3. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ต่อไปเราไปชม ที่เที่ยวโอซาก้า แนวประวัติศาสตร์ อย่าง ปราสาทโอซาก้า กันบ้างค่ะ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวปราสาทตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีต้นไม้นานาพรรณ เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโอซาก้า ด้านในปราสาทมีการแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ด้านประวัติศาตร์มากมาย ทั้งยังมีจุดที่สามารถขึ้นไปชมวิวสวย ๆ ได้อีกด้วย ใครที่กำลังจะไป ทัวร์โอซาก้า ห้ามพลาดที่นี่เลย
4. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studio Japan)
ใครที่ชื่นชอบสวนสนุกต้องมาที่นี่เลย ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน สวนสนุกที่เมื่อเข้ามาแล้วจะเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลก บรรยากาศภายในจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฮอลลีวู้ด นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก มีการแบ่งโซนเป็นธีมต่าง ๆ โดยมีโซนสุดฮิตอย่าง Super Nintendo World, The Wizarding World of Harry Potter, Minion Park รวมทั้งตัวละครสุดโปรดอีกมากมาย ทั้งยังมีเครื่องเล่นสุดอลังการให้ได้ไปเล่นสนุกอีกเพียบ ใครชอบเล่นเครื่องเล่น หรือเป็นแฟนตัวละครตัวไหนต้องจองตั๋วแบบด่วน ๆ เลย
5. วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji)
ส่วนใครที่ไม่ใช่สายลุย อยากหา ที่เที่ยวโอซาก้า แบบสงบ ๆ ชมวัดวาแบบชิล ๆ ก็ต้องที่นี่เลยค่ะ วัดชิเทนโนจิ วัดพุทธแห่งแรกในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านเทนโนจิ ตัววัดมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และจิตรกรรมอันงดงาม แม้จะผ่านเหตุการณ์มากมายอย่างไฟไหม้ พายุ สงคราม ทำให้มีการบูรณะอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังคงความงดงามไว้ได้จนถึงปัจจุบัน ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ “สวนโกคุราคุ-โจโด” สวนที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองสวรรค์ ตามคำบรรยายของศาสนาพุทธ มีการตกแต่งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ ๆ รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างเจดีย์ พิพิธภัณฑ์ และคลังสมบัติ ให้ได้ชม
6. หุบเขามิโนะ (Minoo Park)
ใครเป็นสายชิล ชมวิว ดื่มด่ำธรรมชาติก็ต้องที่นี่เลย หุบเขามิโนะ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มิโนะโอะ (Mino-o) หุบเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของโอซาก้า มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติความยาวกว่า 3 กิโลเมตร หนึ่งใน ที่เที่ยวโอซาก้า ที่เหล่านักเดินทางนิยมมาเช็กอินกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุด ทั้งยังเดินทางไม่ยาก แถมระหว่างทางยังมีร้านให้ได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างใบเมเปิ้ลชุบแป้งทอดโดยฝีมือของคนท้องถิ่นอีกด้วย
7. ตึกอุเมดะ (Umeda Sky Building)
ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของโอซาก้าเลยค่ะ สำหรับ ตึกอุเมดะ อาคารที่มีความสูงกว่า 173 เมตร มีทั้งหมด 40 ชั้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ตึก มีทางเชื่อมถึงกัน เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการชมวิวโอซาก้าในมุมสูงแบบ 360 องศา เพราะเขามีสวนลอยฟ้าอยู่ที่ชั้น 39 ทำให้ชมวิวได้แบบเต็มอิ่ม โดยนอกจากจุดชมวิวแล้ว ยังมีร้านอาหาร บาร์เครื่องดื่ม รวมทั้ง Sky Walk ที่สามารถออกไปรับลมชิล ๆ พร้อมชมวิวสวย ๆ ได้
8. ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market)
ใครเป็นสายกินพุ่งตัวมาทางนี้เลย กับ ตลาดคุโรมง หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า ตลาดปลาโอซาก้า ตลาดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มาก ๆ อีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า ด้านในตลาดเป็นทางเดินยาวประมาณ 600 เมตร ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน ขายทั้งของสด อาหารทะเล อาหารพร้อมทาน ของทานเล่น รวมทั้งอาหารท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลองมากมาย รับรองเลยว่าสายกิน สายช้อปถูกใจแน่นอน
9. ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha)
ศาลเจ้าสุมิโยชิ ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตัวศาลเจ้ามีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่นเพราะเป็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบสุมิโยชิ-ซึคุริ (Sumiyoshi-Zukuri) ทั้งยังเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ช่วยปกป้องชาวเรือ นักเดินทาง ทำให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ผู้คนนิยมมาขอพรกัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์เด็ดอย่างสะพานโค้งสีแดง (Sorihashi Bridge) ที่เมื่อสะท้อนกับผิวน้ำด้านล่างแล้วสวยงามสุด ๆ เหมาะแก่การมาถ่ายรูปลงโซเชียลมาก ๆ
10. สวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป 70 (Expo’70 Commemorative Park)
ต่อด้วยที่เที่ยวชิล ๆ อย่าง สวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป 70 อีกหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในโอซาก้า โดยภายในสวนนอกจากจะมีบรรยากาศที่ร่มรื่นแล้ว ยังมีสวนหย่อมสไตล์ญี่ปุ่น, พิพิธภัณฑ์, สวนสนุก, สวนดอกไม้, หอคอยพระอาทิตย์ รวมทั้งงานศิลปะสวย ๆ ให้ได้เพลิดเพลินอีกมากมาย ใครกำลังมองหา ที่เที่ยวโอซาก้า สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ปูเสื่อปิกนิก เดินสูดอากาศบริสุทธิ์ แนะนำที่นี่เลยค่ะ
11. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนิฟุเรรุ (Nifrel Aquazoo)
ต่อด้วยอควาเรียมแปลกใหม่ไม่เหมือนใครอย่าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนิฟุเรรุ ที่นำเสนอโดยใช้เทคโนโลยีแบบ Interactive เข้ามาทำให้การดูสัตว์น้ำไม่ธรรมดา มีการใช้แสง สี เสียง และจัดองค์ประกอบศิลป์ให้สัตว์ต่าง ๆ ดูสวยงามและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตัวอาคารมี 2 ชั้น แบ่งออกเป็น 7 โซนแตกต่างกัน มีทั้งโซนที่แสดงลักษณะเฉพาะของสัตว์ โซนศิลปะสุดอลังการ โซนสัตว์หายากหลากหลายสายพันธุ์ และยังมีร้านของฝากที่ถอดคาแรคเตอร์สัตว์ในอควาเรียมให้เราได้ซื้อติดไม่ติดมือกลับบ้านไป นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่สุดชิคบรรยากาศดี มองเห็นวิวหอคอยพระอาทิตย์ (Tower of the Sun) ให้ได้ไปนั่งชิลกันอีกด้วย
12. ย่านชินเซไก (Shinsekai)
ไปต่อกันเลยกับ ที่เที่ยวโอซาก้า สำหรับสายกินดื่มยามค่ำคืนอย่าง ย่านชินเซไก แลนด์มาร์คสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางโอซาก้า บรรยากาศมีความย้อนยุคสไตล์เรโทร เป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องของกิน สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย ทำให้ช่วงเย็น ๆ ไปจนถึงดึกย่านนี้คึกคักเป็นพิเศษ เมนูที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ คุชิคัตสึ ทาโกะยากิ และเมนูที่ทำจากปลาปักเป้า นอกจากของกินอร่อย ๆ แล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ของย่านนี้ก็คือ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ที่มีจุดเด่นคือรูปลักษณ์สุดแปลกตา ตอนกลางคืนประดับประดาไปด้วยไฟ LED สีสันสดใส ช่วยให้ย่านนี้สว่างไสวและไม่เงียบเหงา บริเวณชั้น 5 ของหอคอยสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าได้แบบพาโนรามา ทั้งยังมีรูปปั้นสีทองของเทพเจ้าบิลลิเก็นให้ได้ขอพร โดยต้องลูบทั่วเท้าของรูปปั้น เทพเจ้าก็จะประทานความโชคดีให้
