AUTUMN ญี่ปุ่น 7 เมือง สวรรค์บนพื้นดินที่คุณต้องห้ามพลาด จาก Osaka ถึง Nagoya ด้วยตั๋วใบเดียว
A U T U M N I N J A P A N
ภาคแรก Kanazawa – Toyama – Takayama – Shirakawa-go (Bus) / TRAVEL DATE 10-20 NOV 2016
ใคร ๆ มาญี่ปุ่น ก็อยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ภูมิภาคคันไซ และ ชูบุ คงเป็นจุดหมายหลักที่ต้องมา ไม่ว่าจะเป็น osaka ถึง nagoya หรือ โอซาก้า-เกียวโต รีวิวนี้ จะเน้นไปที่ภูมิภาคชูบุ osaka ถึง nagoya โดยเริ่มเดินทางจาก Osaka – Kanazawa – Toyama – Takayama – Shirakawa-go (Bus) – Gero – Korankei – Nagoya ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางนี้รวม 5วัน เที่ยวสถานที่ที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็นหลัก เน้นพักผ่อนในโรงแรมที่มีออนเซ็น และเดินทางด้วยรถไฟ JR / Bus ด้วยพาสใบเดียว osaka ถึง Nagoya ส่วนงบประมาณนั้น เราไม่พูดถึง เพราะโดนฟ้อง ล้มละลาย !! เป็นที่เรียบร้อย
Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ราคา 14,000เยน
(ซื้อที่เมืองไทย)
ใช้งานได้ 5วัน ตามเส้นทางที่กำหนด ซึ่ง จขกท. ใช้เดินทางดังนี้ Osaka – Kanazawa – Toyama – Takayama – Shirakawa-go (Bus) – Gero – Nagoya
มี 3เส้นทางที่ จขกท. ใช้สิทธ์จองที่นั่ง (Reserved Seat Ticket) นั่นคือ
1. Osaka Station – Kanazawa ขบวน Thunderbird 17-
2. Takayama – Gero ขบวน Hida 12
3. Gero – Nagoya ขบวน Hida 4
สำหรับเส้นทางอื่น ๆ เพียงแค่โชว์ Pass เท่านั้น คุณก็เข้า หรือ ออกจากสถานีได้แล้ว และสำหรับเส้นทาง Takayama to Shirakawa-go คุณสามารถใช้ Pass นี้เพื่อจองที่นั่งรถบัสไปกลับได้ที่ Takayama Bus Terminal ซึ่งอยู่ติดกับสถานี JR. Takayama เลย จขกท. จองที่นั่งไว้ล่วงหน้า 1วัน เหลือที่นั่งคนเดียว รอบเช้า พอดีเลย
ภาคแรก Kanazawa – Toyama – Takayama – Shirakawa-go (Bus)
สำหรับใครที่ มาญี่ปุ่น แล้วอยากบันทึกความทรงจำการเดินทาง แนะนำให้ติดดาวใน Google Maps
วันไหนอยากรำลึกความหลังก็แค่คลิกที่ดาว แล้วก็ย้อนเวลาไปช่วงเวลานั้นๆได้
– – K A N A Z A W A – –
การเดินทาง osaka ถึง Nagoya เริ่มต้นใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ขึ้นที่ Osaka Station รถขบวน Thunderbird นั่งยาวไปเลย 2.35ชั่วโมง สำหรับในเมืองนี้ แค่ซื้อบัตร kanazawa loop bus ราคา 500เยน ก็เดินทางได้ทั่วเมืองแล้วครับ
สำหรับเมืองนี้ เส้นทางเที่ยวตามนี้ครับ
ที่พัก โรงแรม Kanazawa Central Hotel Annex ราคา 1,400บาทรวมอาหารเช้า สามารถเดินจากสถานี JR บริเวณใกล้โรงแรมมีร้านอาหารอยู่บ้าง แต่ภายในโรงแรมเป็นซอยเล็ก ๆ โรงแรมจะให้คูปองเราไปยืนที่ร้านอาหาร อาหารเช้าอยู่ตึกฝั่งตรงข้ามชั้น 2 อาหารเช้าดีมากครับ
อย่าลืมแวะถ่ายรูปหน้าสถานี JR. Kanazawa ถือว่าได้มาสร้าง Landmark แล้วที่เมืองนี้แล้ว ใกล้เคียงมีห้างสรรพสินค้า เราได้ไปกินข้าวเย็นที่ชั้น 6 เพราะในเมืองนี้ ดูเงียบ ๆ ของกินร้านดัง ๆ ก็พอมี แต่เน้นสะดวกไว้ก่อน ข้าวหน้าไข่ข้น อร่อยใช้ได้เลยนะ เมืองนี้มีเวลาเที่ยวได้แค่ช่วงบ่ายเท่านั้น ตกค่ำ ก็เงียบกริบ ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อ ในห้างข้าง JR เห็นมีโรงภาพยนตร์อยู่ ก็น่าดูนะ แต่แพงไปหน่อย
ไปไหนบ้างวันนี้
