สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องราวของความเป็นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะด้านบันเทิง ท่องเที่ยว วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะเคยได้ยินคำว่า “ยุคเอโดะ” ผ่านหูกันมาบ้าง สิ่งที่เรารู้ก็คือ ในยุคนั้นโชกุนคือผู้ปกครองสูงสุด และมีซามูไรเป็นดั่งนักรบที่เก่งและเท่มากๆ แล้วเคยสงสัยไหมคะว่า ในยุคนั้นการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นเขาเป็นยังไง วันนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพา ทัวร์ญี่ปุ่น แบบย้อนเวลากลับไปสู่ยุคเอโดะกันที่ หมู่บ้าน โออุจิจูคุ (Ouchi-Juku) ในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) หมู่บ้านเก่าแก่ตั้งแต่ในสมัยเอโดะ ที่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยค่ะ
ทำความรู้จัก หมู่บ้าน โออุจิจูคุ
ย้อนเวลากลับไปในสมัยเอโดะ หรือประมาณปี ค.ศ. 1640 หมู่บ้านโออุจิจูคุ (Ouchi-Juku) ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางแหล่งธรรมชาติที่สวยงามและเทือกเขาสูง ทางตอนใต้ของเมือง ไอสุวากามัตซึ (Aizu-Wakamatsu) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในยุคนั้น ลักษณะเป็นบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณที่มุงหลังคาด้วยหญ้าแฝก เรียงรายเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยมีบ้านทั้งหมดประมาณ 50 หลังคาเรือน ซึ่งในสมัยนั้น โออุจิจูคุ เป็นเหมือนที่พักแรมของผู้ที่เดินทางผ่านไปมา เนื่องจากตั้งขนาบข้างถนนหลักที่ใช้ในการสัญจรในสมัยนั้น ที่มีชื่อว่า ถนนชิโมสึเกะ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรไอสุและเมืองอิไมจิ และเนื่องจากการเดินทางในสมัยก่อนยังไม่สะดวกสบายดังเช่นทุกวันนี้ การเดินทางไปยังเมืองต่างๆ จึงเป็นการเดินเท้าล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นโชกุน ขุนนาง หรือพ่อค้าก็ตาม
หมู่บ้านโออุจิจูคุ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2524 โดยได้รับการบูรณะปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งบ้านหลายๆ หลังก็ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหาร และที่พักแบบญี่ปุ่น เพื่อใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว และเมื่อนักท่องเที่ยวย่างเท้าเข้าไปในหมู่บ้าน โออุจิจูคุ จุดเด่นแรกที่มองเห็นได้ชัดเจนก็คือ ทางน้ำที่ไหลคั่นระหว่างบ้านและสองฝั่งของถนน ที่ใสเสียจนมองเห็นตะไคร่น้ำและฝูงปลาตัวเล็กๆ ซึ่งชาวบ้านก็จะนำผัก ผลไม้ หรือเครื่องดื่มต่างๆ มาแช่ไว้ในทางน้ำนี้ แทนการใช้ตู้เย็นตามวิธีแบบโบราณ
ไฮไลท์ของการเที่ยวในหมู่บ้าน โออุจิจูคู ที่ไม่ควรพลาด
– โออุชิจูคุ มะชินะมิ เท็นจิคัง เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งในอดีตเคยถูกใช้เป็นที่รับรองที่พักให้กับโชกุนและขุนนางจากแคว้นต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น ที่เดินทางผ่านมา ซึ่งปัจจุบันถูกปรับปรุงให้กลายเป็นศูนย์กลางให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนั้น โดยมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณจำนวนหลายพันชิ้น ที่จะทำให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สัมผัสบรรยากาศในอดีต
– ศาลเจ้าทะคะคุระ หรือ สุสานเจ้าหญิงสุคุระงิ ที่นี่มีความสำคัญคือเป็นแหล่งศูนย์รวมการจัดงานเทศกาลต่างๆ ของหมู่บ้าน
– ร้านค้าต่างๆ ที่หมู่บ้าน โออุจิจูคุ มีร้านขายของในหลายรูปแบบ ทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านขายสินค้าพื้นบ้านแบบญี่ปุ่น ร้านอาหารท้องถิ่น เป็นต้น
– การทาน เนงิโซบะ (Negi Soba) หรือที่เรียกอีกอย่างคือ โซบะต้นหอม เป็นเมนูเส้นโซบะที่โรยหน้าด้วยหัวไชเท้าขูดและปลาโอแห้งขูดฝอย เวลาทานจะใช้ต้นหอมยักษ์แทนตะเกียบ ในการคีบหรือเกี่ยวเส้นโซบะขึ้นมาแล้วทานไปพร้อมๆ กัน ทำให้ได้รสชาติที่หอมหวาน ทานแล้วทำให้ร่างกายสดชื่นแจ่มใส
