@MushroomTravel
มีคนเคยบอกว่า สิ่งสำคัญของการเดินทางอาจไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นเรื่องราวระหว่างการเดินทางต่างหาก หากแต่คำนี้อาจใช้ไม่ได้สำหรับ อุทยานแห่งชาติโอเซะ เพราะทุกจุดทุกย่างก้าวสวยงามและน่าหลงใหลตั้งแต่เริ่มต้น
อุทยานแห่งชาติโอเซะ เป็นอุทยานที่มีจุดเด่นอยู่ที่ “บึงน้ำ” เพราะบึงน้ำของอุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก ทั้งยังมีพื้นที่ที่กว้างมาก ครอบคลุมถึง 4 จังหวัด คือ จังหวัดฟุกุชิมะ โทจิงิ นีงะตะ และกุนมะ อุทยานแห่งชาติโอเซะมีระบบนิเวศที่หลากหลายและทัศนียภาพที่งดงาม รวมทั้งพื้นที่ยังเป็นที่โล่งกว้าง และบริเวณอุทยานฯ ถูกห้อมล้อมด้วยเทือกเขา จึงเป็นสถานที่ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติทั้งป่าไม้ ดอกไม้ ภูเขา และบึงน้ำได้รอบตัว มาที่เดียวเรียกว่าครบจบทุกธรรมชาติ ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์มาก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักเดินป่าเลยทีเดียว เหมาะแก่การมาเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ผจญภัยกางเต็นท์หรือจะมาแบบพักผ่อนหย่อนใจก็ยังไหว และไม่ว่าจะมาเฮฮากับคนในครอบครัว ทดสอบความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อนฝูง สร้างบรรยากาศโรแมนติกกับคนรัก หรือแม้กระทั่งจะเดินป่ารับลมเปิดประสบการณ์ใหม่คนเดียวก็ยังน่าอภิรมย์ไม่ต่างกัน
อุทยานแห่งชาติโอเซะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน หรือช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม จะพบกับดอกลิลลี่อัลไพน์สีเหลืองบานสะพรั่ง และต้นฤดูใบไม้ร่วง หรือปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม จะพบกับทุ่งหญ้าสีเหลืองอร่ามและสีแดงสดใส แต่ช่วงฤดูหนาว หรือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม พื้นที่ส่วนใหญ่จะปกคลุมด้วยหิมะหนา ทำให้ผู้คนไม่ค่อยนิยมมามากนัก เรียกได้ว่าใครชื่นชอบความงามแบบไหนก็สามารถเลือกเองได้เลยนะจ้ะ แต่จุดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นภาพดอก Skunk Cabbages สีขาวบานสะพรั่งทั่วทั้งที่ลุ่มโอเซะงะฮะระ ในปลายเดือนพฤษภาคม และต้นเดือนมิถุนายน
ที่อุทยานแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกท่องเที่ยวได้ถึง 2 รูปแบบ คือ ที่ลุ่มโอเซะงะฮะระ (Ozegahara Marshland) เป็นที่ราบสูงชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร เป็นแหล่งของพืชและสัตว์ที่หายากและมีคุณค่า กล่าวกันว่าพื้นที่นี้เกิดขึ้นในสมัยยุคน้ำแข็งเมื่อ 1 หมื่นปีที่ผ่านมา พันธุ์พืชที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคน้ำแข็ง ก็ยังเติบโตได้กระทั่งในปัจจุบัน สำหรับเส้นทางการเดินป่ามีระยะทางยาวถึง 6 กิโลเมตร เส้นทางที่คนนิยมที่สุดคือ เส้นทางจาก ฮะโตะมะชิโตะเงะ (Hatomachitoge) ส่วนช่วงที่แนะนำให้มาเลยคือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะบริเวณที่ลุ่มโอเซะงะฮะระ จะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเหลืองหรือสีน้ำตาลลู่ลมอย่างสวยงาม รวมทั้งภูเขาที่ล้อมรอบยังแต่งแต้มไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วง และสถานที่แห่งนี้ใครจะมากางเต็นท์หรือจองที่พักกับอุทยานก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน
และอีกที่คือ บ่อน้ำโอเซะนุมะ (Ozenuma Pond) เป็นเส้นทางรอบๆ บ่อน้ำ โดยเดินแยกออกมามาจากทิศตะวันออกของที่ลุ่มโอเซะงะฮะระ ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วผ่านป่าอีกครึ่งชั่วโมง รอบบ่อน้ำมีระยะทางที่เดินทั้งหมด 6 กิโลเมตร การเดินทางไปพร้อมกระแสน้ำที่ไหลเอื่อยๆ มันช่างเป็นบรรยากาศที่สดชื่นอย่าบอกใคร และถ้าหากคุณโชคดี คุณอาจจะพบกับดอกไม้ขึ้นชื่อของอุทยานแห่งชาติโอเซะ อย่าง ดอก Skunk Cabbages ที่ออกดอกสีขาวบานสะพรั่งและดอกเดย์ลิลลี่สีเหลืองอร่ามที่บานชูช่อละพื้นหนองน้ำ
แม้ว่าทางเดินของอุทยานแห่งชาติโอเซะจะค่อนข้างจะเป็นที่ราบเรียบ ปูทางเดินด้วยพื้นไม้กระดานตลอดทาง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับนักเดินทางมือใหม่ก็ควรจะเตรียมตัวและวางแผนก่อนการเดินทางด้วยนะ หรือหากใครอยากได้ความท้าทายมากกว่าเดินชิลล์ๆ ที่แห่งนี้ยังมีเส้นทางเดินเขาอีกด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง และอาจเพราะความที่อุทยานแห่งนี้ห่างจากโตเกียวเพียง 150 กิโลเมตร บวกกับความงามที่หาชมได้เกือบตลอดทั้งปี จึงเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาเดินป่าไม่ว่าจะพักค้างอ้างแรมหรือจะเดินเช้าเย็นกลับก็สะดวกไม่แพ้กัน