Kenrokuen Garden เวลา มาญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่ญี่ปุ่นมีไม่เหมือนใคร ก็ต้องเป็นการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่ถือได้ว่า เป็นสวนที่สวยที่หนึ่งในประเทศนี้ จากจุดลงรถบัสหน้าสวนที่นั่งมาจากสถานี JR ก็เดินขึ้นทางลาดไปไม่ไกล ระหว่างเดินมีร้านขนม ของกินให้พอได้ชิมรองท้อง จะได้มีแรงเดินในสวนได้นาน ๆ บริเวณจุดขายตั๋วค่าเข้า 800เยน ฝั่งตรงข้ามจะเป็นปราสาทคานะซาวะ แค่เดินข้ามสะพาน ที่เชื่อมต่อกันก็ไปถึงปราสาทแล้ว
ภายในสวนแห่งนี้ กว้างขวาง Highlight ที่ต้องไปชม ก็มีสวนหินกลางน้ำ จุดชมวิวเมือง ส่วนจัดแสดงพิธีชงชา แต่ที่ตั้งใจมาที่นี่ คงเป็น สวนที่มีต้นไม้มากมาย ที่มันกำลังเปลี่ยนสีนั่นเอง และเราก็ได้เห็นเต็มไปหมด ทั้งเหลือง แดง ส้ม ทั้งที่กำลังเปลี่ยนสี หรือใกล้หมดวาระของมันแล้ว
Kanazawa Castle ได้แค่เข้าไปเดินชมตัวปราสาทข้างใน ภายในเป็นลานกว้างขวางมากกกกก ตัวปราสาทคงกำลังบูรณะอยู่ เดิน 15 นาทีก็ออกเลย
Higashi Chaya หมู่บ้านโรงน้ำชาโบราณ ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารบ้านเรือน ที่สื่อถือความเป็นญี่ปุ่น ดูได้จากวัสดุที่ทำจากไม้เป็นหลัก ภายในยังคงสภาพสมัยอดีต แถมยังมีกิจกรรมให้ทำ และยังเดินเข้าไปชมภายในแต่ละบ้านได้อีกด้วย สิ่งหนึ่งที่เมืองนี้ยังคงเป็นเสน่ห์ นั่นคือ ร้านน้ำชา ที่หาได้ง่าย แต่การนำทองคำมาประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่วางขายในย่านนี้ ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่แปลกตา และทำให้อยากได้มันมาครอบครองมาก เช่น เครื่องสำอางที่ใส่ส่วนผสมของทองคำเข้าไป มาส์กทองคำ ไอติมที่มีแผ่นทองคำวางเป็น topping
ถ้าเดินไปจนสุดตรอก จะเจอศาลเจ้าแห่งหนึ่ง Utasu Shrine ที่เดินไปเพราะว่า เห็นใบไม้เปลี่ยนสี สีแดงสดนั่นเอง คงเป็นศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับนินจา แน่เลย เพราะเห็นรูปปั้นนินจา อยู่ภายในศาลเจ้า จุดขึ้นลงรถบัส ใกล้สะพาน ใช้เวลารอรถบัส ไปแวะถ่ายรูปวิวเมือง คู่กับแม่น้ำ ก็ดีไม่น้อย
21st century museum อยู่ไม่ไกลจากปราสาทเท่าไร เป็นพิพิทภัณฑ์ศิลปะที่มีเอกลักษณ์ สังเกตได้จาก เขาวงกลดสีรุ้งที่ตั้งแสดงอยู่ข้างหน้า ภายในจะเป็นแบ่งโซน แต่ต้องซื้อตั๋วเข้าไปข้างนอก แต่ก็ยังมี Free Zone สำหรับสายประหยัด สามารถเข้าไปชมสระว่ายน้ำ ที่มองเห็นคนที่เดินอยู่ข้างล่าง แต่ละเดือน น่าจะนิทรรศการที่จัดแสดงฟรี รอบที่เราไป มีแสดงรูปศิลปะ แนวอารมณ์ที่สื่อออกมาจากความเป็นญี่ปุ่น มันดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ได้ดี
– T O Y A M A –
ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจมาเมืองนี้ แต่มันเป็นเมืองที่แวะเพื่อต่อรถไฟไป Takayama เพื่อไปพัก1คืน ช่วงเช้ามีเวลาพอสมควร เลยตัดสินใจแวะเที่ยว โดยไม่ได้รีวิวมาก่อน เปิดหาตอนนั้น ก็เดินเที่ยวเลย แทนที่จะชิว ๆ สัก 1-2ชั่วโมง กลับอยู่นานกว่าที่ตั้งใจไว้ เพราะยิ่งเดิน ยิ่งชอบ แต่ก็เดินเยอะไปนิด วนไปวนมา เพราะหลงนั่นเอง
ที่เที่ยวมีอะไรบ้าง
Toyama Castle Park เดินออกจากสถานี แล้วมุ่งตรงตามถนนไปเลย เมืองนี้เงียบ ๆ ไม่ค่อยมีคน ระหว่างทางเจอคลองเล็ก ๆ แต่มันสวยว่ะ สองข้างทางของคลองนั้น ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ตลอดแนวคลองเลย ถ้าได้ล่องเรือด้วยนะ OMG!!!