– ซื้อของฝากประจำถิ่น อะกะเบะโกะ (Akabeko) เป็นภาษาถิ่นซึ่งมาจาก เบะโกะ ที่แปลว่า วัว และ อะกะ ที่แปลว่า สีแดง แปลรวมกันว่า วัวแดง ในอดีตอะกะเบะโกะเป็นของเล่นที่ทำจากกระดาษแล้วใช้สีแดงทาทับไปทั้งตัว ซึ่งชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนในแถบฟุกุชิมะเชื่อว่า สิ่งนี้จะช่วยปัดเป่าและขจัดสิ่งชั่วร้ายไม่ให้ทำอันตรายแก่เด็กๆ
บรรยากาศในหมู่บ้านโออุจิจูคุทั้ง 4 ฤดู
นอกจากไฮไลท์ต่างๆ ในหมู่บ้านที่พี่เห็ดแนะนำมานี้ ธรรมชาติโดยรอบของหมู่บ้านยังสวยงามและอุดมสมบูรณ์มากๆ ซึ่งในแต่ละฤดูของที่นี่ก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป แต่ก็เที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ
– ฤดูใบไม้ผลิ (เดือน มี.ค. – พ.ค.) ในช่วงนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะเริ่มกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้งหลังจากผ่านช่วงฤดูหนาวมา จะมีดอกไม้บานเป็นสีสันสวยๆ อยู่ตามจุดต่างๆ อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนและไม่หนาวจัด
– ฤดูร้อน (เดือน มิ.ย. – ส.ค.) ช่วงฤดูร้อนท้องฟ้าจะแจ่มใส มีแสงแดด ถ่ายรูปสวย ต้นไม้เป็นสีเขียวขจี อากาศไม่ร้อนจัดจนเกินไปเนื่องจากตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา
– ฤดูใบไม้ร่วง (เดือน ก.ย. – พ.ย) อากาศจะเริ่มกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง พร้อมกับใบไม้ที่ค่อยเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีส้ม แดง เหลือง ใครชอบถ่ายรูปวิวธรรมชาติ แนะนำให้มาช่วงนี้เลยค่ะ อากาศก็เย็นสบาย เดินเล่นรอบหมู่บ้านได้
– ฤดูหนาว (เดือน ธ.ค. – ก.พ.) คนชอบหิมะต้องไม่พลาด ทัวร์ญี่ปุ่น ในช่วงนี้เลยค่ะ ทั่วทั้งหมู่บ้านจะมีหิมะสีขาวปกคลุมหนาแน่น ดูเป็นภาพที่สวยงามไปอีกแบบ และอากาศก็หนาวเย็นมากเช่นกัน อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อม
การเดินทางสู่ โออุจิจูคุ
- นั่งรถไฟจากโตเกียวไปยังสถานีปลายทาง Yunokami Onsen โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชม. 40 นาที โดยเริ่มจากสถานี Ueno นั่ง Shinkansen Tohoku ไปลงสถานี Koriyama จากนั้นนั่งรถไฟสาย JR Ban-etsu-Saisen ไปสถานี Aizu-wakamatsu แล้วนั่งรถไฟสาย Aizu ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen จากนั้นนั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาที
- นั่งรถไฟจาก Tochigi ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. 30 นาที โดยเริ่มจากสถานี Kinugawa-Onsen แล้วนั่งรถไฟสาย Tobu ไปยังสถานี Aizukogen-Ozeguchi จากนั้นนั่งรถไฟสาย Aizu ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen แล้วนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาที
- นั่งรถไฟจาก Sendai ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม. 15 นาทีโดยเริ่มจากการนั่ง Shinkansen Yamabiko ไปสถานี Koriyama จากนั้นนั่งรถไฟสาย JR Ban-etsu-Saisen ไปสถานี Aizu-wakamatsu และนั่งรถไฟสาย Aizu ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen แล้วนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาที
รายละเอียดการเข้าชมหมู่บ้าน โออุจิจูคุ
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 250 เยน, เด็ก 150 เยน
เว็บไซต์ : http://ouchi-juku.com
เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่เหมือนได้พาเราย้อนเวลากลับไปสู่อดีต และยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อน นอกจากบรรยากาศความเก่าแก่แล้ว ธรรมชาติรอบๆ หมู่บ้านก็ยังสวยงาม อากาศดี มา ทัวร์ญี่ปุ่น ซึมซับบรรยากาศแบบเอโดะในอดีตกันได้เลยค่ะ