13. ทีมแล็บ โอซาก้า (teamLab Botanical Garden Osaka)
เอาใจสายอาร์ตกันบ้าง กับ ทีมแล็บ โอซาก้า นิทรรศการศิลปะดิจิทัลถาวร ณ สวนพฤกษศาสตร์นะงะอิ (Nagai Botanical Garden) สวนที่มีทั้งทะเลสาบ พืชพรรณนานาชนิด และนกที่อาศัยอยู่ภายในสวน โปรเจ็กต์นี้เป็นงานศิลปะของ teamLab Digitized Nature เพื่อสำรวจว่าธรรมชาติจะกลายเป็นศิลปะได้อย่างไร แนวคิดของโครงการนี้คือเทคโนโลยีดิจิทัลที่ไม่ใช่วัตถุสามารถเปลี่ยนธรรมชาติให้เป็นงานศิลปะได้โดยไม่ทำร้ายธรรมชาติ มีจุดเด่นคือเป็นนิทรรศการศิลปะในรูปแบบ Immersive Art ที่จัดแบบเอาท์ดอร์ภายในสวนพฤกษศาสตร์ แบ่งออกเป็น 14 โซนแตกต่างกัน มีการนำเทคโนโลยีทั้งโปรเจ็คเตอร์ แสง สี เสียง มาผสมผสานกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน สายลม ทะเลสาบ ระบบนิเวศ และสัตว์ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะมาชมศิลปะสวย ๆ แล้ว ใครเป็นสายโซเชียลอยากมาถ่ายรูปเก๋ ๆ ก็ตอบโจทย์ไม่แพ้กันเลย
14. หมู่บ้านอเมริกัน (America-Mura)
ถัดมากับอีกหนึ่งย่านช้อปปิ้งของเหล่าวัยรุ่นโอซาก้า อย่าง หมู่บ้านอเมริกัน หรือ อเมริกามูระ คลังสินค้าเก่าที่ภายหลังได้รับการปรับปรุงเป็นสถานที่ขายสินค้าสุดชิค สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าวินเทจ กางเกงยีนส์ เครื่องประดับ ของมือสอง แผ่นเสียง ฯลฯ โดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา สถาปัตยกรรมและบรรยากาศภายในย่านนี้จะให้กลิ่นอายความเป็นตะวันตกแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ นอกจากสินค้าแฟชั่นแล้ว ก็ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ คลับบาร์สไตล์อเมริกันให้บรรดาวัยรุ่นได้มานั่งชิลกัน รวมทั้งมีงานอาร์ตบนกำแพง และรูปปั้นเทพีเสรีภาพสำหรับถ่ายรูปเช็กอินอีกด้วย ถือเป็นแลนด์มาร์คด้านแฟชั่นที่เหล่าวัยรุ่นไม่ควรพลาด
15. ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel)
ปิดท้าย ที่เที่ยวโอซาก้า ด้วย ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน ชิงช้าสีรุ้งที่เคยได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพราะสูงถึง 112.5 เมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 100 เมตร ตัวชิงช้ามีทั้งหมด 60 กระเช้า แบ่งเป็นกระเช้าธรรมดา 52 กระเช้า และไฮไลต์อย่างกระเช้าแบบใส (See-Through Gondola) อีก 8 กระเช้า โดยจะเป็นกระจกใสทั้งผนัง พื้น เพดาน ทำให้สามารถมองทะลุได้ทุกด้าน เห็นวิวแบบรอบทิศทาง 360 องศา ทั้งวิวภูเขาอิโคมะ สะพานอะคาชิไคเคียว สนามบินนานาชาติคันไซ ภูเขาร็อคโค อ่าวโอซาก้า และเมืองโอซาก้า แต่ละรอบจะใช้เวลา 15 นาที นอกจากนี้ช่วงกลางคืนจะมีการประดับประดาด้วยหลอดไฟ LED โดยสีไฟจะบอกพยากรณ์อากาศของวันพรุ่งนี้ เช่น สีน้ำเงินคือจะมีฝน สีแดงคืออากาศแจ่มใส และสีเขียวคือมีเมฆมาก เป็นต้น
ใครที่กำลังจะไป ทัวร์โอซาก้า สามารถนำที่เที่ยวที่พี่เห็ดแนะนำไปเที่ยวตามได้เลย เพราะรวบรวมมาให้แล้วครบทุกสไตล์ ทั้งสายกิน สายเที่ยว สายช้อป สายมู รวมทั้งสายชิลที่อยากดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสดชื่น ทริปนี้รับรองว่าถูกใจทุกคนแน่นอน