ปราสาท Toyama เรียบ ๆ ดูคล้าย ๆ ที่ Nagoya ไม่ใหญ่โต แต่โครงสร้าง สีสัน เหมือนย่อส่วนมา (หรือใครสร้างเลียนแบบใคร อันนี้ไม่รู้) ภายในสวนดูร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ที่ประดับตบแต่ง รอบ ๆ สระน้ำ แต่ละต้นกำลังแข่งกันเพื่อชิงความสวยงามอยู่กันแน่ ๆ สวนนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางตึก บ้านช่องสมัยใหม่ เขาอนุรักษ์ไว้ได้ดีจังเลย ++
Toyamaken Fugan Unga Kansui Park ระหว่างทางที่จะไปก็เดินผ่านอีกสวนนึงด้วย จขกท. ต้องเดินย้อนไปทาง JR Toyama แล้วเดินออกข้างหลังสถานีอีกที แล้วเดินตรงไปทางแม่น้ำ ระหว่างทางส่วนนึง มีทางเดินใต้ถนน เดินมาสักพักก็เกือบเที่ยงพอดี ได้ยินเสียงนาฬิกาดนตรี กำลังบรรเลงอยู่ มีตัวการ์ตูน 4วัน ออกมาจากนาฬิกา แล้วกำลังแสดงดนตรีให้เราฟัง นั่งพักให้หายเหนื่อย สัก 10นาที ก็ดีไม่น้อยนะครับ แล้ว จขกท. ก็ตรงไปยังจุดหมาย
“OoOoOoOoOoO’’ ตาโต ตกตะลึง ตีลังกา (เว่อร์) ในความสวยของร้านกาแฟ Starbucks ที่สร้างมาเพื่อให้กลมกลืนกับสถานที่แห่งนี้ ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำบนเนินใกล้กับถนนข้างบน ถ้าเรามองจากจุดแรกที่เดินถึง Park นี้ จะเห็น สะพาน Tenmon-kyo อยู่ท่ามกลางแม่น้ำ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ก็ว่าได้ ที่แรกที่ต้องมุ่งตรงไปเลย คือ Starbucks แน่นอน สั่งกาแฟกับขนม แล้วหาที่นั่งข้างนอก กินบรรยากาศ แล้ว สุดยอดที่สุด “กาแฟหลักร้อย วิวหลักแสน” นั่งจนลืมเวลาไปเลย
จนเกือบจะบ่ายสอง มองดูนาฬิกา เวรกรรม รถไฟขบวนที่ต้องต่อไป Takayama ใกล้จะออก ถ้าไม่ทันรอบนี้ต้องรออีก 1-2ชั่วโมง วิ่งจนหอบ พร้อมกับคู่ฝรั่งอีก ตอนแรกวิ่งถึงสถานี ต้องทันแน่ ๆ เค้าไปปุ๊บ อ้าว ทำไมหา ชานชาลาไม่เยอะ คุณพระ !!! ชานชาลา ต้องวิ่งไปข้างในอีกต่อหนึ่ง วิ่งก็วิ่ง … (มีสัมภาระด้วย) เหยียบบนรถปั๊บ รถไฟมันออกเลยครับท่าน (สุดยอดตีนผีมาก)
และยังไม่จบ คือ ขบวนนี้จะมีตู้แบบจองและแบบไม่ต้องจองที่นั่ง ตอนขึ้นไปไม่ได้สังเกตเอง มันน่าจะติดอยู่ข้างนอกตู้ คือหาต้องทางเข้าไม่เจอ (สงสัยตาไม่ได้) พอพนักงานมาตรวจตั๋ว เราก็ยื่น Pass ไปปกติ ไงล่ะ ตู้จองที่นั่งครับท่าน พี่แกก็เดินออกไปสัก ไม่รู้ไปไหน แล้วก็เดินกลับมา บอกว่า คราวหน้า ให้ระวังด้วยนะ .. รอดตัว !!
