พอเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเมืองไทย คนส่วนใหญ่ก็มักจะพับแผนการท่องเที่ยวเอาไว้ก่อน เพื่อเก็บเงินไว้เที่ยวในช่วงท้ายๆ ปี หรือไม่บางครอบครัวก็อาจจะเลือกเดินทางไปเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นที่ต่างประเทศ เพราะมีราคาถูกกว่าช่วงไฮซีซั่นนั่นเอง ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น หากใครที่ไม่รำคาญกับฝนตกรถติด และความเฉอะแฉะที่เกิดจากสายฝนพรำแล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่หากเป็นครอบครัวก็คงเลือกที่จะเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นน้ำตก ที่มีอยู่มากมายในประเทศไทย เรียกว่ามีแทบทุกภาค ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงที่น้ำตกจะมีน้ำให้ได้เล่นกันอย่างเต็มที่ ไม่แห้งเหือดดังเช่นฤดูอื่นๆ หรือไม่บางท่านบางกลุ่มก็เลือกที่จะไปล่องแก่งกันในหมู่เพื่อนฝูงที่รักความตื่นเต้นและท้าทาย
เที่ยว.. ภูหินร่องกล้า ชมทุ่งเปราะภูขาว ดอกไม้ในหน้าฝน
แต่ถ้าให้ผมแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงหน้าฝน ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ผมคงแนะนำอุทยานภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก นั่นก็เพราะฤดูฝนจะเป็นช่วงที่ดอกไม้ป่าชนิดต่างๆ ที่หาชมได้ยากจะเริ่มเบ่งบาน นับตั้งแต่ย่างเท้าก้าวเข้าสู่พื้นที่อุทยาน ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยดอกไม้น้อยใหญ่ที่กำลังบานสะพรั่งอวดสีสันกันสุดฤทธิ์
อย่างไรก็ดี ไฮไลท์ของอุทยานภูหินร่องกล้าจะเริ่มขึ้นประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคมครับ ซึ่งคุณสามารถขับรถมาเที่ยวเองก็ได้ เพราะที่นี่จะลานจอดรถไว้พร้อมสรรพ จากนั้นก็เดินตามเส้นทางเข้าไป ณ บริเวณที่เรียกว่าลานหินปุ่มต่อเนื่องไปจนถึงผาชูธงได้เลย โดยเส้นทางนี้จะมีลักษณะทางเดินเป็นวงกลม โดยที่เราจะเลือกเดินทางไปซ้ายก่อนหรือไปทางขวาก่อนก็ได้ครับ เพราะยังไงก็แล้วแต่ สุดท้ายมันก็ต้องกลับมาบรรจบกันที่เดิมอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทางเลยครับ นอกจากนั้นในช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่อากาศดี ไม่มีแดดที่ร้อนจัด มีแต่สายหมอกที่ปกคลุมไปตามทางเดิน จึงเหมาะสำหรับการเดินป่าชมดอกไม้มากกว่าช่วงฤดูอื่นๆ
ทั้งนี้การมาเที่ยวลานหินปุ่มในช่วงหน้าฝนนั้นจะแตกต่างจากช่วงอื่นๆ ตรงที่ ท่ามกลางปุ่มหินตะปุ่มตะป่ำที่เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติหลายสิบไร่ไปจนจรดหน้าผานี้ จะไม่มีเพียงแค่หินสีน้ำตาลที่ดูแห้งแล้งเหมือนเช่นเคย แต่กลับเต็มไปด้วยสีเขียวของพืชตระกูลมอส เฟิร์นที่ปกคลุมบนก้อนหินไปทั่วบริเวณ และแซมด้วยดอกไม้เล็กๆ สีม่วงที่ไม่ทราบชื่อ รวมถึงกอพลับพลึงป่า ดอกหงส์ทอง ดอกเอนอ้า ดอกลิ้นมังกรส้ม รวมถึงดอกไม้ไฮไลท์ที่ต้องไปเห็นให้ได้อย่าง “เปราะภูขาว”
เปราะภูขาวคืออะไร?? หลายคนอาจสงสัยและไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เปราะภูขาวก็คือดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เป็นพืชในตระกูลขิงและข่าซึ่งมีเหง้าอยู่ใต้ดินนั่นเองครับ และจริงๆ แล้วดอกเปราะภูมิได้มีแต่เพียงสีขาวเท่านั้นนะครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วดอกไม้ชนิดนี้จะมีสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ พบได้ทั่วไปตามภูเขาสูงในหน้าฝน แต่มีเฉพาะที่ลานหินปุ่ม ณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านี้เท่านั้น ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความงามของดอกเปราะภูสีขาวได้เพียงที่เดียว
ดอกเปราะภูขาวมีลักษณะคล้ายกับดอกกล้วยไม้ สีขาว มีเกสรสีเหลือง ตัดกับสีเขียวเข้มของลำต้นอย่างโดดเด่น ดอกไม้ชนิดนี้ถือเป็นเจ้าหญิงประจำฤดูฝนของภูหินร่องกล้า ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่าง จึงทำให้เปราะภูที่นี่มีสีขาวอันเป็นความพิเศษที่แตกต่างจากดอกเปราะภูทั่วไป ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จะสามารถชมความงามของดอกเปราะภูสีขาวที่แต่งแต้มลานหินให้ดูพิสุทธิ์อ่อนหวาน ได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมเท่านั้น
การเดินทางไปชมดอกเปราะภูขาวนั้นไม่ยากเลย สามารถขับรถขึ้นเขามาได้ทางอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกครับ ทางเส้นนี้จะไม่สูงชันมากนัก จึงเดินทางได้สะดวกสบาย หรือใครที่มาเที่ยวภูทับเบิกอยู่แล้ว ก็สามารถเดินทางต่อมายังภูหินร่องกล้าได้ในระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น แต่แนะนำไว้อย่าง หากคุณรักธรรมชาติจริง ก็แนะนำว่าถ่ายเพียงแค่รูป และเก็บความงามของดอกไม้นี้ไว้เฉพาะในความทรงจำเท่านั้นเถิดครับ อย่าได้คิดเด็ดมันออกมาจากต้นเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.khaoko.com
และขอขอบคุณรูปภาพจากคุณ doctor K