@MushroomTravel
ปัจจุบันการไปเที่ยวจีนก็สะดวกสบายขึ้นมาก เพราะคนไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าอีกต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังกังวลอยู่ก็คือ ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง ? ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไหม ? เพราะเดี๋ยวนี้ก็ได้ยินว่าหลายๆ พื้นที่เริ่มเป็นสังคมไร้เงินสด จ่ายเงินผ่านบัตรหรือการสแกน ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดใช้เทคโนโลยีก็อาจจะกังวลว่าจะจ่ายด้วยเงินสดได้หรือเปล่า ? วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะมาอธิบายฟัง กับ รวม วิธีจ่ายเงินที่จีน แบบสะดวกสุดๆ ใครที่กำลังจะไป ทัวร์จีน และยังไม่รู้ว่าจ่ายเงินผ่านช่องทางไหนได้บ้าง ตามไปดูกันเลย!
1. Alipay และ Wechat Pay
ถ้าถามว่า ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง คำตอบแรกๆ ที่ทุกคนจะได้ก็คือ ต้องมี Alipay ไม่ก็ Wechat Pay เพราะเป็นสองยักษ์ใหญ่ของจีนที่ให้บริการระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และเป็นสองแอปพลิเคชันที่คนจีนนิยมใช้กันมาก จึงจ่ายได้แทบทุกร้าน Alipay ดำเนินการโดย Ant Group บริษัทในเครือ Alibaba ส่วน Wechat Pay ดำเนินการโดย Tencent Group ซึ่งสมัยก่อนการใช้งานแอปเหล่านี้ค่อนข้างยุ่งยากมากสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะต้องมีบัญชีธนาคารที่จีนด้วย แต่ปัจจุบันเขาอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถผูกบัญชีกับบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตได้แล้ว สามารถเติมเงินเข้าบัญชีได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
รูปแบบการใช้งานนั้นง่ายมาก เพียงแค่เปิดแอป สแกน QR Code ก็ชำระเงินได้ทันที สามารถใช้ได้ทั้งในการสั่งอาหาร เรียกแท็กซี่ จ่ายค่ารถไฟใต้ดิน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ จองโรงแรม หรือใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Alipay
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่เคยใช้งาน Alipay พี่เห็ดได้ทำคลิป >> How to ใช้งาน Alipay ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สามารถทำตามขั้นตอนได้เลย
2. TrueMoney
สำหรับใครที่ใช้ TrueMoney อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเลยว่า ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง เพราะ TrueMoney เขาร่วมมือกับ Ant Group เปิดบริการให้คนไทยสามารถสแกนจ่ายได้ทุกร้านที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ ซึ่งรวมแล้วมีมากกว่า 10 ล้านจุดทั่วประเทศ เรียกว่าครอบคลุมทุกบริการ ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เกต โรงแรม ฯลฯ
ข้อดีคือไม่ต้องวุ่นวายดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่ม หรือลงทะเบียนใหม่ ไม่มีการบวกค่าธรรมเนียม แถมเรทเงินก็ดี ไม่ผันผวนระหว่างวัน โดยเพื่อนๆ สามารถเช็กเรทเงินได้ทุกวัน เวลา 10.30 น. ซึ่งจะขึ้นโชว์ที่หน้าสแกนจ่ายเลย นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียเวลาคำนวณเงินเองด้วย เพราะระบบจะแปลงเงินบาทเป็นเงินหยวนให้อัตโนมัติ
3. บัตร Travel Card
Travel Card เป็นบัตรเดบิตประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้จ่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ข้อดีที่เหนือกว่า วิธีจ่ายเงินที่จีน แบบอื่นก็คือ เราสามารถแลกเงินล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารได้เลย จึงไม่ต้องเสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน ช่วงไหนอัตราแลกเปลี่ยนดีก็สามารถแลกเก็บเอาไว้ก่อนได้ อีกหนึ่งข้อดีคือช่วยให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย เติมเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น การชำระเงินก็ทำได้สะดวก ทั้งรูดบัตร สแกนจ่าย และยังสามารถกดเงินสดผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศได้ด้วย
ปัจจุบันมีหลายธนาคารที่ให้บริการ เช่น KTB Travel Card ของธนาคารกรุงไทย, SCB Planet ของธนาคารไทยพาณิชย์, TTB All Free ของธนาคารทีเอ็มบีธนชาต, บัตร YouTrip ของธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากรู้ว่าบัตรแต่ละใบแตกต่างกันอย่างไร และจะเลือกใบไหนดี พี่เห็ดตอบไว้ให้แล้ว สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เปรียบเทียบ 7 บัตร Travel Card ไปต่างประเทศ ใบไหนคุ้มสุด?!
4. เงินสด
สุดท้าย เงินสด ก็ยังเป็น วิธีจ่ายเงินที่จีน ที่สามารถทำได้ ใครที่บอกว่าร้านค้าในจีนเขาไม่รับเงินสดกันแล้ว บอกเลยว่าไม่จริง! ยังใช้ชำระได้หมด ไม่ว่าจะเป็นค่าแท็กซี่ ค่าอาหาร ซื้อของในร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ จะมีเพียงบางร้านเท่านั้นที่ไม่รับเงินสดเลย เพราะฉะนั้นใครไม่เก่งเทคโนโลยีก็ไม่ต้องกังวลว่า ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง แต่ถึงแม้ว่าจะมีแอปฯ หรือบัตรต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย แต่พี่เห็ดก็แนะนำว่าควรแลกเงินสดไปด้วย เผื่อว่าช่วงนั้นสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดี สแกนไม่ผ่าน ระบบค้าง ก็ยังสามารถจ่ายด้วยเงินสดแทนได้
เพื่อนๆ คงจะได้คำตอบกันแล้วนะคะว่า ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง ได้บ้าง พี่เห็ดว่าการที่ประเทศจีนเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ก็ดีเหมือนกันนะ นักท่องเที่ยวอย่างเราก็สะดวกสบาย และปลอดภัยขึ้นเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำเงินหาย หรือเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรม แค่มีติดตัวไว้หน่อยเผื่อฉุกเฉินก็พอแล้ว