ที่พัก โรงแรม Spa Hotel Alpina Hida Takayama ต้องการโรงแรมที่มีออนเซ็น และอยากเห็นวิวเมืองด้วยในตัว ตัวเลือกแรกที่อยากพัก คือ Hida Hotel Plaza แต่ไปเจอดีลส่วนลดใน Booking.com ของโรงแรมนี้ เลยตัดสินใจจองไปเลย เพราะมันใกล้สถานี ใกล้ที่เที่ยว ใกล้ที่กิน แถมเป็นโรงแรมใหม่ ห้องพักสะดวกสบายดี ส่วนของออนเซ็นนั้นอยู่ชั้นบนสุด มีให้บริการทั้งภายในอาคารและภายนอก เห็นวิวเมืองสมใจ เดินเที่ยวจนเหนื่อย ก็แวะมาแช่น้ำตอนอากาศหนาวเนี่ย ๆ มันได้ feel จริง ๆ
ที่เที่ยวประจำเมือง
Nakabashi Bridge สะพานสีแดง เอกลักษณ์ของเมือง งานเทศกาลประจำเมือง เทศกาลทาคายาม่ามัตสุริ Takayama Matsuri ก็จัดขึ้นที่นี่ เกี้ยวสำหรับพิธียาไต(yatai) ซึ่งเกี้ยวจะได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม บางส่วนถ้าเดินในเมืองจะเห็นว่าจัดแสดงไว้อยู่แล้ว แต่ก็จะมีตั้งไว้ที่พิพิธภัณฑ์ด้วย ซึ่ง จขกท. ไม่ทัน มันเปิดพอดี
Takayama Old Town ย่านเมืองเก่าโบราณ ทอดตัวยาวหลายช่วงถนนเลย มีทั้งร้านอาหาร ร้านเหล้า (คงเป็นของขึ้นชื่อ คงไว้ดื่มคู่กับเนื้อฮิดะ)
Tensho-ji Temple วัดที่อยู่บนเขา ของเมืองนี้ เดินจากย่านเมืองเก่า ที่มาเพราะในเมืองยังไม่เจอใบไม้เปลี่ยนสีเท่าไรเลย คิดว่า ข้างบนคงมีให้ดูบ้าง ก็ได้เห็นจริง ๆ แต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไร
ของกิน แนะนำ
1. Heianraku เจอใน TripAdvisor ตอนนั้น (Nov 2016) ร้านคุณป้าอยู่อันดับ 1 ร้านแนะนำ เลยไปลองกิน ทางเข้าร้านเป็นม่านสีน้ำเงิน ลายมังกร หาไม่ยาก มีอาหารทั้งอาหารญี่ปุ่น มังสวิรัติ อาหารที่สั่งคือ เกี๊ยวซ่า ข้าวผัด และราเมง แล้วคุณป้าแถมลูกชิ้นมาให้กินเพิ่มด้วย อาหารอร่อย แต่ที่เหนือกว่าอาหาร คือการบริการ ป้ากับลุงจะชวนคุยตลอดเลย แนะนำนู้นนี่ ยิ่งพอบอกว่าเป็นคนไทย ก็เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวไทยให้ฟัง ในร้านป้า เหมือนกินข้าวในบ้านเลย มีรูปสถานที่ท่องเที่ยว จากลูกค้าเต็มไปหมด แถมป้าแก พูดได้หลายภาษามาก เรานิอึ้งไปเลย
2. Thai Restaurant Thanyaporn ร้านอาหารไทยในเมืองนี้ ปกติเป็นคนชอบกินอาหารอีสาน ยิ่งส้มตำปูปลาร้า เนี่ย ของโปรดเลย มาเที่ยวหลายวันแล้วอยากกินอาหารไทยบ้าง เลยลองมากินดู ร้านอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ คุณป้าแต่งงานกับคนญี่ปุ่น แล้วเคยไปทำงานที่ตะวันออกกลาง (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วสามีย้ายกลับมาญี่ปุ่น เลยมาเปิดร้านอาหาร ตอนนี้ มีทำห้องพัก และพาเที่ยว ทำกรุ๊ปทัวร์ เที่ยวในเมืองด้วย อาหารก็พอทานได้ สั่งต้มยำไป แต่คงเป็นเพราะต้องปรับรสชาติให้เหมาะกับคนญี่ปุ่น ที่ไม่ทานรสแซ่บ เลยดูจืดไปสำหรับ จขกท. แต่ราคาก็พอใช้ได้เลยนะครับ อ่อ เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของ เนื้อวัว แต่เราทานไม่ได้ เลย จอ บอ.
– S H I R A K A W A G O –
รูป เยอะ หน่อย นะครับ
หมู่บ้านมรดกโลก ชิระคะวะโกะ คงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใครหลายคนอยากไปแน่ๆ ไม่ว่าจะฤดูหนาว ที่มีหิมะปกคลุมไปทั่ว หรือฤดูร้อน แต่คราวนี้ จขกท. ขอนำเสนอใน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อีกหนึ่งในหลายฤดู ที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ มีเสน่ห์ที่คอยให้เราทุกคนต้องกลับมาเยียน ที่นี่ ได้ขึ้นเป็น UNESCO World Heritage Site ตั้งแต่ปี 1995
จุดเด่นของที่นี่ คงเห็นกันทุกคนคือ การนำฟางมาพุงเป็นหลังคา เรียกว่า Gassho zukuri ซึ่งแต่ละฤดูจะทำให้ความงดงามของบ้านแตกต่างกันไป เช่น ถ้าหิมะตกก็จะปกคลุมบนฟาง ถ้ามองแล้วตัวบ้านก็สร้างด้วยไม้ ซึ่งดูเหมือนมีแค่ชั้นเดียว แต่ภายใน มี2-3ชั้น และดูกว้างขวาง ถ้าเทียบการดูจากภายนอก
หลังจากนั่งรถบัสมาถึง ก็เดินขึ้นชมวิวบนเขาก่อนเลย จากสถานีรถบัส มีป้ายบอกทางตลอด ทางเดินขึ้นเขานั้น พอให้รถผ่านทางได้ 1คันถ้วน เป็นทางลาดชัน แต่พอเดินได้ ประมาณไม่เกินสิบนาที ก็ถึงด้านบน … ปัง ปัง ปัง ++++++++ไม่อธิบายโนะ จากภาพเลยจ๊ะ พอได้หยุดหายใจสัก 30นาที เราก็เดินลงทางเดียว เพื่อไปชมตัวหมู่บ้านกัน
ซึ่งบริเวณนี้ จะมีทั้งบ้านที่คนอาศัยอยู่จริง ที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ชีวิตแบบนี้ทำให้เราอิจฉาเขาจริง ๆ ตัวหมู่บ้าน จะมีจุดแวะชมบ้านแต่ละหลัง แล้วแต่ความสนใจของแต่ละท่านเลย จขกท. ได้เข้าหลังหนึ่ง ภายในเป็นไม้เท่านั้น มี 3ชั้น แบบลอย ๆ ภายในมีอุปกรณ์ทำมาหากินสมัยก่อน ห้องกินข้าว ห้องนอน และภาพเก่าที่ถูกบันทึกไว้ เพื่อให้เรา ๆ ให้เห็นความเป็นมาตั้งแต่อดีต ที่นี่จะมีถนนเส้นหลักอยู่เส้นเดียว ซึ่งเสมือนเป็น walking street ได้เลย ร้านอาหาร ร้านของฝากที่ระลึก ร้านขายไอติม มีให้พอแวะอยู่ปะปลาย
แต่เรากำลังมุ่งตรงไปที่ Outdoor Museum Gassho Folk Museum ซึ่งเราต้องข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่ง ของหมู่บ้าน ที่นี่ ขอแนะนำระดับ ดาวสิบล้านดวงว่า ให้เข้าชมกันนะ มาญี่ปุ่น ห้ามพลาดโดยประการทั้งปวง จะตกรถ จะพลาดรถไฟ ก็ต้องเข้าเท่านั้น ภายในเป็นการนำบ้านทรงกัสโซ่จากหลากหลายแห่งในภูมิภาคแห่งนี้ มารวมอยู่ในนี้ที่เดียว คุณจะได้พบความมหัศจรรย์ ความอลังการ ความแปลกตา ความตะลึง ความ .. อะไรต่อมีอะไร สรุป ตามรูปเลย มันสวยจนเดินเพลินกันเป็นชั่วโมง ๆ เฉพาะเมืองนี้ ถ่ายรูปไปเยอะมาก เพราะชอบจริง ๆ ถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด